บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 207

บทที่ 207 คิดจะก่อเรื่อง

จูนจิ่วเอ่ยปากพูด “จูนหยูนเสวี่ยเก็บเอาไว้ก่อน แผนที่พวกเจ้าจะยกยอนางดำเนินต่อไป อีกอย่างต้องดูโอเวอร์มากยิ่งกว่าแผนที่พวกเจ้าวางเอาไว้ ในขณะเดียวกันอย่าลืมปกป้องนางด้วย แบบนี้จะยิ่งทำให้พวกเขาเชื่อได้ว่านางนี่แหละเป็นแม่นายของกองทัพเย่สิง”

“หากพวกเขายอมมาเพื่อลูกสาวของจูนหมิงเย่จริง ก็ใช้จูนหยูนเสวี่ยเป็นตัวล่อ หากไม่ใช่ ค่อยฆ่านางทิ้ง ก็ยังไม่สาย” แนวคำพูดดูเปลี่ยนไปทันที จูนจิ่วหรี่ตาลงต่ำ “ทว่าข้ารู้สึกรำคาญจูนหยูนเสวี่ยยิ่งนักมักจะมาทำลายความสงบของข้า”

“แม่นายวางใจได้ พวกข้าจะดูตัวจูนหยูนเสวี่ยไว้เอง ไม่ให้นางไปรบกวนท่านอีก” โจ่ฉีเปิดปากพูด

จูนจิ่วมองดูเขาทีหนึ่ง ส่ายหัวไปมา เพื่อแผนการ จูนหยูนเสวี่ยที่อยู่ในสถานะ “แม่นาย” ของกองทัพเย่สิง ไม่ควรกลัวนาง อีกอย่างพวกเขามีความแค้นต่อกัน ยิ่งไม่ควรให้จูนหยูนเสวี่ยหลบซ่อนตัวเอาไว้ ตัวล่อแบบนี้เห็นอยู่ตำตาว่าต้องพ่ายแพ้อยู่แล้ว

จู่ๆเหมือนคิดอะไรออก มีไอเดียผุดขึ้นมา จูนจิ่วก้าวเท้าไปหาจูนหยูนเสวี่ย “แค่พวกเจ้าผลักดันนางยังไม่พอ เพิ่มไฟเข้าไปอีก ความแรงของไฟถึงจะเพียงพอ ”

“แม่นายท่านอยากทำอะไร?”

จูนจิ่วไม่ได้วนใจเหอซ่าน นางเงยหน้ามองไปทางโม่อู๋เยว่แล้วฉีกยิ้ม “ทำฉากม่านเก็บเสียงอันหนึ่งได้ไหม?”

“ได้” คำตอบที่นิ่งเงียบ แค่เพียงคำเดียว กลับให้ความรู้สึกที่เย้ายวนใจคนอย่างไม่สิ้นสุด คำตอบแผ่วเบาที่ดังอยู่ข้างหู ช่างล่อใจคนยิ่งนัก โม่อู๋เยว่ขยับเพียงปลายนิ้ว วิหารใหญ่แห่งนี้ถูกม่านเก็บเสียงครอบคลุมทันที ไม่ว่าเสียงใดก็หลุดออกไปไม่ได้

โจ่ฉีและเหอซ่านรู้สึกได้ถึงพลังอำนาจที่น่ากลัวพร้อมๆกัน พวกเขาแอบมองโม่อู๋เยว่ด้วยความน่าทึ่ง สีหน้าแลดูตกตะลึงอยู่ไม่สุข

ชายลึกลับผู้นี้คือใครกันแน่? ทำไมเขาอยู่กับแม่นายด้วยกัน? ทำไมท่าทีที่แม่นายมีต่อเขามันดูพิเศษแตกต่างออกไป เหอซ่านรู้สึกได้ทันทีว่า ข้อมูลที่ตัวเองสั่งให้คนไปตรวจสอบที่แคว้นเทียนโจ้ง มันยังไม่เพียงพออยู่มาก ซึ่งจูนจิ่วดูยิ่งใหญ่ ฉลาด เก่งกาจยิ่งกว่าข้อมูลลับพวกนั้นเสียอีก

