บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 205

บทที่ 205 ไม่ใช่โบตั๋นและไม่เป็นผี

ตายใต้ดอกโบตั๋น เป็นผีก็สำราญ แต่ว่าโม่อู๋เยว่ไม่ใช่ดอกโบตั๋น ดอกโบตั๋นที่งดงามเพียงใด เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาต่อให้เป็นสิ่งประดับบนเสื้อ คุณสมบัติก็ยังดีไม่เพียงพอ ก็เป็นได้เพียงที่ปูเท้าของเขาเท่านั้น ก็แค่กริบดอกไม้ ส่วนจูนจิ่วไม่ได้อยากเป็นผีเหมือนกัน

ลมหายใจประสานเข้าหากัน ปากและฟันกลมกลืนเป็นเนื้อเดียว

ตอนที่แยกออกจากกัน เส้นสีเงินยังเกี่ยวพันกันอยู่ระหว่างริมฝีปากกับฟัน จูนจิ่วผลักตัวออกจากโม่อู๋อย่างนิ่งเงียบ แล้วกลับไปนั่งในอ่างอาบน้ำ เส้นสีเงินขาดหายไป แต่กลับไม่ได้ขจัดบรรยากาศที่หดหู่ออกไปเลย โม่อู๋เยว่จ้องมองที่ริมฝีปากแดงอย่างลึกซึ้ง เขาเพิ่งได้ลองชิม หอมหวานมาก

เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของโม่อู๋เยว่ จูนจิ่วสมองว่างเปล่าพร้อมเลียริมฝีปาก ทันใดนั้นรู้สึกได้ถึงบรรยากาศภายในห้องที่แลดูอึมครึมขึ้นมา มีสัตว์ดุร้ายตัวหนึ่งกำลังเพ่งเล็งนางอยู่ รอกินนางเข้าไปในท้องให้สิ้นซากอยู่ตลอดเวลา กินจนสะอาดสะอ้านไม่ให้เหลือร่องรอยเลือดเนื้อเลยสักนิด

นี่โม่อู๋เยว่ไม่ได้ยั่วยวนนาง แต่เป็นนางต่างหากที่ยั่วยวนจนภูเขาไฟจะประทุแล้ว

นางกำมือกดทับตรงริมฝีปาก จูนจิ่วเอียงหัวไปทางอื่นแล้วไอแห้งๆว่า “หากครั้งหน้ายังจูบข้าจนน้ำลายเต็มหน้าแบบนี้อีก โม่อู๋เยว่ ข้าจะเปลี่ยนคนแล้วนะ”

“เปลี่ยนเป็นใคร? ข้าจะบีบมันให้ตาย”

“……เปลี่ยนเป็นเสี่ยวอู่ไง” จูนจิ่วพูดขอไปที เสี่ยวอู่ที่ได้ยินคำพูดนี้ รีบกระโดดออกไปทางหน้าต่างทันที

พอโม่อู๋เยว่หันหน้ากลับไปมองเห็นก้นกลมๆของเสี่ยวอู่หายไปทางหน้าต่างพอดี เขายกมุมปากขึ้นสูง หัวเราะเสียงทุ้มต่ำที่เย้ายวนใจคน โม่อู๋เยว่หันหน้ามาทางจูนจิ่ว “ดูท่าแล้วเสี่ยวอู่ไม่ได้อยากทำแบบนั้นนะ”

“มันก็แค่เอาตัวรอดเก่ง เอาล่ะ เข้าเรื่องสักที” จูนจิ่วถือม้วนหนังสือหยกไว้ในมือ สีหน้านางดูเหมือนตกใจและประหลาดใจ

จูนจิ่วคาดไม่ถึงว่ากองทัพเย่สิงในตอนนี้จะยิ่งใหญ่ได้ถึงปานนี้ ไม่เพียงแต่เหอซ่านและโจ่ฉี กองทัพเย่สิงทั้งหมดแทรกตัวเข้าไปอยู่ในอู๋อจงแล้ว ข้อมูลจากม้วนหนังสือหยกนี้หากรั่วไหลออกไป เกรงว่าทั้งอู๋อจงคงเกิดความโกลาหลวุ่นวายแน่

