หวังหลีพลันกล่าวออกมาด้วยความสุภาพว่า "เข้าพบท่านโหว ข้าน้อยรู้สึกว่า งานแต่งของพี่สาวของผมนั้น นับว่าเป็นเรื่องใหญ่ ถึงแม้จะมีท่านผู้อาวุโสคอยจัดการเรื่องราวให้อยู่แล้ว ทว่า ในยามนี้ยุคสมัยเองก็ได้เปลี่ยนไปแล้วเช่นกันข้าน้อยว่าพวกเราควรจะเคารพการตัดสินใจของเจ้าของเรื่องนี้นะครับ "
“ในเมื่อพวกเราทุกคนไม่อาจตัดสินใจเรื่องนี้ได้เหตุใดถึงไม่ไปถามตัวเจ้าของเรื่องนี้ นั่นก็คือถามความเห็นของพี่สาวผมเล่า”
หวังหลีพลันหันกลับไปมองเซี่ยหมิงก่อนจะแย้มยิ้มกล่าวออกมาว่า " ผมคิดว่า หากพี่สาวของผมไม่ยินยอม คุณชายเซี่ยก็คงไม่คิดบังคับขู่เข็ญใช่หรือไม่?"
เซี่ยหมิงค่อย ๆ แย้มยิ้มออกมาอย่างเชื่องช้า "ฉันไม่คิดว่า คุณหนูใหญ่หวังจะไม่เห็นด้วย"
"นอกจากนี้ความรู้สึกนั้น พวกเราสามารถค่อย ๆ สร้างขึ้นมาได้"
ผู้ชายอย่างเขานั้น หากต้องการสตรีแบบไหนหาได้ลำบากยากเย็นไม่ ทว่า เพราะเหตุใดเขาถึงมาสนใจหวังตัวยวี่ได้นั้น ทั้งยังไม่คิดลังเลที่จะมาเอ่ยปากขอแต่งงานด้วยตนเองเช่นนี้อีกด้วย ?
แน่นอนว่า เพื่อผลประโยชน์มหาศาลภายในอนาคตข้างหน้า พูดตรงๆ ก็คือตงไห่
ต่อหน้ากลุ่มของตงไห่กรุ๊ปทั้งหมดนั้น ความสัมพันธ์ส่วนตัวของหนุ่มสาวหาได้สำคัญอันใดไม่
ดังนั้น ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีใด เซี่ยหมิงก็จักต้องคว้าหวังตัวยวี่เอามาไว้ในมือของตนเองให้ได้
ทว่า เมื่อหลัวหลี่เอ่ยถามออกมาเช่นนี้ นั่นจึงทำให้เขารู้สึกลำบากใจเล็กน้อย ถึงแม้ว่าเขาจะมั่นใจในตัวเองมากก็ตาม ทว่าหากเกิดอะไรที่นอกเหนือจากความคาดหมายเล่า?
ในกรณีที่ หวังตัวยวี่กลับปฏิเสธเขาขึ้นมา เขาควรจะทำอย่างไรดี?
ขัดขวางจนตัวตาย บังคับแต่งงาน หรือทำตัวเป็นสุนัขเลียขาดี? เกรงว่าหน้าตาของเขาคงจะดูไม่ดีเท่าใดนักหากทำเช่นนั้น
หวังหลีพลันกล่าวต่อ "สิ่งที่คุณชายเซี่ยพูดก็ถูก"
“ ผมจะมิคิดปิดบังคุณชายเซี่ย แท้จริงแล้ว ก่อนหน้านั้นผมเคยเอ่ยถามความรู้สึกของพี่สาวตนเองมาเช่นกัน นางเคยกล่าวไว้ว่า หากมิได้เห็นหน้าค่าตากันมาก่อน พี่สาวของผมจะมิยอมผลีผลามตกลงแต่งงานเป็นอันขาด ”
"อย่างไรก็ตาม สามารถมาพบเจอเพื่อพูดคุยกันก่อนได้"
เซี่ยหมิงจึงรีบร้อนเอ่ยออกมาในทันทีว่า "ตกลง ฉันเห็นด้วย!"
