บทที่ 255 ทรงพลังสะท้านฟ้า
จูนจิ่วยืนอยู่หน้าประตูหิน นางเงยหน้ามองสำรวจโดยละเอียด นี่คือประตูใหญ่ที่สร้างจากหินยักษ์ที่เรียกว่าชิงจินจุ้ย ครั้นหินยักษ์ร่วงลงไปนอกจากกุญแจแล้วก็ไม่สามารถเปิดมันได้อีก ต่อให้ขุดหลุม ชิงจินจุ้ยก็จะยุบตัวลงทีละน้อย ไม่มีวันสิ้นสุดตลอดกาล
เห็นจูนจิ่วสำรวจประตูหิน คนทั้งกลุ่มก็ไร้สุ้มเสียงสุดท้ายยังกลั้นหายใจเอาไว้อีกด้วย กลัวเหลือเกินว่าจะรบกวนความคิดของจูนจิ่ว!
เหยียนไห่และกูซูหยิงพบว่าทุกผู้คนต่างเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่าจูนจิ่วจะมีหนทาง แลดูเชื่อมั่นจูนจิ่วกันเต็มพิกัด พวกเขาสบตากันปราดหนึ่ง ต่างรู้สึกเหลือเชื่อ!
ศิษย์ของสำนักเทียนอู่จงไม่พูดถึง หยูนเฉียนและกู่ซงที่รู้จักจูนจิ่วแต่ต้นก็ไม่พูดถึง ทว่าศิษย์ของสำนักหุ้นหยวน ก็เชื่อมั่นจูนจิ่วขนาดนั้นทั้งที่เคยพบหน้ากันไม่กี่ครั้งด้วยหรือ? นี่เป็นถึงหินยักษ์ชิงจินจุ้ยเชียว จูนจิ่วต่อให้มีความสามารถทะยานฟ้า ถ้าไม่มีกุญแจก็ไม่สามารถเปิดประตูออก!
ริมฝีปากขยับเล็กน้อย กูซูหยิงมองจูนเสี่ยวเหลย นางร้องเรียกเสียงแผ่ว “จูนเสี่ยวเหลย”
“ชู่!” จูนเสี่ยวเหลยถลึงตามองนางทันควัน ไม่เพียงนาง ทุกผู้คนต่างทยอยเบือนหน้าจ้องไปที่กูซูหยิง ความหมายแววตาของพวกเขานั้นชัดเจนยิ่งนัก คือเตือนนางให้เงียบอย่ารบกวนจูนจิ่วนั่นเอง!
กูซูหยิงสะอึก ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันกับเหยียนไห่และได้แต่เงียบปากเฝ้ารอเท่านั้น
เห็นเพียงจูนจิ่วยื่นมมือออกไปลูบไล้ประตูหินอีกครั้ง จากนั้นก็ลากเส้นหนึ่งระลอก กลุ่มคนไม่รู้ว่านางกำลังร้องเรียกโม่อู๋เยว่อย่างไร้สุ้มเสียงอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ นางถาม “โม่อู๋เยว่ ปิ่นหยกที่ท่านมอบให้ข้าแข็งหรือไม่?”
โม่อู๋เยว่ดูคล้ายจะเฝ้ารอนางอยู่ตลอด ถามได้ตอบได้ โม่อู๋เยว่กล่าว “แข็ง เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เจ้าถามเรื่องนี้ทำไม่กัน”
ทะลุผ่านเขตลับเทียนอู่ โม่อู๋เยว่เฝ้าดูการเคลื่อนไหวท่าทางของจูนจิ่ว มีความคิดตงิดๆ อธิบายไม่ถูกปรากฏขึ้นส่วนลึกของหัวใจ เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์คงไม่ได้คิดจะ...
“แข็งก็ดีเลย!”
