บทที่ 159 พิธีเสร็จสิ้นส่งเข้าเรือนหอ
นี่มันเป็นงานแต่งขององค์ชายรัชทายาทหรือเป็นงานศพกันแน่? เจ้าสาวถูกยังแย่งชิงมาโดยไม่ยินยอม แต่ทว่าเฟิ่งเทียนฉี่ที่กลายเป็นบุคคลไร้ประโยชน์ คุณหนูใหญ่ตระกูลจูนก็ต้องไม่ยอมแต่งงานด้วยอยู่แล้ว
แต่ทว่าในใจของทุกคนยังรู้สึกสงสัย ประการแรกใครที่ทำให้เฟิ่งเทียนฉี่กลายเป็นบุคคลไร้ประโยชน์? ประการที่สอง ทำไมไม่เห็นพ่อแม่ของจูนหยูนเสวี่ยมาร่วมงาน? เจ้าบ้านตระกูลจูนเห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้หรือ?
แน่นอนว่าจูนสงเทียนกับซั่งกวนอี่หรงจะต้องไม่เห็นด้วย แต่พวกเขาไม่สามารถมายับยั้งการแต่งงานได้ทัน ตัวบ่งการตัวพ่อก็คือโม่อู๋เยว่ที่นั่งชมละครเด็ดอยู่ที่นี่นั่นเอง สายตาที่ลึกล้ำเงียบสงบมองไปที่จูนจิ่ว ริมฝีปากบางที่เร้าใจคนเผยรอยยิ้มที่มีเลศนัย
เมื่อได้ยินหยูนเฉียวพูดว่า “จูนหยูนเสวี่ยเป็นคนที่คิดว่าตัวเองสูงส่งและหยิ่งยโส เฟิ่งเทียนฉี่ตอนนี้เป็นเพียงคนไร้ประโยชน์ นางต้องไม่ยอมแต่งงานด้วยอยู่แล้ว”
“ทำไมนางไม่ยอมแต่งงานล่ะ? องค์ชายรัชทายาทยอมขอแต่งงานในงานเลี้ยงวันเกิด นางก็ยังดีอกดีใจไม่ใช่หรือ? พวกเขาดูเหมาะสมกันดี ควรที่จะอยู่ด้วยกันตั้งนานแล้ว จะได้ไม่ต้องมารบกวนพี่สาวเก้า ” จูนเสี่ยวเหล่ยบึนปากใส่ แสดงสีหน้าที่รังเกียจและโกรธเคือง ไม่แม้แต่จะคิดเข้าข้างจูนหยูนเสวี่ยในฐานะคนตระกูลจูนด้วยกันเลย
หัวใจทั้งดวงของนางล้วนเป็นของพี่สาวเก้าคนเดียว จูนเสี่ยวเหล่ยหนักแน่นในความคิด
สายตาเยือกเย็นของจูนจิ่วมองจ้องไปที่จูนหยูนเสวี่ยที่ถูกคลุมหัวด้วยผ้าสีแดง นางถูกลากตัวเข้ามาที่ตำหนักใหญ่ สตรีที่บุ่มบ่ามบังคับให้นางโค้งคำนับ ด้านข้างมีเฟิ่งเทียนฉี่นั่งอยู่บนรถเข็น ภาพเหตุการณ์ตรงหน้าดูแล้วแปลกพิลึกจริงๆ
จูนจิ่วเปิดปากพูด “จูนหยูนเสวี่ยไม่รู้ว่าเฟิ่งเทียนฉี่อยู่ในสภาพนี้”
น้ำเสียงที่เรียบนิ่ง ทำให้ทุกคนหันหน้ากลับไปมองนางอย่างพร้อมเพรียง สถานที่ที่พวกเขากำลังนั่งอยู่ตอนนี้ เป็นที่ที่เฟิ่งเซียวเตรียมไว้ให้เฉพาะ สามารถทำให้พวกเขามองเห็นภาพงานแต่งงานทั้งหมด แต่แขกที่เข้าร่วมงานแต่งงานกลับมองไม่เห็นว่าพวกเขานั่งอยู่ตรงนี้
กู่ซงหัวเราะฮ่าๆเสียงดัง เขาทำได้ทำลายความเงียบนั้นลงไป “ถ้าอย่างนั้นก็ดีมากเลย อยากรู้จริงๆตอนที่จูนหยูนเสวี่ยรู้สภาพความเป็นจริงของเฟิ่งเทียนฉี่ นางจะมีสีหน้าอย่างไร? ”
หยูนเฉียวพูด “มันจะต้องน่าทึ่งเป็นอย่างมาก”
“ต้องน่าทึ่งแน่นอน” หยูนจ้งจิ่นกระตุกตรงมุมปาก เขาพูดว่า “งานแต่งงานของจูนหยูนเสวี่ยกับเฟิ่งเทียนฉี่ในครั้งนี้ ทั่วฟ้าดินนี้ล้วนรับรู้ ต่อให้พวกเขาจะไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ หรือว่าเฟิ่งเทียนฉี่ตายไป จูนหยูนเสวี่ยก็ไม่สามารถหนีพ้นไปได้ตลอดชีวิต”
ทุกข์ทรมานไหม?
