บทที่ 239 ตัวข้านั้นไม่ร่วมทัพกับพวกไก่กา
“หินทิพย์หนึ่งถุงต่อหนึ่งคน” เมื่อชิงหยู่เอ่ยขึ้น ดวงตาของเหล่าสาวกแห่งเจี้ยนจงก็เบิกตากว้าง หินทิพย์ชั้นที่สอง หนึ่งถุง!! เจี้ยนจงเป็นที่หนึ่งในทั้งห้าสำนัก แต่มีเพียงสาวกผู้เยี่ยมยอดเท่านั้นที่จะได้รับหินทิพย์ชั้นที่สองในหนึ่งเดือนนี้
ชิงหยู่เลิกคิ้วขึ้นพลางยิ้มกริ่ม และขยิบตาแก่เหล่าสาวก กล่าวต่อว่า: “ดูแลอาเจ็กเสี่ยวช่วยของพวกเจ้าให้ดี ข้านั้นจะมีรางวัลให้อย่างงาม!”
“พวกเรา เหล่าผู้อาวุโสก็มีรางวัลอย่างงามให้เช่นกัน!” เสียงของ ผู้อาวุโสชั่งกวนจากที่นั่งผู้สูงศักดิ์ดังมา ผู้อาวุโสโจวเตี๋ยได้ยินเสียงของพวกเขา
“เจ้าสำนัก พวกเราเหล่าผู้อาวุโสหาได้ต้องการรางวัลใดไม่ การปกป้องอาเจ็กเสี่ยวช่วยนั้นเป็นสิ่งพึงกระทำ หากมีผู้ใดบังอาจมารังแกอาเจ็กเสี่ยวช่วย พวกเราจะตีมันจนพ่อแม่จำไม่ได้เลยล่ะ!” หวางฉี่อ๋างทำท่าทางปล่อยหมัดไปมา และกล่าวออกมาด้วยแรงกล้า
สาวกหนึ่ง: “ใช่แล้ว! เล่นมันให้เละ! เอาให้หัวมันหลุดจากบ่าไปเลย!”
สาวกสอง: “เล่นจนกว่ามันจะคุกเข่าเรียกอาเจ็กเสี่ยวช่วยว่า ท่านอาเจ็กเสี่ยวช่วย! แล้วก็กราบแทบเท้าอาเจ็กเสี่ยวช่วยด้วย!”
“ฮิ——” จูนจิ่วกลั้นขำไม่ไหวที่จะปล่อยออกมา คนบ้าพวกนี้นี่หนา! ไม่ต้องมองก็รู้ว่า จูนหยูนเสวี่ยที่อยู่ตรงข้ามจะโมโหไปอีกนานแสนนาน สีสันของจานชามยังดูดีกว่าสีหน้าของนาง พวกเบาปัญญาทั้งหลายคงได้ยินกันหมดแล้ว ว่านี่มันเป็นเรื่องพิเศษเฉพาะนางเท่านั้น!
มุมปากโค้งงอ จูนจิ่วเอ่ยว่า: “ศิษย์พี่ อย่าทำให้เป็นเรื่องเป็นราวเลย พวกเรายังต้องร่วมการแข่งขันกันอีก”
“ก็ได้ก็ได้~~” ชิงหยู่โอนอ่อนพลางขยิบตาให้กับจูนจิ่ว และระเบิดเสียงเราะดังสนั่น เป็นบรรยากาศที่ร่าเริงและสดใสระหว่างพวกเขา เหล่าสาวกของทั้งสี่สำนักที่เฝ้าดูอยู่ต่างงงงวย แต่นั่นก็เป็นอำนาจอันสูงส่งของเจ้าสำนัก!ช่างใกล้ชิดกับปวงชนยิ่งนัก ทั้งยังดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งสำนักจะประคบประหงมจูนจิ่วกันอย่างมาก! จนแต่ละคนต่างอิจฉาตาร้อนกันไปหมด
ส่วนตันจงนั้นมาอย่างเงียบๆ ตามด้วยสาวกแห่งชางไห่และสำนักหุ้นหยวน สำนักทั้งห้ามาถึงกันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว! ชิงหยู่จึงสะบัดแขนเสื้อ หยกทิพย์ก็ลอยออกมาและตกลงบนฝ่ามือของทุกๆคน
ชิงหยู่ขยิบตาแก่จูนจิ่วและเอ่ยว่า: “ไปเถิด! ขอให้ศิษย์น้องของข้าได้รับชัยชนะ ชิงที่หนึ่งมาได้!”
