เมื่อได้ยินคำพูดของเหลิ่งหยุน ฉินเทียนก็ตกใจจนอ้าปากค้าง เขาไม่เคยคาดคิดมากก่อนเลยจริงๆ ว่าที่นี่จะมีความซับซ้อนได้อย่างคาดไม่ถึงเช่นนี้
เรื่องการตายของคู่สามีภรรยาเหลิ่งจุ้นจะต้องมีความลับอื่นซ่อนไว้อยู่แน่นอน คาดไม่ถึงว่าจะมีใครบางคนริเร่มที่จะบอกกับเหลิ่งหยุน
และคนคนนั้น เป็นไปได้มากว่าจะเคยเป็นศิษย์เก่าของมหาลัยโทยามะกับแม่ของเหลิ่งหยุน
เช่นนั้นที่จริงแล้วเธอคือใครกันล่ะ?
เพราะอะไรถึงไม่ยืนขึ้นมาตรงๆ และทำไม จะต้องรอให้ถึงสองปีถึงค่อยแจ้งเหลิ่งหยุนกันล่ะ?
ภายในนี้ ที่จริงแล้วอาจจะมีแผนร้ายที่บอกใครไม่ได้อยู่?
ขบวนความคิดของฉินเทียน เริ่มสับสนขึ้นมาเล็กน้อยอย่างกะทันหัน
นอกจากนี้ ทันใดนั้นเขาก็คิดขึ้นมาว่า เพราะอะไรถึงต้องเป็นมหาลัยโทยามะด้วยล่ะ? เรื่องราวนี้ มันมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของหูรั่วหลันด้วยหรือเปล่า?
เมื่อมองดูแล้วดูเหมือนว่าคนกับเรื่องราวไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ฉินเทียนยังคงรู้สึกอยู่ตลอดว่า ภายในเรื่องนี้มีอะไรเกี่ยวข้องกัน
แต่ทว่าคิดจนสมองจะแต่ก็ยังไม่ชัดเจนอยู่ดี
เหลิ่งหยุนยิ้มอย่างเสน่ห์ พลางกล่าวว่า "อย่าว่าแต่พี่คิดไม่ออกเลย แม้แต่ฉันก็คิดไม่ออกเหมือนกัน"
"แต่ฉันเชื่อว่า ไม่นานนี้ จะต้องมีคำตอบอย่างแน่นอน พวกเราแค่รอการแลกเปลี่ยนการแข่งขันครั้งใหญ่ของอู้ไถให้ดีก็พอ"
"แล้วอีกอย่าง——"
"เกิดอะไรขึ้นกับโพสต์ฉลองวันเกิดอันนั้นน่ะ?"
"ฉันอยากจะรู้จริงๆ หลังจากนี้หนึ่งเดือน เป็นวันเกิดของราชาแห่งสวรรค์คนไหน และราชาแห่งสวรรค์คนไหน ถึงได้คุ้มค่าให้พี่ระดมผู้คนมาเป็นจำนวนมากมายขนาด ที่ทำให้ส่งบัตรเชิญไปทั่วโลกได้"
โทนเสียงที่อยู่ข้างในนั้น รู้สึกเสียอกเสียใจเล็กน้อยอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ฉินเทียนยิ้มแล้วกล่าวว่า "ทำไม เธอหึงอย่างนั้นเหรอ?"
"หรือว่าคงจะไม่ใช่วันเกิดของราชินีงูของพวกเราหรอกใช่ไหม? ฉันจัดงานวันเกิดให้รุ่นน้องคนเล็กของตัวเอง คงไม่มีอะไรพอที่จะวิจารณ์ได้หรอกใช่ไหม?"
