บทที่ 252 ผางชิงเยว่มาถึงแล้ว
“อาจารย์อา ข้าอยู่นี่” เสียงแผ่วเบาดังมาจากความมืด มือจูนจิ่วถือมุกแสงราตรีเงยหน้ามองเข้าไป ในความมืดมีคนค่อยๆ เดินมาถึงแสงสว่าง เป็นหวางฉี่อ๋างนั่นเอง เขาตกลงไปจนขาหักข้างหนึ่ง โลหิตสดอาบชุ่มไปทั่วขาและกางเกง สีหน้าซีดเซียวเหยเกเป็นที่สุด
เบื้องหลังหวางฉี่อ๋างตามมาด้วยศิษย์สำนักเทียนอู่จงเดินเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ท้ายที่สุดนับดูแล้ว มีเพียงห้าคนอื่นๆ ที่ดูเหมือนไม่ได้อยู่รอบบริเวณ ตอนที่พวกเขาเดินเข้ามา เสี่ยวอู่หดตัวกลับไปเล็กลงตามเดิมหาได้ถูกพวกเขามองเห็นไม่ จูนจิ่วมองไปทางจูนเสี่ยวเหลยก่อน “บาดเจ็บหรือไม่?”
“พี่จิ่วข้าเปล่า...ท่านดูพวกเขาก่อนดีกว่า ข้าช่วยอะไรได้บ้างหรือไม่?” สีหน้าจูนเสี่ยวเหลยขาวซีดยังมีควันหลังของความหวาดกลัวอยู่ แต่ไม่นานนางก็เก็บอาการเงยหน้ามองที่จูนจิ่วด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ
จูนจิ่วกล่าว “เจ้าไปตรวจสอบพวกเขาก่อนว่าบาดเจ็บส่วนไหนบ้าง”
กล่าวพลางจูนจิ่วนำมุกแสงราตรียื่นให้จูนเสี่ยวเหลยเม็ดหนึ่ง นางหมุนกายไปรักษาขาให้หวางฉี่อ๋างก่อน ยังไม่สนใจว่าใจกลางเขตลับเทียนอู่เหตุใดอยู่ดีๆ ถึงได้ทรุดฮวบเป็นหลุมใหญ่ พวกเขาต้องพยายามหนีจากตรงนี้เต็มกำลัง รักษาคนที่บาดเจ็บก่อน จากนั้นค่อยหาคนอื่นๆ แล้วออกไปพร้อมกัน
จูนจิ่วตรวจสอบขาของหวางฉี่อ๋าง เป็นกระดูกข้อเท้าขวาหัก นางรีบร้อนปรับกระดูกให้หวางฉี่อ๋าง แล้วใช้กริชของหวางฉี่อ๋างพันผ้าแล้วดามเอาไว้ก่อน นางเอ่ยปาก “ข้าจะใช้เข็มเงินทิ่มจุดฝังเข็มให้ บรรเทาอาการบาดเจ็บให้เจ้าชั่วคราวแต่ก็ยังมีความเจ็บอยู่ ไม่ส่งผลต่อการเดินเหินของเจ้าแต่อย่าได้หักโหมใช้ขาข้างนี้มากเกินไปรู้หรือไม่?”
“ขอรับ ทราบแล้ว” หวางฉี่อ๋างพยักหน้าโดยพลัน เขาพยุงผนังลุกขึ้นมาลองขยับเขยื้อนเล็กน้อย ปริปากเอ่ยต่อว่า “อาจารย์อา ลำบากท่านช่วยดูพวกศิษย์น้องแล้ว ข้าจะลองไปหาคนอื่นแถวนี้ดู ยังมีศิษย์พี่กู่ซงและศิษย์น้องหยูนเฉียว ข้าเองก็รู้จักพวกเขา”
จูนจิ่วเอ่ย “ดี”
หวางฉี่อ๋างไปตามหาคน จูนเสี่ยวเหลยช่วยนางเป็นลูกน้อง จูนจิ่วและเสี่ยวอู่สบตาปราดหนึ่ง คนหลังโจนเข้าไปในความมืดอย่างปราดเปรียว เสี่ยวอู่มองเห็นได้ในความมืด มันจะไปหาทางออก
จูนจิ่วเพิ่งรักษาศิษย์สำนักเทียนอู่เสร็จสิ้น พลันได้ยินเสียงดังพรึ่บ! แสงไฟสว่างท่ามกลางความมืด ตามมาด้วยความสว่างจุดแล้วจุดเล่า จูนจิ่วเงยหน้าขึ้นไปมอง ส่วนลึกของหัวใจเต้นตุบตับ
ยิ่งรออยู่ด้านล่างนานเท่าไร จูนจิ่วก็ยิ่งรู้สึกว่าส่วนลึกของหัวใจกดทับด้วยหินอันหนักอึ้งก้อนหนึ่ง สัมผัสที่หกส่งสัญญาณเตือนนางว่ามัวโอ้เอ้อยู่นานๆ ไม่ได้ จำเป็นต้องรีบออกไปจากด้านล่างหลุมใหญ่โดยเร็วที่สุด การปรากฏขึ้นของแสงไฟในตอนนี้ ยิ่งทวีความรู้สึกแห่งวิกฤตมากขึ้นทุกที
“อาจารย์อา!”
“แม่นางจูน!”
“จูนจิ่ว” หวางฉี่อ๋างหาพวกของกู่ซงและหยูนเฉียวพบแล้ว ยังมีศิษย์ของสำนักเทียนอู่จงและสำหนักหุ้นหยวนอีกหลายคน ภายใต้แสงสว่าง พวกเขาสาวเท้าก้าวฉับๆ เข้ามา
สีหน้าของจูนจิ่วเย็นชาและเคร่งขรึม ตำหนิเสียงเย็น “รีบดับไฟเสีย”
พวกของกู่ซงอึ้งไปสักพัก แต่ก็ยังดับไฟทิ้งตามที่จูนจิ่วบอก บัดนั้นรอบบริเวณพลันมืดสนิท เหลือเพียงแต่แสงไฟในระยะไปที่สว่างดั่งตอนกลางวัน ทอดมองไกลออกไป เป็นกองทัพของเจี้ยนจง ตันจงและซางไห่จงนั่นเอง จูนจิ่วยังได้ยินเสียงร้องทอดเสียงของจูนหยูนเสวี่ย เตรียมคิดจะร้องเรียกให้คนช่วยนำตัวนางขึ้นมา
แววตาหม่นแสงลง จูนจิ่วหยิบขวดยาออกมาหลายขวดและปริปากเสียงกดต่ำ “ด้านในมียาฟื้นฟูจิต นอกจากศิษย์สำนักเทียนอู่จงแล้วให้แบ่งคนละสองเม็ด พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้”
“ไป? แม่นางจูนพวกเราจะไปไหน” หยูนเฉียวเอ่ยถามอย่างพิศวง
จูนจิ่วเอ่ย “เสี่ยวอู่หาปากถ้ำพบหลายทางแล้ว ด้านในมีลมไหลผ่าน จะต้องทะลุไปด้านนอกได้แน่ สถานที่แห่งนี้จะมัวโอ้เอ้อยู่ต่อไม่ได้แล้ว”
“เหมียว” เสียงร้องเหมียวๆ ของเสี่ยวอู่ดูเหมือนร้องสมทบและตอบรับจูนจิ่ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...