บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 148

บทที่ 148 กลิ้งเต็มพื้น ร้องไห้เรียกหาพ่อหาแม่

“ลองนับดูก่อนเถอะ” จูนจิ่วมองตาเฉียงไปที่จารย์เจ้ากับซือถูซิว พวกเขาทั้งสองก็ตกตะลึงเช่นกัน แต่ทว่านี่ยังไม่ใช่แกนสัตว์ทั้งหมดของจูนจิ่ว

นางไม่ชอบที่มันหนักเกิน จึงเก็บไว้ในมิติสร้อยข้อมือ ฉะนั้นถุงที่หิ้วมาจึงดูแบนมาก ตอนที่จะวางลงบนโต๊ะ จูนจิ่วจึงทำการโยกย้ายแกนสัตว์ส่วนหนึ่งออกมา มือของอาจารย์เจ้าและซือถูซิวที่กำลังนับจำนวนอยู่กำลังสั่นดิกๆ เพราะว่านับช้าไป ยังขานเรียกอาจารย์อีกสองท่านมาช่วยกันนับด้วย

ใช้เวลาไปแค่แปปเดียว ในที่สุดก็คอนเฟิร์มเรื่องจำนวน แจ้งตรงตามจำนวนที่จูนจิ่วบอกไว้เลย

ซือถูซิ่วทั้งอิจฉาทั้งนึกสงสัย ทั้งน้ำลายย้อย เขาอ้าปากจะพูดอะไร อาจารย์เจ้าเห็นดังนั้นจึงรีบแย่งพูดก่อน “จูนจิ่วคะแนนของเจ้ารวบรวมเสร็จแล้ว ทำได้ดีมาก เจ้าเก็บแกนสัตว์กลับไปเถอะ พวกข้าบันทึกให้เจ้าแล้ว และยินดีกับเจ้าด้วยที่ได้ที่หนึ่ง ”

“นาง……”

“อาจารย์ซือถู ลูกศิษย์ทุกคนกำลังดูอยู่นะ ท่านมีความคิดเห็นอะไรไหม?” ถูกอาจารย์เจ้าเพ่งมอง ซือถูซิวชักสีหน้าไม่ลง ไม่กล้าที่จะไม่ยอมรับคะแนนนของจูนจิ่วได้ ถ้าหากเขาดำเนินกิจกรรมเองล่ะก็ จะต้องลักเก็บไว้เองแน่

เมื่อเห็นจูนจิ่วเก็บแกนสัตว์เข้าที่ ไม่รู้ว่าเป็นาการจงใจหรือไม่ ท่าทางที่ช้าๆทำให้ซือถูซิวที่กำลังมองดูอยู่น้ำลายไหลย้อย ทุกข์ทรมานมาก แต่ก็ทำได้เพียงแค่มองดูเท่านั้น อิจฉาที่สุด

ไม่เพียงแค่เขาคนเดียว ลูกศิษย์มากมายที่เห็นแล้วก็ต้องน้ำลายย้อย ในสายตาของพวกเขานี่มันไม่ใช่แกนสัตว์แต่เป็นหินทิพย์เป็นกอง

สีหน้าที่ดูแย่ที่สุดคือจูนหยูนเสวี่ย โกรธจนเกือบเป็นลมไปแล้ว เดิมทีนางเกือบจะได้อยู่ลำดับที่สาม จะได้โอกาสไปเลือกวิทยายุทธที่ห้องสมุด แต่ผลปรากฏว่าเมื่อจูนจิ่วกลับมา นางโดนถีบออกไปไกลเลย

ในฐานะที่เป็นถึงคุณหนูใหญ่ตระกูลจูน นางขาดสนหินทิพย์หรือ? นี่เท่ากับว่านางไม่ได้อะไรเลย แต่จูนจิ่วกลับราบรื่นไปตามลม ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จมาโดยตลอด จูนหยูนเสวี่ยโกรธจนขบฟันแน่น

เมื่อพูดถึงหินทิพย์ นางเพิ่งคิดได้จึงยื่นมือไปลูบคลำตรงเอว บนตัวนางมีไพ่อีกใบที่เหนือกว่าที่พร้อมจะชำระความโลภมากของนางได้

แต่ผลที่ได้คือเมื่อลูบแล้วมีแต่ความว่างเปล่า สีหน้าจูนหยูนเสวี่ยขาวซีดราวแผ่นกระดาษ ด้วยความตื่นเต้นริมฝีปากถูกกัดจนมีเลือดไหลออกมาก นางสั่นเทา เบิกตากว้าง สิ่งของล่ะ? ของหายทำไมไม่อยู่แล้ว

หรือว่าเมื่อกี้ตกอยู่ที่นั่น?

นั่นเป็นสิ่งของที่จูนสงเทียนและซั่งกวนอี่หรงมอบไว้ให้นางและกำชับว่าต้องเก็บรักษาไว้ให้ดี หินทิพย์ชั้นห้า จูนหยูนเสวี่ยรู้ดีว่ามันล้ำค่าและสำคัญมากแค่ไหน นางรีบหันกลับพุ่งเข้าไปในป่า ข้างหลังมีคนขานเรียกนางก็ไม่สนใจ

จูนจิ่วเหลียวมอง และยิ้มเย้ยหยันตรงมุมปาก

กลับไปหาหินทิพย์ห้าชั้นหรือ? ต่อให้จูนหยูนเสวี่ยหาจนแก่ตาย ก็หาไม่เจอหรอก หินทิพย์ชั้นห้ายังอยู่ในมิติสร้อยข้อมือของนาง แต่ทว่าเมื่อย้อนคิดถึงคำพูดของโม่อู๋เยว่ จูนจิ่วรู้สึกสงสัยอยู่บ้าง

หินทิพย์ชั้นห้าอยู่ในสิบแคว้นนี้นับว่าเป็นของหายาก ไม่เคยได้ยินว่ามีใครถือครอบครองอยู่ ตระกูลจูนไปได้มาจากที่ไหน?

นางคิดใคร่ครวญในหัวทันที ค่อยๆวิเคราะห์ไปที่ละขั้น ตระกูลจูนอยู่เป็นหนึ่งในสองตระกูลใหญ่แห่งแคว้นเทียนโจ้ง แต่เมื่อวางอยู่บนแผ่นที่สิบแคว้น ไม่ได้ถึงกับมีอำนาจใหญ่โตมาก ดังนั้นการได้ครอบครองหินทิพย์ชั้นห้าหนึ่งชิ้น สามารถพูดได้ว่าเป็นสมบัติสืบถอดตระกูล

จูนจิ่วเข้าใจดี นางไม่ได้สำคัญถึงขั้นที่พวกจูนสงเทียนจะยอมมอบสมบัติมีค่าของตระกูลให้ เพียงเพื่อแลกกับชีวิตนาง ดังนั้นในมือของตระกูลจูนน่าจะยังมีสิ่งของอย่างอื่นที่มีความเท่าเทียมกัน หรือล้ำค่ายิ่งกว่า พวกเขาถึงยอมกัดฟันมอบหินทิพย์ชั้นห้าชิ้นนี้ออกมา

สิ่งของเหล่านี้ ตระกูลจูนมีได้อย่างไร?

“แม่นางจูน” เสียงอันนุ่มนวลของหยูนเฉียวได้ขัดจังหวะความคิดของจูนจิ่ว

นางเงยหน้ามองไปทางหยูนเฉียว หยูนเฉียวยิ้มบางๆแล้วพูดว่า “เราจะออกเดินทางกลับสำนักเทียนโจ้งแล้ว แม่นางจูนเตรียมตัวเสร็จหรือยัง?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