ฉินเทียนตกใจและรีบเงยหน้าขึ้น สุดปลายสายตาของเขาเห็นเป็นเส้นสีดำเส้นหนึ่งปรากฏขึ้น
แม้จะอยู่ไกลมาก แต่เมื่อพิจารณาจากระยะทางแล้ว พื้นที่ของเกาะแห่งนี้ อย่างน้อยต้องใหญ่กว่าสองถึงสามเท่าของเกาะจั่วเจียน
ขนาดพอพอกับเหนือฟ้าที่เขาอยู่ในต่างประเทศเลยก็ว่าได้
อะไรจะเกิด ยังไงมันก็ต้องเกิด
ฉินเทียนถอนใจ คุมความรู้สึกของตัวเองให้สงบลง
แต่เมื่อนึกถึงสถานการณ์อันซับซ้อนวุ่นวายที่หูเถิง เล่ามาเมื่อครู่นี้ สิ่งที่เขาเห็นตรงเบื้องหน้านี้ แม่ว่าจะเป็นผืนน้ำผืนหนึ่ง แต่ราวกับจะเห็นว่าเป็นการปะทะกันระหว่างเลือดกับไฟ
ส่วนตัวเขาเป็นคนนอกที่บุกเข้ามาอย่างรีบร้อน เขาอยากจะนำหลินจือเลือดออกไปจากท่ามกลางข้อพิพาทของผลประโยชน์กับอำนาจต่างๆซะ นั่นคือการล้วงคองูเห่าโดยไม่ต้องสงสัยเลย
……
ประมาณหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว ที่ฉินเทียนถูกหวังตัวยวี่ แกล้ง ตอนที่เขาถูกเตะตกจากวาฬหัวทุยนั้น
อีกเกาะเล็กๆ ลักษณะยาวๆ เหมือนผมเปีย บริเวณด้านข้างของท่าเรือราชาเปี้ยนและคนสนิทของเขากลุ่มหนึ่งเฝ้ามองดูด้วยความตื่นเต้น สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังเรือสำราญสุดหรูลำนั้นที่ค่อยๆ แล่นเข้ามาอย่างช้าๆ
บริเวณกาบหัวเรือ มีชายร่างกำยำล่ำสันยืนอยู่แปดคน แม้ว่าบริเวณหัวเรือจะถูกกระแทกด้วยแรงลมของคลื่นทะเล ถ้าเป็นคนธรรมดาคงจะยืนทรงตัวไม่ไหวแล้ว แต่ชายฉกรรจ์ทั้งแปดคนนั้น กลับยืนตัวตรงได้อย่างมั่นคงไม่สั่นคลอนแม้แต่นิด
ราวกับหอกแปดด้าม ที่ถูกเชื่อมติดไว้บนหัวเรือ
“ดูนั่นสิ สมแล้วที่เป็นคุณชายตระกูลที่ร่ำรวยเป็นอันดับหนึ่งของตอนเหนือ แม้แต่บอดี้การ์ดที่ติดตามมาด้วยยังไม่ธรรมดาเลย”
“ว่ากันว่าทางตอนเหนือมีศิลปะการต่อสู้ ตามแบบฉบับพื้นบ้านอันแข็งแกร่ง วันนี้ได้มาเห็นกับตา มันไม่ธรรมดาจริงๆ อ่ะ!”
“พวกเธอกระปรี้กระเปร่ากันหน่อยนะ เดี๋ยวต้องต้อนรับพวกเขาให้ดีที่สุด ยังไงก็ห้ามขาดตกบกพร่องเป็นอันขาด เข้าใจไหม?”
