บทที่ 253 ทรวงอกของนางเจ็บยิ่งนัก
“ผู้อาวุโสสาม จำนวนคนของสำนักเทียนอู่จงกับสำนักหุ้นหยวนไม่ครบ พวกเขาจักต้องหนีออกไปตามแนวถ้ำภูเขาเป็นแน่ขอรับ!”
ผางชิงเยว่ยิ้มตาหยีอย่างชั่วร้าย “จับพวกมันไว้ ฆ่าไม่เว้น! อ้อ! จริงสิ มีคนที่ชื่อจูนจิ่วจับตัวไว้ก็พอ ไว้ชีวิตนางสักคน ข้ารับปากศิษย์หลานแล้วว่าจะไม่แตะต้องศิษย์น้องเล็กของนาง! แต่ถ้านางไม่ยอมฟัง การตัดแขนตัดขาจำพวกนั้น เข้าก็ไม่อาจรับประกันได้” น้ำเสียงดังจากไกลเคลื่อนมาใกล้ จูนจิ่วและกู่ซงพรางตัวในความมืดเงยหน้าสบสายตากันปราดหนึ่ง
พวกเขาไม่รู้ว่าผู้ที่มาเป็นอิทธิพลอะไรบ้าง แต่มีเพียงจูนจิ่วและกู่ซงพวกนางสองคนนี้ที่มีแรงต่อสู้ ลองเสี่ยงอันตรายสักตั้ง ไม่ต้องแข็งขืนปะทะตรงๆ ขอแค่ถ่วงเวลาพวกเราสักระยะก็พอแล้ว!
จูนจิ่วส่งสายตาให้กู่ซง “กลัวหรือไม่?”
“จูนจิ่วเจ้ายังไม่กลัว ข้าเป็นผู้ชายอกสามศอกทรงสง่าจะกลัวอะไรกัน?” กู่ซงกะพริบตาปริบๆ เขาขยับปากเล็กน้อยไม่มีรากสมุนไพรแล้วยังค่อนข้างไม่คุ้นชิน ประจักษ์การเคลื่อนไหวของกู่ซงแก่สายตา จูนจิ่วก็เข้าใจว่าเขายังประหม่าอยู่ดี!
ประหม่าเป็นเรื่องธรรมดา ยังดีกว่าหวาดกลัวเป็นไหนๆ
“เจ้านาย พวกเขาใกล้เข้ามาแล้ว!” เสียงของเสี่ยวอู่โพล่งออกมาจากสมองของจูนจิ่ว
เงยหน้าทอดมองไป เห็นเพียงแต่แสงไฟปรากฏในความมืดในระยะไกล ชายชุดคลุมสีดำค่อยๆ ไล่ตามมาทางนี้โดยมีผางชิงเยว่เป็นผู้นำ เปลือกตาสั่นระริกน้อยๆ จูนจิ่วหลุบตาต่ำนับถอยหลังอยู่ในใจเงียบๆ สิบ เก้า แปด เจ็ด...สาม สอง หนึ่ง!
ครั้นพวกของผางชิงเยว่ย่ำเท้าย่างเข้ามา วี้ว...เสียงแหวกอากาศดังก้อง ชั่วขณะนั้นเสียงการเคลื่อนไหวตุบๆ ก็ดังขึ้นหนึ่งรอบ บัดนั้นกลุ่มคนพลันอลหม่าน เสียงร้องโหยหวนก้องขึ้น
ไม่มีใครคาดคิดว่าแทบเท้าจะมีกับดักอยู่! ยิ่งกว่านั้นการโจมตียังดุกร้าวเผด็จการยิ่งยวด รวดเร็วปานคันธนูกลไกของประกายอสนี นี่เป็นถึงคลังสะสมส่วนตัวของจูนจิ่วซึ่งทำจากวัสดุเหล็กหายากมีความทนทานเช่นโลหะผสมไทเทเนียม เพื่อรับมือกับเทียนฉิว จูนจิ่วงัดอาวุธกลไกลับที่โจมตีร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ของตนออกมาจนหมด
ด่านแล้วด่านเล่า ต่อเนื่องไม่ขาดสาย
กำจัดพลังความแข็งแกร่งของผางชิงเยว่ เขาตอบสนองอย่างรวดเร็วสร้างกำแพงกั้นอาวุธลับระลอกแรกขึ้นมาเบื้องหน้า เขาไม่เคยพบเห็นอาวุธลับที่น่ากลัวเยี่ยงนี้มาก่อน เขาในฐานะนักจิตใหญ่ขั้นเก้าถึงขั้นไม่อาจต้านระลอกที่สองได้ แตกครืนดังชัดช้าเสียแล้ว!
