สรุปเนื้อหา บทที่ 771 การเดินทาง – บัญชามังกรเดือด โดย สวรรค์ไร้เทียมทาน
บท บทที่ 771 การเดินทาง ของ บัญชามังกรเดือด ในหมวดนิยายแฟนตาซี เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย สวรรค์ไร้เทียมทาน อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
เมื่อเผชิญกลับข้อสงสัยของฉินเทียนแบบนี้ ฉานเจี้ยนพลันเกิดความลังเลใจไปอยู่ครู่หนึ่ง พร้อมกับส่ายหน้าไปมา
“กระผมไม่ค่อยรู้ถึงรายละเอียดมากนักครับเพียงแต่เคยได้ยินเถ้าแก่ใหญ่พูดถึงยุทธภพแห่งอาณาจักรมังกรมาบ้างเท่านั้น”
ฉินเทียนรีบร้อนถามต่อขึ้นมาในทันที “อาจารย์ของผมพูดว่าอะไร?”
ฉานเจี้ยนจึงได้แต่กระซิบบอกเล่าออกมาว่า “เถ้าแก่ใหญ่กล่าวว่าการที่หลายตระกูลภายในอาณาจักรมังกรมากมายสามารถอยู่รอดจนสืบสกุลออกมาหลายชั่วอายุคนได้เช่นนี้พวกเขาย่อมมีเบื้องลึกเบื้องหลังภายในตระกูลมากกว่านั้น”
“ย่อมมิเหมือนกับฉากหน้าที่พวกเราคิดเห็นได้อย่างง่ายดายที่เพียงใช้เงินในการหล่อเลี้ยงเหล่าผู้มากฝีมือ เพื่อมิให้พวกเขาถูกล้มลงได้ง่าย ๆ ”
“เถ้าแก่ใหญ่เล่าว่า แม้แต่ตระกูลฉินแห่งซีเป่ยเองก็เช่นกัน ถูกล้วนแต่รับรู้เพียงว่าตระกูลฉินแห่งซีเป่ยเป็นหนึ่งในเขตซีเป่ย โดยไร้ศัตรูกล้ำกราย ทว่า ไม่มีผู้ใดรู้จัก ว่าเหล่าผู้นำของตระกูลต้องวางแผนมากมายถึงเพียงไหน”
“ผู้ที่สามารถวางแผนภายในตระกูลใหญ่เช่นนี้ได้ ย่อมถือว่าเป็นนักวางหมากชั้นยอด ทั้งด้านความแข็งแกร่งของจิตใจ ทักษะการวางหมากและความกล้าหาญนั้น ฉันสู้ไม่ได้เลยจริงๆ”
ภายในใจของฉินเทียนพลันกระตุกไปในทันที
เถ้าแก่ใหญ่แห่งตระกูลฉิน นั่นมิได้หมายถึงคุณย่าของเขางั้นหรือ?
หลังจากที่ได้ยินความหมายในคำพูดของเถ้าแก่ใหญ่แล้ว เกรงว่าเขาคงจะชื่นชมในตัวหญิงชราผู้นั้นมากจริง ๆ ?
เฮอะ บีบบังคับลูกชายตนเองไม่อาจตั้งหลักได้ จนต้องไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในอารามเต๋า บีบบังคับหลานชายตัวเองให้ออกไปจากบ้าน ให้ถูกผู้คนรังแกมิต่างจากสุนัขจรจัด
นี่น่ะหรือ คืออำนาจที่อยู่ในมือของหญิงชราผู้นี้?
ฉินเทียนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง!
บางทีเขาก็รู้สึกว่า ตัวเองอาจจะคิดมากจนเกินไป อาจารย์ของเขาที่เป็นถึงเถ้าแก่ใหญ่แห่งวิหารพญายมนั้น จะไปมีความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับตระกูลฉินได้อย่างไรกัน
ตระกูลฉินที่เป็นหนึ่งในตระกูลที่รุ่งโรจน์ที่สุดของอาณาจักรมังกร เกรงว่าเถ้าแก่ใหญ่คงจะบังเอิญพูดเรื่องนี้ขึ้นมาเสียมากกว่า
ฉินเทียนได้แต่ถอนหายใจออกมา พร้อมทั้งปัดความคิดที่ฟุ้งซ่านอยู่ออกไปให้หมด พลางแย้มยิ้มออกมาว่า “ในเมื่อเหลิ่งหยุนนาน ๆ จะมาสักทีหนึ่ง เช่นนั้นพวกเราควรจะมาฉลองกันหน่อย”
“ลุงฉาน ฆ่าแกะเถอะครับ”
“อย่าคิดว่าแม่นางหยุนจะเป็นหญิงสาวผู้บอบบางเลยนะครับ ทักษะการดื่มของเธอไม่น้อยเลยทีเดียว ”
ลุงฉานพลันหัวเราะออกมาเสียฉากใหญ่
“ในเมื่อคุณหนูใหญ่มาแบบนี้แล้ว ดังนั้น พวกเราก็ควรจะมาฉลองกันหน่อย!”