“ได้เลยเจ้าค่ะ” จูนจิ่วถือหยกทิพย์ นำเข้าเขตลับเทียนอู่ไป ด้านหลังของนางก็มีเสี่ยวอู่และสาวกสำนักเทียนอู่จง ทุกๆคนพากันเข้าไปทีละคนอย่างเป็นระเบียบ ต่อด้วยสาวกแห่งเจี้ยนจง แต่พวกเขาก็จงใจเบียดสาวกเจี้ยนจงไปด้านข้าง กล่าวด้วยความโกรธอย่างเย็นยะเยือก “หลีกไป!”
สาวกจี้ยนจงคนหนึ่งโมโหเลือดขึ้นหน้า กัดฟันกรอก ชิวหยุนหยุนเอ่ยว่า: สาวกสำนักเทียนอู่จงชักจะทำเกินไปเสียแล้ว!”
จูนหยูนเสวี่ยชักสีหน้า แต่ไม่กล่าวสิ่งใด นางที่อยู่ด้านหลังพวกสำนักเทียนอู่จงก็มุ่งตรงเข้าไปยังเขตลับเทียนอู่ทันที ผู้ติดตามของนางต่างเดินตามหลังไป สาวกเจี้ยนจงที่ยังเหลืออยู่ก็ได้มองไปที่เหยียนไห่และหญิงสาวผู้สวมผ้าคลุมหน้า
“ไปเถิด” สายตาของหญิงสาวผู้คลุมใบหน้าจ้องมองจูนหยูนเสวี่ย แววตาของนางนั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ศิษย์น้องฟู๋หลิงของเจ้าสำนักถูกจูนหยูนเสวี่ยลอบทำร้ายให้เสียโฉม ซึ่งหลังจากที่จูนจิ่วส่งยาฟื้นฟูมายังเจี้ยนจง ถึงได้ฟื้นฟื้นฟูพละกำลังเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน แต่จูนหยูนเสวี่ยก็กระทำไว้อย่างโหดเหี้ยม จึงต้องใช้เวลาอยู่พักใหญ่ในการฟื้นฟูใบหน้านี้
ฟู๋หลิงกลอกตาพลางมุ่งเข้าไปยังเขตลับเทียนอู่ ในใจของนางนั้นคิดว่า แม้นไม่ใช่การแข่งขันตัวต่อตัวที่เหมาะสม แต่ยังไงซะในเขตลับเทียนอู่นี้ ก็เหมาะสมแก่การล้างแค้นยิ่งกว่า!
หลังจากเจี้ยนจงเข้าไป ก็เป็นตันจง ตามด้วยสำนักหุ้นหยวนและชางไห่จง โดยมีสาวกผู้เข้าร่วมทั้งหมดกว่า 156 คน จากนั้นทางเข้าสู่เขตลับเทียนอู่ก็ปิดตัวลง บนกระจกน้ำทั้งสี่ทิศ ณลานฝึกวิทยายุทธเฉียนคุน ค่อยๆมีภาพปรากฏขึ้นหลังจากที่พวกเขาเหล่านั้นเข้าสู่เขตลับเทียนอู่
ชิงหยู่กลับมายังที่นั่ง และร่ายเรียกกระจกน้ำเล็กๆไว้ด้านหน้า ทันใดนั้นเหล่าผู้อาวุโสและสาวกแห่งสำนักเทียนอู่จงก็พากันมาดูด้วย แววตาต่างจดจ่อไปยังจูนจิ่วและทุกๆคน ที่อยู่บนจอนั้นด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
และเลิกคิ้วพลางมองไปที่โม่อู่เยว่ ชิงหยู่ยิ้มกริ่ม “ผู้อาวุโสโม่ ไม่มาดูการแข่งของศิษย์น้องรึ?”
“ไม่จำเป็น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...