บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 151

บทที่ 151 รักษาโล่ชิวเห้อ

จูนจิ่วล้วงมือเข้าไปในแขนเสื้อ แท้ที่จริงคือล้วงเข้าไปเอายาออกจากช่องว่างในสร้อยข้อมือ ขวดยาต่างๆเรียงรายกันเป็นแถววางอยู่บนโต๊ะ ยาเหล่านี้เป็นยาที่นางผลิตเอาไว้เมื่อภพก่อน ตอนนี้สามารถเอามาใช้กับโล่ชิวเห้อดู

จูนจิ่วเลือกดูขวดยาไปด้วย อธิบายไปด้วย “พิษของเขาซึมเข้าสู่ไขกระดูก ยังดีที่มียาแก้พิษก่อนหน้านี้ ที่สามารถช่วยยื้อชีวิตเฮือกสุดท้ายไว้ได้ เวลานี้ยาใดที่เคยให้นักจิตกิน ล้วนสามารถทำลายร่างกายของเขาได้ นั่นไม่ใช่การช่วยชีวิต แต่เป็นยาพิษที่เร่งให้เขาตายเร็วขึ้น ”

“ถูกต้อง” หรูมั่นพยักหน้าเห็นด้วย “ก่อนหน้านี้มีนักกลั่นยาจ่ายยาให้คุณปู่ เมื่อคุณปู่ทานเข้าไปก็อาเจียนเป็นเลือดทีนที”

เฟิ่งเซียวถามด้วยความประหลาดใจ “เสี่ยวจิ่วแล้วยาเหล่านี้ของเจ้าคือ?”

“ให้คนทั่วไปกิน ไม่มีพลังจิตใดๆแฝงอยู่ เหลือเพียงฤทธิ์ยาบริสุทธิ์ ตอนนี้เขากินได้แต่ยาพวกนี้แหละ” จูนจิ่วจ่ายยาห้าเม็ดที่แตกต่างกัน จากนั้นหยิบกาน้ำชามา เห็นว่าเป็นเพียงน้ำเปล่าธรรมดา จึงรินน้ำหนึ่งแก้วทันที จากนั้นบดยาให้ละเอียดแล้วผสมลงไป

ยื่นแก้วชาไปให้หยูนเฉียว จูนจิ่วสั่ง “เข็มนาฬิกาหมุนไปในทิศทางปกติสามครั้ง และเข็มนาฬิกาหมุนในทิศทางตรงข้ามเจ็ดครั้ง เมื่อเห็นว่าน้ำเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลอ่อนประกายแดงหน่อย ค่อยเอายามาให้ข้า”

“ได้เลย แม่นางจูนไว้ใจได้” หยูนเฉียวรับแก้วชามา ตั้งใจจดคนยาให้เข้าที

จูนจิ่วหยิบมีดสั้นสีเงินขึ้นมา ซึ่งก่อนหน้านี้ใช้กรีดนิ้วมือของโล่ชิวเห้อ และตอนนี้มีดสั้นสีเงินได้เปลี่ยนเป็นสีดำไปแล้ว นางให้หรูมั่นเอากะละมังมาสองใบ โดยใบหนึ่งใส่น้ำเปล่าไว้ อีกใบว่างเปล่า

เทยาลงไปในกะละมังใบที่มีน้ำเปล่า จากนั้นเอามีดสั้นสีเงินจุ่มลงไป ตอนที่หยิบมีดสั้นออกมาสีเปลี่ยนคืนสู่สภาพเดิมทันที ส่วนใบที่ว่างเปล่ากลับวางอยู่ใต้ข้อมือของโล่ชิวเห้อ

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของนาง ทุกคนล้วนเดาออกว่าจะใช้ทำอะไร