“ฉันตกลงที่จะรอพบกับคุณหนูหวังก่อน ไม่ว่าการขอแต่งงานในครั้งนี้จะจะสำเร็จหรือไม่ ก็ให้มันขึ้นอยู่กับโชคชะตาแล้วกัน”
เซี่ยหมิงรู้สึกได้ว่าด้วยรูปร่างหน้าตาและวิธีการของเขานั้นตราบใดที่เขาได้เห็นหวังตัวยวี่เมื่อใด ทุกอย่างหาได้เป็นปัญหาไม่เขาย่อมมีทางทำให้หวังตัวยวี่ตอบรับการแต่งงานในครานี้อย่างแน่นอน
เป็นไปได้ว่า บางทีหวังเหมี่ยนและหวังเจี่ยนเอง อาจจะพยายามขัดขวางเขาทุกวิถีทาง เพราะพวกเขากลัวว่า หวังตัวยวี่จะตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกเห็นก็เป็นได้
ท้ายที่สุดแล้วจะมีสาว ๆ คนไหนบ้างเล่าที่ไม่หลงรักหนุ่มหล่อ? เซี่ยหมิงจึงมีความมั่นใจมากเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของตัวเอง
หากวิธีนี้ไม่ได้จริง ๆ เขาย่อมวิธีอื่น
หวังหลีแย้มยิ้มกล่าวออกมา "คุณชายเซี่ยอย่าร้อนใจไป ผมจะต้องไปขออนุญาตจากพี่สาวของตัวเองก่อน ถึงจะสามารถพาคุณไปพบกับเธอได้ "
จากนั้น หวังหลีพลันหันกลับมาส่งยิ้มหวานให้กับหวังเหมี่ยนอีกครั้ง "ท่านโหว คิดเห็นเช่นไรครับ?"
"หากว่าพี่สาวของผมชมชอบคุณชายเซี่ยจริง ๆ เช่นนั้นมันก็ไร้ประโยชน์ที่จะขัดขวางเธอ"
“หากพี่สาวของผมไม่ชอบจริง ๆ ผมเชื่อว่าคุณชายเซี่ยเอง ก็จะไม่ถือโทษว่าพวกเราทำการขัดขวางและทำลายความสัมพันธ์อันดีของเขาเช่นกัน”
“ในอดีต ตระกูลตงไห่และตระกูลเซี่ยเอง เสมือนกับน้ำบ่อที่มิยุ่งกับน้ำโคลน แต่ในอนาคตข้างหน้า พวกเรายังสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขได้”
หวางเหมี่ยนเพียงขมวดคิ้วมิได้เอ่ยอันใดออก
คำพูดคำจาที่รู้จักผิดชอบชั่วดีเช่นนี้ ทำเอาทุกคนที่อยู่ภายในที่เกิดเหตุ พลันรู้สึกว่าคำแนะนำของ หวังหลีก็ดูสมเหตุสมผลไม่น้อย หวังตัวยวี่เองก็เป็นคนใหญ่คนโตของตงไห่เช่นกัน ดังนั้นเรื่องของนางจึงนับว่าเป็นเรื่องใหญ่ ที่ไม่มีใครสามารถไปจัดการชีวิตแทนเธอได้
มิเช่นนั้นจะดูเป็นการไม่เห็นแก่หน้าของเธอ
"ท่านโหว ผมคิดว่าความคิดของหวังหลีเองก็ดูใช้ได้ไม่น้อยเลย "
“ผมเองก็รู้สึกว่า คุณหนูใหญ่จักรู้จักตนเองมากพอ ”หวังเจี่ยนพลันกล่าวออกมา
หวังเหมี่ยนครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่พักหนึ่ง พลางคิดว่ามันสมเหตุสมผลดี ด้วยลักษณะนิสัยของหวังตัวยวี่นั้น นางย่อมไม่ตกหลุมรักใครง่าย ๆ แน่?
แม้แต่ตัวของเธอ หวังตัวยวี่พยายามที่จะเสาะหาคู่ครองของเธอมานานแล้วเช่นกัน ทว่า ผู้ชายธรรมดาในใต้หล้านั้น หากได้เข้าตาเธอไม่ มิเช่นนั้นชั่วชีวิตของเธอคงมิอาจแต่งออกไปได้แน่
หากเป็นหวังตัวยวี่เอ่ยปากปฏิเสธออกมาด้วยตนเองแล้วละก็ เขาเชื่อว่าเซี่ยหมิงเองคงมิอาจดื้อรั้นต่อไปได้อีก
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หวังเหมี่ยนพลันพยักหน้าออกมาอย่างยอมรับ
"ในเมื่อเป็นเช่นนี้ หวังหลี นายไปสอบถามความคิดเห็นของพี่สาวตัวเองเสีย"
“ไปบอกคุณหนูใหญ่ด้วยว่าคนในตงไห่เองจะไม่ยอมบังคับให้นางทำสิ่งที่ไม่ชอบใจหรือไม่ต้องการเป็นอันขาดให้นางปล่อยวางลง ผู้ใดก็ไม่อาจมาบีบบังคับคุณหนูใหญ่ให้เลือก”
“มิฉะนั้น คนของตงไห่เองย่อมไม่มีวันนึกเห็นด้วย ไม่ว่าตงไห่จะต้องถูกทำลายลง พวกเราก็จะปกป้องคุณหนูใหญ่เช่นนางเอาไว้ให้ได้ ”
การกล่าวเช่นนี้ เสมือนกับเป็นการระบายอารมณ์โกรธแทนหวังตัวยวี่ เป็นกำลังใจให้หวังตัวยวี่
“ตกลงครับท่านโหว ผมจะไปรีบไปจัดการในทันที” หวังหลีรับคำสั่งด้วยท่าทีสุภาพ พร้อมกับรีบเดินหันหลังออกไปในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...