เหลิ่งหยุนเบ้ปาก แล้วกล่าวอย่างคับแค้นใจว่า "พี่ยังคงแกล้งฉันมาจนถึงตอนนี้เลยสินะ"
"ที่จริงแล้ววันเกิดของฉันไม่ใช่หนึ่งเดือนหลังจากนี้ ดังนั้นไม่มีทางเป็นฉันไปได้หรอก"
"ช่างมันเถอะ พี่ไม่อยากจะพูดก็ไม่ต้องพูดหรอก ขี้เกียจจะสนใจพี่แล้ว"
หลังจากที่เดินเป็นเพื่อนเหลิ่งหยุนครู่หนึ่ง ฉินเทียนก็หาข้อแก้ตัวแล้วจากมา
เฉินเสี่ยวอี้ใกล้จะหมดความอดทนแล้ว คืนนี้ ฉินเทียนจะต้องรับคำท้าทายของต้วนเตาหลิวมิยาโมโตะนะ
ทำไมเรื่องที่สำคัญเช่นนี้ คาดไม่ถึงเลยว่าฉินเทียนจะทำตัวเหมือนเป็นคนไม่มีเรื่องอย่างไรอย่างนั้น
เขาพาฉินเทียน กลับไปถึงห้องบอลรูมมูแล็งรูฌอย่างเร่งรีบ ให้ฉินเทียนกลับไปพักผ่อนที่ลานด้านหลัง แล้วเขาก็วิ่งเสาะหาไปโดยรอบ ไปยังที่ที่เร้นลับ และนำแผ่นดิสอีกสองสามแผ่นมาด้วย
"ฉันบอกว่า เด็กน้อยอย่างนายคงจะไม่เอาแผ่นหนังมาใส่ให้ฉันดูจริงๆ หรอกใช่ไหม?"
"บอกนายแล้วนี่ ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น——"
เมื่อเห็นเฉินเสี่ยวอี้ทำเป็นลึกลับซับซ้อน แล้วปิดม่านที่อยู่ในห้องทั้งหมด จากนั้นก็นำแผ่นดิสใส่ลงไปใรเครื่องเล่น ทำเอาฉินเทียนพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลยทีเดียว
เขายังคิดว่า เฉินเสี่ยวอี้ทำไปเพื่อประจบเขา ต้องการเล่นมรดกอันยอดเยี่ยมทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นให้เขาได้ดู
เมื่อภาพออกมา เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกแล้ว
ฉากนั้นเป็นป่าไผ่ เนื่องจากอุปกรณ์การถ่ายทำที่ไม่เป็นมืออาชีพ ดังนั้นภาพที่ออกมาดูแล้วเลือนรางเล็กน้อย
แต่ทว่า สำหรับเชี่ยวชาญอย่างฉินเทียนนี้ มองแค่เพียงแวบเดียว ก็สามารถมองเห็นสาระสำคัญที่อยู่ภายในได้
ชายชาวญี่ปุ่นสองคนที่อยู่ในชุดซามูไรสีดำยืนตรงอยู่ข้ามกัน แล้วยืนนิ่งอยู่ประมาณสามวินาที หนึ่งคนในนั้นก็แผดเสียงก้องออกมา ทันใดนั้นก็ชักดาบออกมา แล้วคนหนึ่งก็กระโจนไปข้างหน้า แล้วซามูไรก็จู่โจมด้วยดาบอย่างดุดัน
ซามูไรที่ถูกจู่โจม สีหน้าจริงจัง แล้วถอยหลังก้าวอย่างต่อเนื่องสามก้าว หลังจากนั้นก็ชักดาบออกมา แล้วตะโกนเสียงดังสนั่น และฟันลงไป
ดูแล้วธรรมดามาก ตัดขวางได้อย่างเก้งก้างมาก ฉินเทียนร้องเชียร์อย่างอดไม่ได้
ทิศทางของดาบ ดาบ โอกาส การสะบัดมันช่างงดงามมาก ดาบที่ฟันลงไป มันตัดขาดการรุกโจมตีของฝ่ายตรงข้ามทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์แบบ
"นี่คือเทคนิคต้วนเตาหรือเปล่า? เป็นวิธีการที่ค่อนข้างดีเลยจริงๆ" เขากล่าวชมเชย
เฉินเสี่ยวอี้กล่าวอย่างตื่นเต้น "พวกเขาทั้งสอง คนหนึ่งคือเทคนิคต้วนเตา อีกคนหนึ่งคือเทคนิคเตาหลิว"
"คุณยังต้องดูต่อไปอีก"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...