อะไรนะ ฉินเปียวยอมแพ้แต่โดยดีอย่างนั้นหรือ?ท่าทีของเขา กลับทำให้ฉินเทียนรู้สึกประหลาดใจอย่างคาดไม่ถึง
หรือนี่คือสไตล์ของเขา
ฉินเทียนจ้องมองฉินเปียว อยากจะรู้จริงๆว่าชายผู้นี้คิดจะทำอะไรกันแน่
ทาสสัตว์ที่เก่งกาจในมือทั้งหมดแหลกสลายตายทั้งกองทัพ เขาทำราวกับมองไม่เห็นและดูเหมือนจะไม่ได้สนใจอะไรเลยสักนิด
“ทำไมหล่ะ แกไม่ต้องการหรือไง?”
“งั้นก็อย่าโทษฉันนะ เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว ตราบใดที่ฉันเอาอิฐก้อนนี้ออกไปจากที่นี่ได้ ฉันก็เป็นผู้ชนะอยู่ดี”
ใบหน้าของฉินเปียวเริ่มแสดงออกถึงการหยอกล้อ เขาเลิ่กคิ้วขึ้น ในมือถืออิฐทองคำและกำลังจะเดินออกไปด้านนอก
“หยุด!”
ฉินเทียนเดินก้าวออกไปขวางด้านหน้าของฉินเปียวด้วยสีหน้าอันเคร่งขรึม และยื่นมือออกไป
เขารวบรวมลมปราณทั่วร่าง เตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยอย่างลับลับ
เพราะจากความเข้าใจของเขาที่มีต่อฉินเปียว ชายผู้นี้ไม่ใช่คนใจดีอะไรขนาดนั้นอย่างแน่นอน
เขาระวังอยู่ว่า ขณะที่ฉินเปียวส่งอิฐทองก้อนนั้นมา เขาอาจจะลงมือจู่โจมก็เป็นได้
แม้ว่าเขาจะไม่ได้รู้สึกดีอะไรกับน้องชายคนนี้เลยก็ตาม แต่มีเรื่องหนึ่งที่ฉินเทียนต้องยอมรับ ฉินเปียวชายผู้นี้ ได้รับการยกย่องเลื่อมใสมาตั้งแต่เด็ก ประกอบกับทรัพย์สมบัติอันมหาศาลของตระกูลฉินแล้ว ศักยภาพในตัวของเขาจะน่ากลัวขนาดไหน แค่คิดก็รู้แล้ว
ดังนั้น ฉินเทียนไม่กล้าที่จะประมาทอย่างแน่นอน
ระหว่างที่ฉินเปียวนำอิฐทองวางลงในมือของเขา เขาก็ออกแรงทั้งหมด และกำลังภายในบริสุทธิ์นั้นก็ถูกส่งผ่านมาทางปลายนิ้ว
ในช่วงเวลานั้น นิ้วมือทั้งห้าของฉินเทียนราวกับเป็นตะขอห้าอันที่ทำจากเหล็กกล้าชั้นดี บนก้อนอิฐทองนั้น มีรอยลึกๆ อยู่หลายจุด
และถือก้อนอิฐที่เป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะเอาไว้ในมืออย่างมั่นคง
ฉินเทียนเชื่อว่า เมื่อใช้วิชานี้แล้ว ฉินเปียวก็อย่าได้คิดที่จะใช้อิฐทองก้อนนี้มาแว้งกัดเขาได้อีก
สิ่งที่คิดไม่ถึงนั่นก็คือ ฉินเปียวหัวเราะเบาเบาและปล่อยอิฐทองลงบนมือของเขา จากนั้นก็ถอยหลังกลับไป
“แกประเมินค่าฉันต่ำเกินไป กล้าพนันก็ต้องกล้ายอมรับความพ่ายแพ้ แค่ก้อนอิฐเพียงก้อนเดียว น้องคนนี้ยอมให้ได้อยู่แล้ว”
ทำเอาฉินเปียวดูเป็นคนขี้งกไปซะอย่างนั้น
ฉินเทียนตอบด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “อย่าลืมเงื่อนไขของฉันที่แกให้สัญญาเอาไว้ด้วยหล่ะ!”