หลายปีที่ผ่านมาจูนหยูนเสวี่ยกับเฟิ่งเทียนฉี่รักกันดีมาก หวานจนเหลือทน ในเมืองหลวงนี้มีใครที่ไม่รู้บ้างความรักคลุมเครือระหว่างพวกเขา? ในเมื่อพวกเขามองข้ามการหมั้นของจูนจิ่วก่อน ตอนนี้อยากบิดเพี้ยวก็เป็นไปไม่ได้แล้ว จูนหยูนเสวี่ยหญิงร้าย เฟิ่งเทียนฉี่ชายเลว จับมาคู่กันดีจะตายไม่ใช่หรือ
ภายในตำหนักใหญ่ จูนหยูนเสวี่ยถูกอุดปากไว้ นางเห็นเพียงภาพบนปลายเท้า แต่หูได้ยินเสียงซุบซิบนินทาจากทุกทิศ
“องค์ชายรัชทายาทกับคุณหนูใหญ่ตระกูลจูนทำไมแต่งงานกะทันหัน? อีกอย่างสีหน้าของฮ่องเต้กลับฮองเฮาดูอึมครึมเกินไปหน่อยนะ ”
“เจ้าจะไปรู้อะไร องค์ชายรัชทายาทตอนนี้พิการไปแล้ว จูนหยูนเสวี่ยคือตัวล้างมลทิน น่าสงสารจูนหยูนเสวี่ย ต่อให้เป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลจูนแล้วจะอะไรได้ สุดท้ายแล้วก็ต้องฟังคำสั่งของวังหลวงอยู่ดี บอกให้แต่งงานก็ต้องแต่งงานเลย แต่ทว่านางกับองค์ชายรัชทายาทรักกันลึกซึ้ง ให้นางแต่งงานด้วยก็ไม่ได้ลำบากใจอะไร ”
“แต่ว่าองค์ชายรัชทายาทอาการหนักขนาดนั้น จูนหยูนเสวี่ยแต่งงานไปจะต้องเป็นหม้ายทั้งเป็นหรือ? ”
หนึ่งไหว้ฟ้าดิน
จูนหยูนเสวี่ยดิ้นรนสุดชีวิต แต่ภายใต้การกดขี่บังคับของสตรีผู้บุ่มบ่ามนั้น พละกำลังถูกล็อคเอาไว้ จูนหยูนเสวี่ยต่อต้านไม่ได้เลย นางส่ายหัวสุดชีวิต นางไม่แต่ง
นางเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลจูน นางคือจูนหยูนเสวี่ย นางไม่ต้องการแต่งงานกับองค์ชายรัชทายาท นางยังต้องไปอู๋อจง ด้วยความงามของนาง แต่งงานกับใครก็ดี? เฟิ่งเทียนฉี่ไม่คู่ควรกับนาง คนที่เฟิ่งเทียนฉี่ควรแต่งงานด้วยคือจูนจิ่วที่ต่ำต่อยคนนั้น
สองไหว้พ่อแม่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...