บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 173

บทที่ 173 มีสุนัขกำลังเห่าร้อง

เมื่อถึงสนามฝึกซ้อม ที่นี่เสียงดังคึกคักยิ่งกว่าตลาดสดนับร้อยเท่า ทว่าเมื่ออยู่ในสายตาจูนจิ่วกลับรู้สึกว่าเสียงดังรบกวนจนปวดหัว ขมวดคิ้วเดินไปที่สนามฝึกซ้อม หยูนเฉียวพวกเขาอยู่ที่นั่นกำลังโบกมือเรียกนาง

ไม่รอให้นางเดินไปหา พวกหยูนเฉียวเดินเข้ามาหาก่อน หยูนเฉียวเปิดปากพูด “แม่นางจูน หลังงานแข่งขันวันนี้ ท่านพ่อข้าอยากเชิญเจ้าร่วมทานข้าวด้วยกัน จะได้ไหม?”

เมื่อวานไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนสะสมพลังกำลังของจูนจิ่ว ทว่าวันนี้หลังการแข่งขันเสร็จ จะดื่มฉลองให้หนำใจก็ไม่เป็นไร เจ้าบ้านตระกูลหยูนรีบสั่งให้หยูนเฉียวมาเรียนเชิญจูนจิ่ว จูนจิ่วพยักหน้าตอบตกลง ไม่ได้ปฏิเสธ

จูนเสี่ยวเหล่ยกับกู่ซงกำลังพูดคุยถึงเรื่องการจับฉลากการแข่งขัน วันนี้มีหกคน สี่คนเป็นคนของพวกเขา ไม่ว่าจะจับฉลากอย่างไรคนของพวกเราก็ต้องเจอกันเอง หากต้องปะทะกันจริง ยิ่งเป็นการยากเข้าไปใหญ่

จูนจิ่วยิ้มมุมปาก “นี่ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย ก็ใช้กำลังความสามารถในการคว้าชัยชนะสิ”

“หากต้องเจอกู่ซงล่ะ?” จูนเสี่ยวเหล่ยมองจิกไปที่กู่ซง กู่ซงฉีกยิ้มแสดงท่าทีว่า เขาจะไม่ยอมออมมือเด็ดขาด

จูนจิ่วเหลือบตาไปมองพวกเขา แล้วพูดว่า “ก็คิดเสียว่าตัวเองดวงซวย”

การจับฉลากสามารถตัดสินได้ว่า โชคจะนำก่อนตามด้วยพลังกำลังที่แท้จริง

เหมือนกับเมื่อวานเลย โล่ชิวเห้อขึ้นไปพูดกฏกติกาบนเวทีก่อน เพราะการแข่งขันเข้มข้นมากขึ้น จึงพูดเน้นกำชับว่าหากคู่ต่อสู้ยอมแพ้แล้ว ห้ามลงมือต่ออีกและห้ามรุนแรงถึงขั้นเอาชีวิต โดยเหตุนี้จูนหยูนเสวี่ยทำทีไม่อยากรับฟังเลย

ทั้งหกคน จับฉลาก รอบที่หนึ่งจูนเสี่ยวเหล่ยกับโหลไป๋เฉิง

พวกเขามองดูการประลองบนเวทีอยู่ข้างล่าง หยูนเฉียวประเมินการณ์ “โหลไป๋เฉิงพละกำลังแข็งแกร่ง รับมือไม่ง่าย”

“รับมือไม่ง่ายจริงแหละ ครั้งนี้ จูนเสี่ยวเหล่ยมีอันตรายแล้ว” กู่ซงพละกำลังสูงที่สุด เขามองแวบเดียวก็วิเคราะห์สถานการณ์ได้ ทว่ากู่ซงมองดูไปสักครู่ใหญ่ก็พูดขึ้นว่า “แต่ว่าจูนเสี่ยวเหล่ยได้ฝึกซ้อมที่เขาปู้หว่งก็ไม่น้อย แพ้ชนะจะตกไปที่ใคร มันยังไม่แน่นอน”

