บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 249

บทที่ 249 ห้ามเปิดเผยจูนจิ่วเด็ดขาด

เขาอนุญาตให้เทียงฉิวเข้าเขตลับเทียนอู่จับตัวจูนหยูนเสวี่ยได้แล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมพวกเขายังยกกองทัพคิดกระทำการอื่นอีก หรือว่าผางชิงเยว่โกหกเขาเหรอ? เทียงฉิวยังมีเป้าหมายอื่น? ชิงหยู่นั่งไม่ติดกับที่ จึงรีบลุกขึ้นยืนเกินไปทางเหอซ่านและโจ๋วชิว เขาเอ่ยปากพูดว่า “รองเจ้าสำนักโจ่ และท่านเหอ ข้ามีเรื่องอยากคุยกับพวกท่านเป็นการส่วนตัว”

โจ๋วชิวกับเหอซ่านสบตากันครู่หนึ่ง โจ๋วชิวตกตะลึงและไม่เข้าใจ เหอซ่านเหมือนนึกถึงอะไรบางอย่าง เขาแสดงสีหน้ากำกวมให้กับโจ๋วชิว จากนั้นทั้งสองคนลุกขึ้นจากที่นั่งแขกผู้มีเกียรติตามๆกัน

สถานนะและยศถาบรรดาศักดิ์ของพวกเขาสูงส่งมีเกียรติ การที่ทั้งสามคนจากไปกะทันหันแบบนี้ ยิ่งเป็นจุดดึงดูดความสนใจจากคนรอบข้าง แต่ก็เดาไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น โม่อู๋เยว่ยอมลดตัวลงมาเพื่อกวาดสายตามองไปที่ทั้งสามคน โดยที่ไม่ต้องรอให้เขาออกคำสั่ง เหลิ่งหยวนก็สะกดรอยตามไปเอง

ด้านนอกลานฝึกวิทยายุทธเฉียนคุน ชิงหยู่ได้หาสถานที่หนึ่งที่เงียบสงบและไม่มีคน

ทันทีที่ฝีเท้าของเขาหยุดลง ก็รีบหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับคนทั้งสอง และถามว่า “รองเจ้าสำนักโจ่ และเหอซ่านทำไมพวกท่านต้องตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับเทียงฉิวด้วย?”

“เทียงฉิว?” โจ๋วชิวและเหอซ่านนิ่งอึ้งไปก่อน ตามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ

“พวกเจ้าไม่รู้จักเทียงฉิว?” การตอบสนองของทั้งสองไม่เหมือนแกล้งทำ ชิงหยู่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ตามด้วยเสียงดุดันว่า “พวกเจ้าไม่รู้ว่าศัตรูเป็นใคร ยังกล้าเป็นปฏิปักษ์กับพวกเขาหรือ? พวกเจ้า พวกเจ้าจะรนหาที่ตายก็ไม่ควรลากตัวศิษย์น้องเล็กเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย”

“เจ้าสำนักท่านรู้มากเพียงใด?” เหอซ่านสีหน้าเคร่งเครียด เขานึกถึงเรื่องเมื่อครึ่งปีก่อนที่ชิงหยู่อยู่ข้างนอกห้อง เกรงว่าคงเป็นครั้งนั้นที่ทำให้ชิงหยู่ได้ยินอะไรบางอย่าง ถึงได้เอ่ยปากถามพวกเขาเช่นนี้

ชิงหยู่หลับตาลง แล้วเอ่ยปากพูดว่า “ข้ารู้เพียงว่าพวกเจ้าล้วนเป็นกองทัพเย่สิง และศิษย์น้องเล็กถึงจะเป็นแม่นายของกองทัพเย่สิงตัวจริง ส่วนจูนหยูนเสวี่ยก็เป็นแค่กระดานปาเป้าที่มาสวมรอยแทน ข้าขอพูดกับพวกเจ้าตามจริง เทียงฉิวก็คือคนที่สวมชุดคลุมสีดำตามที่พวกเจ้ารู้ พวกเขามาก็เพื่อจับตัวแม่นายแห่งกองทัพเย่สิง ”