จูนจิ่วยิ้มมุมปาก นางมองไปทางกลุ่มคนแล้วโบกมือ “ถอยหลัง ทุกคนยืนไกลออกไปหน่อย”
กลุ่มคนถอยหลังตามๆ กันจนแนบกับผนัง แต่ละคนเบิกตากว้างมองไปที่จูนจิ่วอย่างใคร่รู้ อยากดูว่านางจะทำอะไร
จูนจิ่วเองก็ถอยหลังหลายก้าว นางยกมือขึ้นปลดปิ่นหยกในมวยผมลงมา นี่ไม่ได้ครั้งแรกที่ได้เห็นรูปทรงของปิ่นหยก แต่ทุกครั้งที่ได้เห็นมักรู้สึกตื่นตาตื่นใจ บนยอดปิ่นหยกแกะสลักด้วยดอกไม้เล็กๆ ที่สวยงามประณีต สัมผัสมือเย็นเยียบ จิตใจสงบเกลี้ยงเกลา
จูนจิ่วพึมพำในใจ จักต้องแข็งพอ! ยิ่งแข็งยิ่งดี ใช้ป๋ายเย่กับโยวยิ่งข้าคงปวดใจ ได้แต่ลองใช้เจ้าดูแล้ว
เปิดตำแหน่งตันเถียน พลังทิพย์ขับเคลื่อน
พลังทิพย์ทั่วร่างรวมตัวกันสองจุด หนึ่งคือบนเท้า อีกหนึ่งคือกลางมือ จูนจิ่วโดดผลุงขึ้นมาเต้มแรง ร่างกายเป็นรูปธนูกลั่นหลอมแรงระเบิดอันทรงพลัง นางใช้ปิ่นหยกเป็นศาสตราวุธ เจาะเข้าไปยังประตูหินดังฉึก ทุกผู้คนต่างมองตาค้าง ถึงขนาดเอาปิ่นหยกที่ ‘เปราะบาง’ ‘ประณีต’ มาใช้เป็นอาวุธเชียว จูนจิ่วบ้าไปแล้วหรือ?
โม่อู๋เยว่นั่งหลังตรง ท่าทางดูเบาหวิวขึ้นมา มองเห็นอารมณ์โกรธหรือดีใจ กลับให้เหลิ่งยวนที่อยู่ข้างกายทิ้งระยะห่างไกลออกไปหลายร้อยเมตรอย่างเงียบๆ
ไม่ว่าอารมณ์ใด พวกเขาต่างจดจ้องจูนจิ่ว มองไปทางปิ่นหยกกลุ่มคนสำนักเทียนอู่จงฟันธงว่าตนจะต้องเห็นปิ่นหยกสะบั้นเป็นสองท่อน ส่วนประตูหินไม่มีแม้แต่รอยสีขาวเลยด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ครู่ต่อมาพวกเขาก็ถูกความจริงทำเอาตกตะลึงเสียแล้ว
ปึง...
เสียงก้องลั่นฟ้าสะเทือนดิน ประตูหินระเบิดออกทันทีพัดหมุนเศษฝุ่นและควันจางลอยประดังเข้ามา จูนจิ่วแหวกอากาศคว้าปิ่นหยกกลับมา หมุนกายยกชายเสื้อกำบังใบหน้าเอาไว้ โม่อู๋เยว่เห็นดังนี้ดวงตาพลันวาววับ กระดิ่งเงินรีบคลี่ฉากกั้นปกป้องจูนจิ่วเอาไว้
หลังจากฝุ่นควันคละคลุ้ง ทุกผู้คนรวมถึงเสี่ยวอู่ต่างจมอยู่ในฝุ่นควันและเศษก้อนหิน ตัวคลุกฝุ่นไปหมด มีเพียงจูนจิ่วที่สะอาดสดใส อาภรณ์ไม่ยุ่งเหยิง ควงปิ่นหยกในมือเล่นอย่างเนิบนาบ นางยิ้มมุมปาก “แข็งมากจริงๆ ด้วย”
“……”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...