“เลือดภายในร่างกายของเขาถูกทำลายจนสิ้น จะต้องเอาออกมาทั้งหมด เมื่อเลือดพิษถูกปล่อยออกมาจนหมด ค่อยกำจัดพิษในกระดูก” จูนจิ่วอธิบาย ทุกคนพยักหน้าโดยที่ไม่มีผู้ใดต่อต้านสักคำ

ปฏิกิริยาของพวกเขาอยู่ในสายตาของนาง จูนจิ่วกระตุกยิ้มมุมปาก การพบเจอญาติผู้ป่วยในลักษณะนี้รู้สึกเบาใจไปเยอะเลย มิเช่นนั้นนางคงต้องสกัดจุดพวกเขาแล้วจับโยนออกไป เพื่อไม่เป็นการกระทบสภาพจิตใจของตัวเองด้วย

จูนจิ่วกลับไม่รู้ว่า ก่อนที่นางจะมา เฟิ่งเซียวได้พูดคุยกับหรูมั่นก่อนแล้วว่าถ้าจะให้จูนจิ่วรักษา ห้ามมีข้อสงสัยแม้แต่น้อย มิเช่นนั้นก็ไปหาคนอื่นมารักษาโล่ชิวเห้อแทน ณ เวลานั้นหรูมั่นพยักหน้าตอบตกลงอย่างเชื่อฟัง แสดงท่าทีว่าตัวเองจะไม่สงสัยเป็นอันขาด

เพราะตอนที่นางไปตรวจสอบกล่องอาหารที่สำนักตันเก๋อ ผู้อาวุโสของสำนักตันเก๋อเอ่ยแนะนำจูนจิ่ว ทั้งยังบอกว่านักกลั่นยาคนอื่นๆเคยลองแล้วแต่ทำไม่ได้ ฉะนั้นมีเพียงจูนจิ่วเท่านั้นที่สามารถช่วยได้ หรูมั่นไม่ได้โง่ แน่นอนว่านางต้องเชื่อจูนจิ่ว และเชื่อจูนจิ่วได้เพียงคนเดียว

เมื่อหยูนเฉียวคนยาจนเข้าที่ จึงรีบยกมา “แม่นางจูนยาคนเสร็จแล้ว”

“ป้อนให้เขาดื่ม”

“ให้ข้าเถอะ” หรูมั่นรีบยื่นมือเข้ามารับไว้ หญิงสาวที่โดนอ่อนโยนเรียบร้อย ตอนที่ป้อนยาให้กลับใช้มือเปิดปากโล่ชิวหยางอย่างตรงๆ นิ้วมือทั้งสองนิ้วกดทับลิ้นไว้ แล้วกรอกยาเข้าปากทีเดียวรวด ตลอดขั้นตอนการให้ยาไม่มียาหกเลอะเทอะแม้แต่หยดเดียว

เมื่อเห็นท่าทางการป้อนยาที่ตรงไปตรงมาของนาง ทุกคนเงียบไปครู่หนึ่ง

หรูมั่นถือแก้วชาไว้แล้วหันกลับมา ใบหน้ายังคงแลดูอ่อนโยน “ท่านหมอเทวดา ลำดับต่อไปควรทำยังไหร่ต่อดี?”

“ปล่อยเลือด”

มีดสั้นสีเงินกรีดเปิดแผลตรงข้อมือของโล่ชิวเห้อโดยตรง ถ้าเปลี่ยนเป็นคนทั่วไป การกรีดแบบนี้เลือดจะไหลไม่หยุด แต่ทว่าเลือดที่ไหลออกมาของโล่ชิวเห้อกลับมีลักษณะกึ่งเหนียวข้น และไหลออกมาเพียงบางส่วนก็หยุดไหล

จูนจิ่วลุกขึ้นมา พูดเสียงเบาว่า “หรูมั่นเจ้ามาจับมือของโล่ชิวเห้อไว้ ท่านปู่กับหยูนเฉียวกดทับไหล่ของเขาไว้ อย่าให้เขาขยับตัว”

“ได้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