ไม่เพียงแต่เป็นการฝึกซ้อมอย่างเดียว จูนเสี่ยวเหล่ยยังได้ดื่มน้ำหยกทิพย์ ซึ่งเทียบกับโหลไป๋ยี่แล้ว มันย่อมต่างกันมากอยู่แล้ว สิ่งที่จูนเสี่ยวเหล่ยขาดคือเรื่องระดับชั้นระหว่างนางกับโหลไป๋ยี่ต่างหาก

เมื่อเห็นการต่อสู้ระหว่างจูนเสี่ยวเหล่ยกับโหลไป๋ยี่ที่ผ่านไปแล้วยี่สิบท่า จูนจิ่วพูดว่า “รอบนี้ จูนเสี่ยวเหล่ยมีโอกาสชนะได้”

ความจริงเป็นอย่างที่จูนจิ่วพูดไว้ไม่ผิด จูนเสี่ยวเหล่ยต่อสู้จนถึงสุดท้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ชนะโหลไป๋ยี่อย่างฉิวเฉียดและชนะการแข่งขันรอบนี้ ต่อหน้าจูนเสี่ยวเหล่ยที่มีอายุน้อยกว่าตัวเองสิบปีเต็มๆ โหลไป๋ยี่แพ้อย่างพึงพอใจ

จูนเสี่ยวเหล่ยกระโดดลงจากเวทีประลองด้วยความดีอกดีใจ “พี่สาวเก้า ข้าชนะแล้ว”

“เยี่ยมมาก เอายาไป พักรักษาตัวก่อนเถอะ” จูนจิ่วยื่นยาหนึ่งขวดให้กับจูนเสี่ยวเหล่ย จูนเสี่ยวเหล่ยไม่ยอมไป นางจะอยู่ที่นี่รอผลการแข่งขันของจูนจิ่วพวกเขา

หยูนเฉียวเลิกคิ้วขึ้นสูง พูดเชิงขำว่า “ตอนนี้เหลือสี่คน พวกข้าสามคนล้วนมีโอกาสเจอกับจูนหยูนเสวี่ย ส่วนที่เหลือก็ต้องสู้กันกันเองแล้วล่ะ”

ทว่ายังไม่ทันจับโดนจูนหยูนเสวี่ย เขากับกู่ซงจับฉลากโดนซึ่งกันและกัน ได้แต่มองดูกันไปมา หยูนเฉียวประสานมือคำนับแล้วพูดว่า “เอาล่ะ งั้นข้าขึ้นไปก่อน กู่ซง อีกประเดี๋ยวข้าคงไม่ยอมอ่อนข้อให้หรอกนะ เจ้าคอยดูก็แล้วกัน”

“ได้สิ ข้าจะรอดู” กู่ซงหัวเราะอย่างสง่าผ่าเผย

เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นบนเวที ข้างหูมีเสียงดุร้ายของจูนหยูนเสวี่ยลอยแว่วมา นางพูดว่า “จูนจิ่ว รอบต่อไปก็เป็นเจ้ากับข้าแล้ว ข้าจะทำให้เจ้าตายอย่างอนาถ”

“จูนเสี่ยวเหล่ยเจ้าได้ยินไหม? เหมือนที่นี่มีสุนัขกำลังเห่าร้อง น่ารำคาญจริงๆ”

“ได้ยินสิ” จูนหยูนเสวี่ยเงยหน้าขึ้นมา พยักหน้าด้วยท่าทีเข้มงวดสนองคำพูดของจูนจิ่ว เมื่อรู้ว่าจูนจิ่วกำลังด่าว่านางร้องเหมือนหมา จูนหยูนเสวี่ยโกรธจนใบหน้าบูดบึ้ง หายใจฟืดฟาด จูนหยูนเสวี่ยกำหมัดแน่น นางจ้องมองจูนจิ่วด้วยสายตาอำมหิตดุร้าย

หื้ม ไม่รีบร้อน รอขึ้นเวทีประลองก่อน นางจะทำให้จูนจิ่วรู้ถึงความโหดร้ายของนาง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