ผู้นำทั้งห้า ล้วนอยู่ในตำแหน่งสูงของอู๋อจง ทหารที่อยู่เบื้องล่างกองทัพเย่สิง อยู่ในอู๋อจงก็มีตำแหน่งที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน พวกเขาเป็นเหมือนตาข่ายแหผืนหนึ่ง ครอบงำทั้งอู๋อจงไว้โดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว

ไม่รู้ว่าอู๋อจงคิดจะทำอะไร สิ่งที่จูนจิ่วรู้ดีคือ หากอำนาจนี้ตกไปอยู่ในมือของจูนหยูนเสวี่ย เรื่องจะแปรเปลี่ยนจนยากต่อการต้านทานได้

สายตานางแลดูหนักแน่น พูดเสียงดุดัน “ข้อมูลจากกองทัพเย่สิงอยู่ข้างในนี้หมดแล้วใช่ไหม?”

“ใช่ เรื่องที่เหลิ่งยวนจัดการเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เชื่อใจเขาได้” โม่อู๋เยว่พยักหน้า”

จูนจิ่วพูด “ขอบคุณเหลิ่งยวนแทนข้าด้วย สำหรับกองทัพเย่สิง ข้าคิดว่าตอนนี้ข้ามีความมั่นใจมากขึ้นมาบ้างแล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไร ล้วนสามารถคุยกันด้วยดีได้ ”

“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์จะทำอะไร?”

“รอจูนหยูนเสวี่ยออกจากค่ายเขาวงกต พอถึงตอนนั้นเจ้าก็จะรู้เอง” จูนจิ่วอุบเรื่องที่สำคัญไว้ แต่กลับไม่รู้ว่าโม่อู๋เยว่ได้มองผ่านทางกระดิ่งตั้งนานแล้ว มองเห็นอย่างชัดเจนเลยล่ะ ซึ่งเขายังไม่ได้เปิดเผยความลับอันนี้ โม่อู๋เยว่ชอบท่าทางที่จูนจิ่วดื้อรั้นเจ้าเล่ห์แบบนี้ มันทำให้เขารู้สึกจั๊กจี้หัวใจ

ภายในค่ายเขาวงกต มีศิษย์ที่คว้าดอกตงเตียได้เดินออกมาตามๆกัน ทว่าพวกเขาไม่ได้เห็นการสาธิตจากจูนจิ่ว คนมากมายถึงแม้จะคว้าดอกตงเตียมาได้อย่างสุดชีวิตหรือได้มาด้วยความโชคดี ทว่ากลับไม่รู้ว่าต้องใช้อย่างไร ต้องออกมาอย่างไร

ใช้เวลาไปตั้งห้าวัน พอห้าวันผ่านไป ลูกศิษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่ล้วนผ่านด่านออกมา หนึ่งในนั้นรวมถึงจูนหยูนเสวี่ยและมู่หรงหนันจินด้วย ทั้งสองคนหายใจโรยรินจนต้องมีคนหามออกไป จนถึงบัดนี้ มีคนผ่านด่านค่ายเขาวงกตทั้งหมดสิบห้าคน

ตอนที่กู่ซงถึงที่เวทีประลองอู๋อจงแล้วป่าวประกาศข่าวสาร เขาพูดว่า “พรุ่งนี้ข้ากับศิษย์พี่อู๋ซานจะมารับพวกเจ้าที่นี่เพื่อขึ้นไปบนวิหารยอดเขา พอถึงตอนนั้นพวกเจ้าจะถูกตัดสินที่นั้นว่าต้องไปอยู่สำนักไหน”

หลังจากที่ประกาศเสร็จ กู่ซงก้าวเท้าเดินไปถึงตรงหน้าจูนจิ่วโดยตรงเลย เขาถูมือไปมา แล้วยื่นสูตรยาให้จูนจิ่วหนึ่งแผ่น “อันนี้แหละเป็นสูตรยาที่ข้าเคยบอก จูนจิ่วเจ้าลองดูสิ”

จูนจิ่วเปิดอ่านเปิดอ่านไปหนึ่งรอบ สีหน้านิ่งเงียบ “ข้าสามารถกลั่นได้ วัตถุดิบยาล่ะ?”

กู่ซงพูด “รอเจ้าตัดสินใจว่าจะไปสำนักไหน ข้าจะส่งคนเอาไปให้ ข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่พอใช้ ฉะนั้นจึงเตรียมวัตถุดิบเยอะไปหน่อย ไม่ค่อยสะดวกต่อการขนย้ายไปมา ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