“คุณชาย คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“วางใจ ผมจะแก้แค้นแทนคุณเอง!”
เฝิงเปียวรีบประคองเกาชาว และให้เกาชาวอยู่ด้านหลังของเขา จากนั้นจ้องมองฉินเทียนด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ
รวมถึงรากษสอีกทั้งสี่คน ทันใดนั้นต่างกระจายตัวแยกจากกัน ห้อมล้อมฉินเทียนไว้ทุกด้านและกักขังฉินเทียนไว้ด้านใน
ทางด้านไป๋หลิง ฉวนซานและจินถัง ถูกห้อมล้อมไว้โดยผู้คุ้มกันที่มีอาวุธครบครันอีกทั้งยังมีหนิวธงและหม่าเถิง
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้ สีหน้าของฉินเทียนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขาจ้องมองเกาเหมิ่งที่นั่งอยู่ตรงกลางด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน
เกาเหมิ่งที่นั่งอยู่ด้านบนนั้นก็จ้องมองลงมาด้านล่าง เขาเองก็ยิ้มเยือกเย็นพลางจ้องมองฉินเทียน
ตอนนี้เขายิ่งรู้สึกประหลาดใจมากยิ่งขึ้น คนตรงหน้านั้นไม่รู้สึกกลัวจริงหรือ? เมื่อสักครู่นั้นฉินเทียนมีตัวประกันอยู่ในมือ ตอนนี้เขาไม่มีตัวประกันแล้ว สามารถเผชิญหน้าต่อการโจมตีอย่างรุนแรงได้ทุกเมื่อ
ห้ารากษสโจมตีพร้อมกัน แม้แต่เกาเหมิ่งเองก็ยังยากที่จะรับมือไหว
ฉินเทียนคนนี้นั้นคืออะไร?
“นายไม่กลัวจริงหรือ?” เขาขมวดคิ้วแน่นและเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้
“คุณผิดต่อคำสัญญา?” ฉินเทียนยิ้มเยือกเย็นและเอ่ยคำพูดเหน็บแนม
“เยี่ยม นับได้ว่ามีความกล้า!” ฉับพลันเกาเหมิ่งยกมือขึ้นและเอ่ยด้วยเสียงทุ้มต่ำ “อย่าเพิ่งแตะต้องเขา!”
“ฉันเกาเหมิ่งได้ให้คำสัญญากับเขาแล้ว ย่อมไม่ผิดคำสัญญา”
ทุกสายตาจับจ้องไปที่ใบหน้าของเกาเหมิ่ง อันที่จริงแล้วรวมถึงห้ารากษสเองก็ไม่แน่ชัดเท่าไรนัก สิ่งของชิ้นใดถูกพรากไปจากสุสานฮุนโหว
ระยะเวลาหนึ่งเดือนนั้น พวกเขาได้รับหน้าที่เฝ้าสถานการณ์ด้านนอก แท้จริงแล้วคนที่เข้าไปนั้นคือคนที่มาจากเกาะขนาดเล็กแห่งนั้น
ราชาเปี้ยน เบื้องบนของนายพลเกา
เกาเหมิ่งครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ จากนั้นเอ่ยเสียงแผ่วเบา “สุสานโบราณที่มีอายุนับพันปี ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงสุสานขนาดใหญ่ของราชา สิ่งของที่กลบฝังไปพร้อมกับศพทุกชนิดนั้นไม่สามารถประเมินค่าได้และมีจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน”
“สิ่งของเหล่านี้ เชื่อว่าพวกนายเคยเห็นจากพิพิธภัณฑ์แล้ว ฉันสามารถรับประกันได้ สิ่งของทุกอย่างที่กลบฝังไปพร้อมกับศพ พวกเราไม่ได้แตะต้องเลย”
เมื่อเอ่ยเช่นนี้ เขาพ่นลมหายใจเย็นชาและดูภาคภูมิใจมาก
ฉินเทียนเอ่ยถามอย่างร้อนรน “งั้นพวกคุณนำสิ่งของอะไรไปกันแน่?”
