บทที่106ข้าต้องการจำนวนเมล็ด
ตันจงจูนจิ่วรู้จักดีตันจงเป็นหนึ่งในอู๋อจงเป็นความจริงที่ถูกขนานนามว่าเป็นแดนสวรรค์ของเหล่านักกลั่นยา!ผู้อาวุโสของสำนักตันเก๋อก็เกิดในตันจงแต่ว่าจูนจิ่วแค่กะจะไปดูเฉยๆไม่ได้อยากเข้าเป็นศิษย์ของตันจง?นางไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย
จูนจิ่วมองตาของโม่อู๋เยว่พอดีกับที่โม่อู๋เยว่ที่หันมามองนางโม่อู๋เยว่ไม่ได้สนใจอะไรที่มันเกี่ยวกับอู๋อจงแม้แต่น้อยสู้เอาเวลานี้ไปมองจูนจิ่วยังมีความสุขกว่า
จูนเสี่ยวเหล่ยก็พูดขึ้นมาว่า“พี่เก้าพวกเราทั้งคู่มาพยายามเพื่อที่จะเข้าอู๋อจงกันเถอะ!ถ้าเกิดเราสามารถเข้าเป็นศิษย์ของอู๋อจงได้ท่านพ่อกับท่านแม่จะต้องภูมิใจในตัวพวกเราแน่!
หยูนเฉียวพูดด้วยความตื่นเต้น“พวกเราก็จะลองดูด้วย!คนเราต้องมุ่งไปที่สูงไม่ใช่มองกลับหลังเมื่อมีโอกาสดีๆเราก็ไม่ควรที่จะพลาดมันไป!”
“อืมลองดูก็ไม่เสียหายอะไร”
อู๋อจงของสิบแคว้นยังมีสำนักที่อยู่สูงกว่านี้อีกสามแห่งกับอีกหนึ่งสำนักที่มีระดับสูงสุดอยู่โลกนี้ก็เหมือนกับเจดีย์ที่มีระดับของแต่ละขั้นทุกๆครั้งที่เดินขึ้นไปพอเราคิดว่ามันคือจุดสูงสุดแล้วแต่ว่ามันกลับยังมีจุดที่สูงยิ่งกว่าเดิมให้ก้าวต่อไปอีก!
จวนหนึ่งแห่งสำนักสามแห่งกับอู๋อจงของสิบแคว้นล้วนอยู่ในชั้นต่ำสามชั้นฟังจากชื่อก็น่าจะรู้ว่าเหนือขึ้นไปอีกยังมีชั้นกลางสามชั้นชั้นสูงสามชั้นที่อยู่บนโลกนี้
จูนจิ่วกำมือแน่นรู้สึกอยากลองดูย้อนเวลากลับมาอยู่ในระดับต่ำสุดของโลกนี้นางสามารถค่อยๆก้าวขึ้นไปทีละขั้นแล้วขึ้นไปยังจุดสูงสุด!ในโลกนี้จะต้องมีสิ่งที่น่าตื่นเต้นมากกว่าชาติที่แล้วแน่ยิ่งอันตรายก็ยิ่งดึงดูดนางยิ่งทำให้นางตื่นเต้นเข้าไปใหญ่
จำนวนเมล็ดของอู๋อจงขอแค่นางอยากได้ก็คงเอามาได้ง่ายๆ!
จูนจิ่วกำลังวางแผนแต่ก็ถามเฟิ่งเซี่ยวเกี่ยวกับข้อมูลของอู๋อจงเฟิ่งเซียวจึงตอบว่า“ผู้ที่มีสิทธิ์เข้าสอบในอู๋อจงนั้นมีน้อยมากตั้งแต่เมื่อก่อนแต่ละแคว้นก็มีสิทธิ์เพียงแค่สองถึงสามคนแล้วก็สำนักจะเป็นคนคัดเลือกตัวแทนทั้งสิบคนจากเหล่าศิษย์ในสำนักทั้งหมด”
“หลังจากที่อู๋อจงมาสำนักเทียนโจ้งจะให้ศิษย์ทั้งสิบคนนี้ทำการประลองฝีมือกันจนสุดท้ายก็หาผู้ที่มีผลงานมากที่สุดผู้ที่มีพรสวรรค์ในการต่อสู้มากที่สุด!จากนั้นก็จะพากลับไปที่อู๋อจงเรื่องหลังจากนั้นข้าก็แค่ได้ยินคนอื่นเล่าต่อกันมา”
เฟิ่งเซียวเกาผมตัวเองไปมาหลังจากที่ครุ่นคิดสักพักจึงพูดออกมา“หลังจากที่กลายเป็นเมล็ดก็ใช่ว่าจะได้เข้าเป็นศิษย์ของอู๋อจงทันทีตอนที่ข้าท่องเที่ยวทั้งสิบแคว้นเคยได้ยินมาว่าเหล่าผู้ที่เป็นเมล็ดก็ยังต้องประลองฝีมือกันอีกทีถึงจะเข้าไปเป็นศิษย์ของอู๋อจงได้”
“งั้นเคยมีคนที่ล้มเหลวที่ไม่ถูกเลือกบ้างไหม?”จูนเสี่ยวเหล่ยสอบถามด้วยความตื่นเต้นและสงสัย
“มีอยู่แล้ว!”
หยูนเฉียวถามด้วยความสงสัย“งั้นทำไมถึงไม่เคยได้ยินข่าวว่าพวกเขากลับมาเลยล่ะ?”
“ผู้ที่ล้มเหลวส่วนใหญ่มักจบด้วยความตายหรืออาจจะเป็นเพราะอายที่ไม่ได้ถูกเลือกจึงไม่มีหน้ากลับมาที่บ้านเกิดของตัวเองไม่แปลกที่พวกเจ้าจะไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้พอแล้วยังไม่ต้องพูดเรื่องนั้นในตอนนี้พวกเจ้าตอนนี้ควรที่จะไปเตรียมตัวดีกว่าก่อนที่คนส่งสารของอู๋อจงจะมาพวกเจ้าทุกคนจะได้รับการฝึกด้วยเวลาที่เท่าเทียบกัน”
เฟิ่งเซียวพูดต่อ“ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าสถานที่ใช้การฝึกอยู่ที่ไหนแต่ก็มีเวลาเพียงแค่ไม่กี่วันพวกเจ้าก็ต้องออกเดินทางแล้วไม่ว่าจะไปที่ไหนพวกเจ้าสามคนก็ควรรวมกลุ่มกันเอาไว้อย่าได้ไปไหนมาไหนเพียงลำพังเด็ดขาด”
ตรงส่วนนี้พวกจูนจิ่วล้วนรู้ตัวดี
ที่อันตรายที่สุดไม่ใช่การการฝึกแต่เป็นใจของคนตามหาก!
……
เหอจงหาโล่ชิวเห้อจนเจอเขาพยายามกลบเกลื่อนสายตาที่มืดมนของตัวเองแล้วจ้องมองไปที่โล่ชิวเห้อตอนนี้โล่ชิวเห้อกำลังฝึกเขียนพู่กันอยู่พอเห็นเขาเดินมาโล่ชิวเห้อก็ไม่ได้เงยหน้ามองเขาแม้แต่น้อย
พูดเพียงแค่น้ำเสียงที่เย็นชา“ทำไมรองอาจารย์ใหญ่ถึงมาที่นี่ได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...