เมื่อได้ยินคำพูดของ ราชาเปี้ยนแล้ว ฝูงชนที่อยู่ด้านหลังต่างขานรับตามกันอย่างครึกโครม ใบหน้าแต่ละคนต่างเต็มไปด้วยความประจบสอพลอ
ก่อนหน้านี้ พวกเขาติดตามราชาเปี้ยนผู้นี้ เขาได้รับการต่อต้านและดูถูกเหยียดหยามจากภายในองค์กรของตงไห่ แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
ตราบใดที่ได้แต่งงานดองกับตระกูลเซี่ย ภายใต้ความช่วยเหลือของตระกูลเซี่ย ลำพังแค่จินยีโหวกับราชาจั่วเจียน ก็ไม่เท่าไรแล้วหล่ะ? จากนี้การตัดสินใจทุกอย่างในตงไห่ ก็จะกลายเป็นหน้าที่ของพวกเขาแล้ว!
ไม่นานนัก เรือสำราญสุดหรูก็ค่อยๆ จอดเทียบท่าอย่างช้าๆ
ราชาเปี้ยน สีหน้าแสดงความเคารพ เขาดูความเรียบร้อยของเครื่องแต่งกายอีกครั้ง ก่อนก้าวไปข้างหน้าสองก้าวพร้อมกับพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ข้าน้อยหวังซ่างชิง ราชาโย่วเจียนแห่งตงไห่ อีกทั้งผู้ติดตามทั้งหมดสามสิบหกคน ยินดีต้อนรับคุณชายเซี่ยครับ!”
พูดจบ ก็ก้มศีรษะอันหงอกขาวโพลนลงเพื่อแสดงความเคารพ
“ยินดีต้อนรับคุณชายเซี่ย!”
คนสนิททั้งหมดสามสิบหกคนที่อยู่ด้านหลังของราชาเปี้ยนพร้อมใจกันตะโกนสุดเสียง และโค้งคำนับอย่างสุดตัว
บนหัวเรือ บอดี้การ์ดทั้งแปดนั้นแบ่งออกเป็นสองแถว ที่ด้านหลัง มีชายหนุ่มชุดดำสิบกว่าคน เคลื่อนไหวอุ้มพรมสีแดงและปูยาวลงมาจากดาดฟ้าถึงที่ท่าเรืออย่างเป็นระเบียบ
ที่ท่าเรือ ทุกคนรวมถึงราชาเปี้ยนล้วนแต่ตะลึงงันกันไปหมด ในความคิดของพวกเขา สถานะของคุณชายตระกูลเซี่ยดูสูงศักดิ์มากอยู่แล้ว พวกเขาเลยใช้มารยาทขั้นสูงสุดในการต้อนรับด้วยเช่นกัน
คิดไม่ถึงเลยว่า มันยังดูด้อยเกินไป
คุณชายเซี่ยลงจากเรือ ต้องปูด้วยพรมสีแดง
ราชาเปี้ยนรู้สึกเสียใจมาก เขาคิดว่าตัวเองสะเพร่ามากเกินไป เรื่องแค่นี้ทำไมยังคิดไม่ได้
“น้อมต้อนรับคุณชายเซี่ย” ครั้งนี้ เขาไม่เพียงแค่ก้มศีรษะลงเท่านั้น แต่เขายังโค้งตัวคำนับลงอีกด้วย
บนเรือสำราญนั้น ในที่สุดประตูห้องโดยสารก็เปิดออก ชายหนุ่มท่าทางหยิ่งผยองคนหนึ่งเดินออกมา
สีหน้ายะโสโอหังของเขา เขาเดินเยื้องก้าวออกไปข้างหน้าบนพรมแดงนั้น และเดินลงเรือไปด้วยความเย่อหยิ่ง
“เธอคือราชาเปี้ยนหรือ?” ชายหนุ่มผู้นั้นเงยหน้าขึ้นมองหวังซ่างชิง และเอ่ยถามขึ้น
หวังซ่างชิง ตกใจไปชั่วขณะ และรีบตอบกลับไปว่า “ข้าน้อยหวังซ่างชิง น้อมต้อนรับคุณชายเซี่ย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...