พวกเขาหันหน้ากลับไปมอง เห็นจูนจิ่วยืนอยู่ด้านข้างของจูนหยูนเสวี่ย

เหมือนสัมผัสได้ถึงสิ่งอันตรายเข้าใกล้ จูนหยูนเสวี่ยที่หลับตาและสลบอยู่ ยังคงมีอาการสั่นหวาดผวา จูนหยูนเสวี่ยอาจจะจำไม่ได้ แต่ว่าร่างกายของนางกลับจำความหวาดกลัวที่มีต่อจูนจิ่วได้

เมื่อยกแขนขวาขึ้นมาวางไว้ตรงหัวของจูนหยูนเสวี่ย พลังจิตของจูนจิ่วซึมเข้าสู่ภายใน ทันใดนั้นเสียงร้องเจ็บปวด ดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง แต่ละเสียงช่างแสบแก้วหู เสียงร้องที่ดังจนหัวใจบีบรัดแน่นเหมือนจะถูกคนบีบจนแหลกสลาย

ดวงตาที่เบิกกว้าง โจ่ฉีและเหอซ่านมองจูนจิ่วอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา พวกเขาเห็นท่าทางของจูนจิ่ว รู้สึกกลัวจากระดับจิตวิญญาณตามสัญชาตญาณ นั่นคือพลังชนิดหนึ่งที่สามารถสังหารพวกเขาได้ทุกเมื่อ น่ากลัวอย่างยิ่ง

เสี่ยวอู่นั่งอยู่ที่โต๊ะ มองดูจูนจิ่วอย่างร้อนใจ มันรู้แจ้งยิ่งกว่าใคร พลังอำนาจนี้ถึงแม้จะยิ่งใหญ่ ทว่าใช้บ่อยไม่ได้

เพราะไม่ใช่ร่างกายเดิม ความลงล็อคของจิตวิญญาณไม่ได้พอดีร้อยเปอร์เซ็น หากใช้พลังจิตบ่อยๆ อาจจะทำให้ร่างกายรองรับไม่ไหว จากนั้นแหลกสลายพังทลาย คงมีแต่นายท่านที่กล้าใช้พลังจิตด้วยความเสี่ยงเช่นนี้

เสียงกรีดร้องเจ็บปวดดังต่อเนื่องประมาณหนึ่งก้านธูป ฟังจนโจ่ฉีพวกเขาหูชาไปหมด ในหัวเหมือนมีเสียงสะท้อนดังเหวิงๆ โชคดีที่โม่อู๋เยว่กั้นเสียงดังสนั่นอันนี้ไว้ได้ มิฉะนั้นหากเสียงแพร่ออกไปแล้วเกิดมีคนได้ยิน ตามเสียงนั้นมา พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร

จูนจิ่วเก็บมือกลับมา “เอาล่ะ”

บนหน้าผากนางมีเหงื่อซึมออกมาก พอถอยหลังไปหนึ่งก้าวร่างกายมีอาการโยกนิดหน่อย นางใช้พลังจิตติดต่อกันหลายวัน สำหรับจูนจิ่วแล้วไม่ใช่ภาระเล็กๆเลย

ร่างกายล้มหงายไปด้านหลังอย่างอ่อนแรง ทันใดนั้น นางล้มลงสู่อ้อมกอดที่กว้างขวางอบอุ่น กลิ่นอายที่คุ้นชินถาโถมเข้ามา หัวใจร้อนรุ่มดั่งไฟเผ่า จูนจิ่วเป็นคนที่ชอบดื่มดำความสุข นางปล่อยให้ร่างกายผ่อนคลายพิงอยู่ในอ้อมอกของโม่อู๋เยว่

เมื่อเงยหน้าขึ้นมา เห็นโจ่ฉีพวกเขาสองคนมีสีหน้าตกใจ พวกเขาหวาดกลัวไม่กล้าสบตาโม่อู๋เยว่ แต่ต้องตกตะลึงที่ว่าทำไมจูนจิ่วถึงได้สนิทสนมกับชายแปลกหน้าคนหนึ่งได้ขนาดนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