“ทว่าพวกเขาเข้าใจว่าแม่นายกองทัพเย่สิงคือจูนหยูนเสวี่ย ฉะนั้นตอนนี้ศิษย์น้องเล็กยังถือว่าปลอดภัย แต่ว่าหากยังยืดเยื้อต่อไปแบบนี้ ไม่มีใครรู้หรอกว่าสถานะของศิษย์น้องเล็กจะถูกเปิดเผยหรือไม่” ชิงหยู่พูดและมองดูทั้งสองด้วยความคลางแคลงใจ

ในฐานะที่เป็นเจ้าสำนักเทียนอู่ เขารู้จักเหอซ่านและเชื่อมั่นเหอซ่าน ทว่าโจ๋วชิวไม่เหมือนกัน

นับตั้งแต่วันที่เขาชื่นชอบจูนจิ่ว ณ บนเวทีอู๋อจงและรับนางเป็นศิษย์น้องเล็ก การปกป้องจูนจิ่วจึงเป็นหน้าที่ของศิษย์พี่คนนี้ ชิงหยู่จะไม่ยอมให้ผู้ใดมารังแกหรือทำร้ายจูนจิ่วเด็ดขาด

ทั้งสามคนเผชิญหน้ากัน ผ่านไปสักครู่ใหญ่ เหอซ่านถึงจะเอ่ยปากพูด น้ำเสียงขึ้นลงไม่นิ่ง “เทียงฉิว? ใช่เทียงฉิวในตำนานเล่าขานนั่นหรือเปล่า?”

ชิงหยู่พูด “ใช่ เทียงฉิวที่ระดับลูกศิษย์หรือผู้อาวุโสสำนักสามแห่งถึงจะมีสิทธิเข้าไปได้ พวกเจ้าใช้จูนหยูนเสวี่ยเป็นตัวล่อเทียงฉิวออก จนถึงตอนนี้ยังไม่รู้สถานะของศัตรูอีกหรือ?”

ตรงจุดนี้เป็นสิ่งที่ชิงหยู่เข้าใจยากจริงๆ

เหอซ่านและโจ๋วชิวต่างตกตะลึงและไม่อยากจะเชื่อ คนที่อยู่เบื้องหลังกลับเป็นเทียงฉิวที่อยู่เหนืออู๋อจง และเทียงฉิวเป็นหนึ่งในสำนักสามแห่ง ที่แท้ตอนนั้นคนที่ฆ่าท่านแม่ทัพกับฮูหยินก็คือพวกเขานั่นเอง ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่รู้สถานะของศัตรู แต่ว่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเทียงฉิวช่างลึกลับยิ่งนัก

พวกเขาไม่เคยเห็นเทียงฉิวเปิดเผยสถานะเลย หากอาศัยเพียงแต่พละกำลังของกองทัพเย่สิงในตอนนั้นคงไม่สามารถตรวจสอบถึงสำนักสามแห่งได้ พวกเขาสามารถเข้ามาในเทียนอู่และพัฒนากำลังพลได้ก็นับว่าเป็นจุดสูงสุดแล้ว หากถลำลึกเข้าไปอีก สำนักสามแห่งนอกจากพวกลูกศิษย์ ผู้อาวุโสและอาจารย์ เห็นจะรับแต่นักจิตชั้นเก้า หรือนักจิตใหญ่ที่แข็งแกร่งกว่า พวกเขายังไม่ผ่านเงื่อนไข

โจ๋วชิวพูด “เจ้าสำนักชิงรู้ได้อย่างไรว่าเป็นเทียงฉิว? ท่านรู้จักพวกเขาเหรอ”

ทันใดนั้น เหอซ่านมองไปทางชิงหยู่ด้วยสายตาที่หนักแน่นและเฝ้าพินิจ เมื่อเห็นเช่นนี้ ชิงหยู่หลุดขำออกมา “พวกเจ้าไม่ต้องสงสัยข้า ข้าไม่ได้รู้สึกดีต่อเทียงฉิวอะไรนั่นสักนิด ข้าแค่อยากจะบอกกับพวกเจ้าว่า เทียงฉิวไม่เพียงแต่เข้ามาในสำนักเทียนอู่จงแล้ว พวกเขายังเข้าไปในเขตลับเทียนอู่เพื่อจับตัวจูนหยูนเสวี่ยแล้วด้วย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