วี้ว...
ลูกศรพุ่งยิงไปเบื้องหน้า ผางชิงเยว่รีบร้อนยกมือขึ้นนิ้วทั้งห้ากลายเป็นกรงเล็บคว้าลูกดอกเอาไว้ พลังแฝงอันรุนแรงดุดันสั่นกึกๆ กลางฝ่ามือของเขาจนเริ่มปวด
เขายังเป็นขนาดนี้! ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงทหารหน่วยกล้าตายเลย เพียงเวลาแค่สองพริบตา ในทหารหน่วยกล้าตายก็ล้มตายบาดเจ็บไปกว่าครึ่ง นี่เป็นสถานการณ์ที่เทียนฉิวไม่เคยพบเจอมาก่อน ผางชิงเยว่ยังคงตกใจไม่อยากเชื่อและรับมือกับอาวุธลับอยู่ จูนจิ่วทำสัญญาณมือหนึ่งที
นับถอยหลังอีกครั้ง สาม สอง หนึ่ง ใช้กลไกเสร็จแล้ว คงถึงเวลาพวกเขาแล้ว!
จูนจิ่วชิงพุ่งปราดออกไปก่อน นางราวกับเงาผีสางวิญญาณมาร มือกระชับโยวยิ่งโจนเข้าไปกลางฝูงชน ปลายนิ้วกรีดกรายพลิกหมุน โยวยิ่งตัดคบเพลิงสะบั้นดังฉับๆ
เสี่ยวอู่อยู่เบื้องหลังของจูนจิ่ว กรงเล็บแมววาดโปรยบนคบเพลิงแผดจ้า ผงยาวิเศษมอดดับคบเพลิงในชั่วขณะและไม่สามารถจุดเพลิงขึ้นใหม่ได้อีกเลย ชั่วอึดใจเดียว คบเพลิงทั้งหมดก็มอดดับรอบบริเวณจมสู่ความมืดมิด
ความมืดจึงจะเป็นสนามรบที่เอื้อประโยชน์ให้กับจูนจิ่วและกู่ซง ร่างกายหดเกร็ง ลงมือว่องไวแม่นย่ำมิได้มีความลังเลประการใดเลย งัดความแข็งแกร่งทั้งหมดออกมา อวดสำแดงจนถึงที่สุด
โยวยิ่งออกจากฝังปะทะคอผนึกเลือด ที่ต้องการคือความไว! ต้องไวเท่านั้น! ฆ่าพวกเขาก่อนหน้าที่ทหารหน่วยกล้าตายของเทียนฉิวยังไม่ทันตอบสนอง ปึงๆ ซากศพร่วงลงไปร่างแล้วร่างอีก ส่งเสียงร้องอุดอู้ท่ามกลางความมืดสนิท
ผางชิงเยว่ฉุนเฉียว “เจ้าพวกสวะ! ยังอึ้งอยู่ทำไม นี่คือการซุ่มโจมตี! คบเพลิงอยู่ไหน? จุดคบเพลิงขึ้นอีกสิ ฆ่าพวกมันเสีย ก็แค่เจ้าเด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมกลุ่มเดียวเท่านั้น สังหารมันให้ข้า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...