“ขอเพียงแค่คุณหนูใหญ่มีความสุข วันนี้ข้าจะดื่มเป็นเพื่อนทั้งวัน!เลย”
“เรื่องที่ฆ่าแกะ ข้าทำเอง!” หวูฉางพลันวิ่งวนไปที่คอกแกะราวกับลิงทโมนก็ไม่ปาน
ฉินเทียนจึงรีบโทรเรียกเหลยเป้าและเหลิ่งเฟิงให้มาด้วยกันในทันที
เหลิ่งเฟิงพลันเอาเรื่องที่เกิดขึ้นในสนามบินเมื่อวานนี้ ยกขึ้นมากลั่นแกล้งเหลิ่งหยุน พร้อมทั้งเอ่ยเรียกนางว่าน้องหยุนโดยไม่สนใจสิ่งใด พลางเอ่ยคะยั้นคะยอให้นางดื่มเหล้าเพื่อเป็นการลงโทษตัวเองไปหนึ่งขวด
หลังจากที่เอ่ยหยอกล้อเหลิ่งหยุนไปแล้วนั้น ใบหน้าของนางพลันแดงก่ำราวกับตับหมูสด ๆ ก็ไม่ปาน
ฉินเทียนหาได้พูดเกินจริงไม่ เหลิ่งหยุนผู้นี้มิรู้ว่าเป็นเพราะเหตุอันใด นางดื่มเหล้าราวกับน้ำเย็น ๆ ก็ไม่ปาน นับว่าคอทองแดงยิ่งนัก
เพราะนางที่เป็นถึงราชินีงูเช่นนี้ ทั้งเหลิ่งเฟิงและเหลยเป้าจึงไม่กล้าทำตัวเองอย่างเต็มที่ ไม่นานนัก พวกเขาก็ไม่อาจอดทนได้อีกต่อไป
พลางรีบโทรหาพี่ใหญ่ของพวกเขาในทันที เพื่อร้องขอความช่วยเหลือ
ภายในหน้าจอวิดีโอคอลนั้นเมื่อเฉินเอ้อร์กั่วและเนี่ยชิงหลงเห็นเหลิ่งหยุนดื่มเข้าไปจนใบหน้ากลายเป็นดอกท้อเช่นนั้น พวกเขาพลันตกตะลึงไปในทันที
พร้อมทั้งรีบมุ่งตรงไปยังโรงแรมที่ใกล้ที่สุด เพื่อร่วมดื่มฉลองด้วยในทันที!
ท้ายที่สุด เหลิ่งหยุนดื่มไปสี่ห้าโล ด้วยปริมาณเช่นนี้ หากเป็นฉินเทียนแล้วละก็ถ้าเขาไม่ได้ใช้กำลังภายในคอยช่วยบำรุง ก็คงจะดื่มไม่ไว้
ทว่า เมื่อเห็นเหลิ่งหยุนมีความสุขเช่นนี้ เขาจึงมิได้เข้าไปห้ามปรามแต่อย่างใด
ต่อแต่นี้ไป ฉินเทียนจักได้เริ่มการชีวิตในวันหยุดของเขาเสียที เขากลับมาโดยไม่คิดจะบอกลาคนอื่นก่อนเสียด้วยซ้ำ
หลังจากที่ไม่มีคนคอยมาวุ่นวายในเมืองหลงเจียงแบบนี้แล้วภายในอุทยานมังกรนั้น ฉินเทียนจึงได้แต่ตามติดซูซูไปทุกฝีก้าว
เขาพยายามหาทุกวิถีทางเพื่อให้เธอมีความสุข พร้อมกับทำของอร่อย ๆ ให้เธอกิน เมื่อฉินเทียนดูแลเอาใจใส่เธอเช่นนี้แล้ว อาการของซูซูจึงค่อย ๆ ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากนัก
นั่นจึงทำให้ฉินเทียนคลายความวิตกกังวลไปได้มากเลยทีเดียว เขาพลันรู้สึกว่าซูซูร่างกายอ่อนแอลง ถึงได้ทำให้เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นมา
พร้อมกับไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่น ๆ ขึ้นมาอีก
รวมไปถึง เขายังพาซูซูไปตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาลด้วยตนเอง ทุกอย่างกลับเป็นปกติ ทั้งเด็กที่อยู่ในครรภ์และซูซูต่างก็ปกติเป็นไปตามเกณฑ์ที่เหมาะสม
ทว่ามีสิ่งที่ทำให้ฉินเทียนรู้สึกหดหู่ยิ่งนักก็คือ หลังจากที่ทำการตรวจดูแล้วนั้น กลับพบว่าเด็กในครรภ์เป็นเด็กผู้ชาย
ก่อนหน้านั้น ทุกคนต่างก็พากันคาดการณ์เอาไว้แล้วว่า หากเด็กที่คลอดก่อนกำหนดเช่นนี้มักจะเป็นเด็กผู้ชาย แต่ภายในใจของฉินเทียนนั้น ยังคงคาดหวังให้เป็นเด็กผู้หญิง
ทว่าเมื่อเห็นท่าทีอึดอัดใจของฉินเทียนนั้น ซูซูก็ได้แต่แย้มยิ้มกล่าวออกมาว่า “เอาเถอะค่ะ หากคุณชอบเด็กผู้หญิงขนาดนั้น ไว้ฉันค่อยคลอดออกมาให้คุณอีกสักคนก็ได้”
อีกด้านหนึ่งก็เป็นเพราะ เรื่องราวที่น่าตกใจของหูเฟยและหานหลิง อีกด้านหนึ่งก็เป็นเพราะว่า เธอได้ยินเรื่องราวของหูเทียนมาจากปากของฉินเทียนมาก่อน
ในตอนที่ฉินเทียนตกต่ำถึงขีดสุดนั้น ก็เป็นหูเฟยที่คอยช่วยเหลือเขาเอาไว้มากมาย ในเมื่อตอนนี้หูเฟยกำลังจะแต่งงานทั้งที่ เธอก็อยากไปร่วมแสดงความยินดีกับพวกเขาที่นั่นเช่นกัน
ทว่า ฉินเทียนกลับไม่คิดเช่นนั้น
นั่นเป็นเพราะเมืองฮั่นอันตรายเกินไป!
อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับขอบเขตอำนาจของตระกูลฉินเก่ามากอีกด้วย
โดยเฉพาะช่วงเวลาที่น่าสิวน่าขวานเช่นนี้หากเกิดอะไรขึ้นมากับซูซูนั้น เขาไม่อาจแบกรับความผิดพลาดนี้ได้
ดังนั้น ฉินเทียนจึงได้แต่ให้สัญญากับซูซูเอาไว้แทนว่า หากมีโอกาสในคราหน้า หรือว่าหากลูกของพวกเขาคลอดออกมาแล้วนั้น ค่อยจัดงานเลี้ยงฉลองครบหนึ่งเดือนให้กับเขากัน
เมื่อถึงเวลานั้น ค่อยเชิญทั้งหูเฟยและหานหลิงมาร่วมงานด้วย
ซูซูจึงได้แต่พยักหน้าตกลงแทน ถึงแม้ว่าเธอจะไม่สามารถไปร่วมงานด้วยได้ ทว่าซูซูเองก็ได้ช่วยเลือกของขวัญไปให้หานหลิงด้วยความตั้งใจเช่นกัน
ยามจากกัน ย่อมรู้สึกอาลัยอาวรณ์
ฉินเทียนจึงได้พาเหลิ่งหยุน หวูฉางและชุยหมิงขึ้นไปยังเมืองอู่หูในทันที และเดินไปยังเขตอูหู่ของเมืองจิ่นหู
เมื่อได้ข่าวว่าพี่เทียนกลับมาแล้วนั้น เหล่าห้าพญายมแห่งนรกภายในเมืองทั้งหมด ทั้งเถียหนิงซวง หม่าหงเทา ถงชวน เถียปี้และอะเปิน รวมไปถึงเหล่าผู้ช่วยตัวฉกาจเช่นอีเจี่ยนเหมยและเถียเจี้ยงเอง
ก็พากันรีบร้อนมาถึงก่อนในทันที
เมื่อพวกเขาได้ข่าวว่าฉินเทียนมาเยือนซีเป่ยในคราวนี้ อาจจะเป็นไปได้ว่าฉินเทียนกำลังจะมาเปิดศึกกับตระกูลของตนเองโดยตรงเสียแล้ว ดังนั้นพวกเขาเอง ก็ต้องการที่จะร่วมรบในคราวนี้ด้วยเช่นกัน!
คนพวกนี้นั้น ล้วนแต่เป็นกลุ่มคนที่ฉินเทียนฝึกฝนและเลี้ยงดูพวกเขาขึ้นมา หากว่ากันตามจริงแล้ว ฉินเทียนก็อยากจะพาพวกเขาไปด้วยเช่นกัน
หากแต่ เขาก็รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาว่า หากทางใต้เกิดว่างเว้นไม่มีคนช่วยดูและขึ้นมา จักมีศัตรูฉวยโอกาสในยามนี้ เข้ามาก่อความวุ่นวายก็เป็นได้ เขายังไม่ลืมเรื่องที่สหพันธ์ธุรกิจทางเจ็ดเมืองตอนใต้นั้น ไปทำผิดต่อผู้ปกครองจินยีโหวแห่งเกาะตงไห่เอาไว้
ถึงแม้ว่าฝ่ายตรงข้ามในยามนี้จะยังไม่เคลื่อนไหวอะไร แต่นั่นก็มิได้หมายความว่า เขาจะยอมแพ้ไม่ทำการแก้แค้น
กลับกัน ยิ่งฝ่ายตรงข้ามเก็บเงียบนานเท่าไหร่ เกรงว่ายามเกิดระเบิดออกมา ผลลัพธ์ที่ได้จะร้ายแรงมากกว่าที่ควร
ดังนั้นแล้ว ฉินเทียนจำเป็นต้องไปพูดคุยหารือกับอานกั๋วเสียหน่อย
พร้อมกับ จัดการประชุมของสหพันธ์ธุรกิจทางเจ็ดเมืองตอนใต้ขึ้นมาครั้งแรก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...