“แม้แต่ราชาเปี้ยนก็ยังเป็นคนนำกำลังพลด้วยตนเอง!”
เกาเหมิ่งขมวดคิ้วแน่นและเอ่ย “ฉันเชื่อว่าในตอนแรกเหล่าหวังนั้นแค่อยากรู้อยากเห็น อยากเห็นว่าสถานที่แห่งนี้เมื่อหลายพันปีก่อนนั้นมีลักษณะอย่างไร”
“นอกจากนี้ ว่ากันว่าในช่วงปลายปีของฮุนโหวนั้นมีการวาดฝันอยากอายุยืนยาวไม่แก่และเป็นอมตะ เรียกรวมตัวผู้คนและเรื่องราวแปลกประหลาดไว้มากมาย อีกทั้งยังสร้างหนังสืออมตะไว้อีกด้วย”
“แม้ว่าเรื่องอายุยืนยาวไม่แก่และเป็นอมตะ สำหรับปัจจุบันแล้วก็ยังคงเป็นเรื่องงมงายไร้สาระ แต่ทว่าภูมิปัญญาของคนโบราณ บางครั้งก็อย่าได้ประเมินค่าต่ำจนเกินไป”
“พ่อ คุณกำลังหมายความว่าเหล่าหวังนั้นนำยาอมตะและหนังสืออมตะไปงั้นหรือ?” เกาชาวอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
เกาเหมิ่งยิ้มและหัวเราะ “จะเป็นไปได้อย่างไร”
“ค้นพบคัมภีร์หนังวัวเล่มหนึ่ง บันทึกลวดลายประหลาดบางส่วนไว้ เหล่าหวังนำกลับไปศึกษา”
“นอกจากนี้ยังพบสิ่งแปลกประหลาด นับได้ว่าเหนือความคาดหมายแต่เป็นเรื่องน่ายินดี”
“นั่นก็คือ เห็ดหลินจือบนศพของโจรปล้นสุสานผู้หนึ่งตรงด้านหน้าของสุสาน...”
“คุณว่าอะไรนะ?”
“เห็ดหลินจือเลือด?!” เมื่อได้ยินคำพูดของเกาเหมิ่ง ร่างกายของฉินเทียนแข็งทื่อราวกับถูกฟ้าผ่า
เขาพุ่งเข้าหาเกาเหมิ่งด้วยท่าทางร้อนรน
“หยุด!”
“สังหารเขา!”
ห้ารากษสฟื้นคืนสติ แผดเสียงคำรามและพุ่งเข้าไปจู่โจมฉินเทียนพร้อมกัน
ฉินเทียนไม่ได้สนใจสิ่งใดนัก รวบรวมลมปราณและลมหายใจภายในร่างกาย เสียงปังดังขึ้น จุดลมปราณปะทุออกมาจากทั่วทุกรูขุมขม ราวกับว่าเป็นเสมือนเกราะป้องกัน ห้ารากษสสั่นสะท้านและถอยร่นออกไป
ห้ารากษสต่างตกตะลึง
พวกเขานั้นไม่คิดไม่ฝันเลย ชายหนุ่มวัยรุ่นหน้าตาอัปลักษณ์เช่นนี้ จะสามารถทำให้ร่างกายของพวกเขาสั่นสะท้านและทำให้พวกเขาทั้งห้าคนต้องถอยร่นออกมาในเวลาเดียวกันได้
“พลังภายในถูกปลดปล่อยออกมา ปรมาจารย์ดินแดนขั้นสูง…”
“เขาคือปรมาจารย์ดินแดนขั้นสูง!” เฝิงเปียวจ้องมองแผ่นหลังของฉินเทียนด้วยสีหน้ายากจะเชื่อ เขาเอ่ยพึมพำ
ขณะนี้ ฉินเทียนเป็นเสมือนไดโนเสาร์ทีเร็กซ์ เขาตรงขึ้นไปบนแท่นและเผชิญหน้ากับเกาเหมิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...