ฉินเปียวหัวเราะและตอบว่า “ไม่มีปัญหา”
“หากแกไม่สบายใจล่ะก็ งั้นพวกเราเชิญท่านอาวุโสถงจิ่งมาเป็นพยานก็ได้นะ”
“คนของฉันล้มตายจนหมด ตอนนี้เหลือเพียงหัวเดียวกระเทียมลีบแล้ว ไปเถอะ”
พูดพลาง ก็เอามือไพล่หลังและเดินออกไปข้างนอกอย่างสง่างาม ไม่แม้แต่จะเหลือบมองศพที่อยู่บนพื้นเลยสักนิด
ฉินเทียนอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ เขาพูดเบาๆ ว่า “กองทัพของพวกเราต่อสู้กัน ฉันจำเป็นต้องฆ่าพวกเขาเพื่อการเดิมพัน”
“แต่พวกเขายอมทำงานถวายชีวิตให้เธอ แกควรจะปฏิบัติกับพวกเขาให้ประหนึ่งเหมือนดั่งพี่น้อง”
“แกเย็นชาไร้ความรู้สึกเช่นนี้ อีกหน่อยจะไม่มีใครยอมทำงานถวายชีวิตให้แกอีก”
ฉินเปียวหัวเราะเยาะและพูดว่า “พี่ชายที่แสนดีของฉัน ผู้ที่คิดทำการใหญ่ จะไม่ใส่ใจกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ”
“ลูกผู้ชายอกสามศอก เพื่อบรรลุแผนการใหญ่แล้วย่อมยอมสละได้ทุกสิ่ง นับประสาอะไรกับทหารที่ตายไปเพียงไม่กี่คนเล่า”
“ในสายตาฉัน พวกเขาก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่ง ตอนที่ยังมีประโยชน์ ฉันก็เรียกยกย่องให้เป็นพี่เป็นน้อง ตอนนี้กลายเป็นศพแล้ว สำหรับฉัน มันก็เป็นแค่ขยะกองหนึ่งเท่านั้นเอง”
“ในอนาคตไม่ว่าจะมีคนยอมทำงานถวายชีวิตให้ฉันอีกหรือไหม พี่ชายที่แสนดีของฉัน นี่มันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรที่แกต้องมากังวล”
“ตราบใดที่ฉันเสนอราคาที่สูงมากพอ ไม่ต้องห่วงหรอกคนที่คิดจะเสี่ยงชีวิตอุทิศตนมาทำงานให้ฉัน ต้องมีมาอย่างไม่ขาดสายแน่นอน”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ฉินเปียวกวาดตามองพี่น้องคำสาปสวรรค์ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็เข้าไปใกล้ๆ ฉินเทียน พร้อมกับพูดเยาะเย้ยว่า “พี่น้องถูกฆ่าตายจนหมดเกลี้ยงได้ แต่หมากที่พร้อมจะอุทิศตนนั้น ไม่มีทางเป็นเช่นนั้นแน่นอน”
“ดังนั้น เมื่อถึงเวลาที่ฉันฆ่าพวกเขาตายจนเกลี้ยง หวังว่าแกคงจะไม่เป็นทุกข์ใจมากจนเกินไปหรอกนะ”
“แกกล้าหรือ!” ฉินเทียนกัดฟัน สีหน้านิ่งเฉยราวกับสายน้ำ “ฉันบอกแกไว้ก่อนว่า ถ้าแกกล้าฆ่าพวกเขาหล่ะก็ ฉันจะเป็นคนฆ่าแกเอง”
ฉินเปียวหัวเราะเสียงดัง “ฉันยอมรับว่าตอนนี้แกแข็งแกร่งมาก แต่จุดอ่อนของแกก็มากพอที่จะทำให้แกตายได้เหมือนกัน”
“เแกมีเรื่องพะว้าพะวังมากเกินไป ส่วนฉันไม่ได้เล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล”
“คอยดูแล้วกัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...