บทที่ 256 ปฏิบัติการ
พวกเขาลอบเข้าไปในยอดเขาโจ้ว่าง ไม่พบใครเลยตลอดทาง! ถึงแม้แบบนี้จะเป็นประโยชน์ต่อพวกเขา แต่นี่ก็แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ของสำนักเทียนอู่จงชักไม่ชอบมาพากล ราวกับว่าในหัวใจของพวกเขามีหินยักษ์ก้อนหนึ่งกดทับ สูดหายใจไม่เต็มปอด
พบสนามหญ้าร้างผู้คนแห่งหนึ่งและเข้าไปข้างใน ปิดประตู ทิ้งให้สองสามคนยืนแนบผนังประตูอย่างแน่นหนา จ้องออกไปด้านนอกอย่างระแวดระวัง กู่ซงหมุนกายไปถามจูนจิ่ว “จูนจิ่วพวกเรามาถึงยอดเขาโจ้ว่างแล้ว ต่อไปจะทำอย่างไรดี?”
“ใครเจ็บน้องยังมีพอเรี่ยวแรงเคลื่อนไหวได้ ยกมือขึ้นให้ข้าดูหน่อย” สายตาจูนจิ่วราบเรียบเยียบเย็น มองสำรวจกลุ่มคนรอบหนึ่งเห็นว่าฝูงชนค่อยๆ ยกมือขึ้นคนละไม้คนมือ หนึ่งในนั้นมีหยูนเฉียว จูนเสี่ยวเหลย กู่ซง เหยียนไห่และหวางฉี่อ๋าง และศิษย์สำนักเทียนอู่จงสองคน
จูนจิ่วเอ่ยปาก “กู่ซงไม่ได้ เจ้าบาดเจ็บภายในไม่อาจเข้าไป หวางฉี่อ๋างก็ไม่ได้ เจ้าขาหักเคลื่อนไหวไม่สะดวก ห้าคนที่เหลือแบ่งเป็นสองกลุ่ม...”
ครุ่นคิดสักพัก จูนจิ่วก็ยกมือขึ้นชี้ “หยูนเฉียว จูนเสี่ยวเหลยและศิษย์สำนักเทียนอู่จงคนหนึ่ง เหยียนไห่กับศิษย์สำนักเทียนอู่จงคนหนึ่ง ศิษย์สำนักเทียนอู่จงนำทางอยู่ข้างหน้า ลอบเข้าไปในสำนักเทียนอู่จง พวกเจ้าไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ขอแค่สืบสถานการณ์ของสำนักเทียนอู่จงให้ดี”
“แม่นางจูนเช่นนั้นท่านเล่า?”
“ข้ากับเสี่ยวอู่จะไปลานฝึกวิทยายุทธ์เฉียนคุน” เสี่ยวอู่คลอเคลียอยู่ข้างเท้าของจูนจิ่ว ร้องเรียกเหมียวๆ ทำให้กู่ซงรู้สึกซับซ้อนในใจทุกครั้งที่ได้เห็น ต่อหน้าจูนจิ่วเป็นแมวน้อยน่ารัก ต่อหน้าพวกเขาทั้งโหดลากเขี้ยวและหยิ่งผยองลูบนิดหน่อยก็ไม่ได้
หลังจากบ่นอุบเสี่ยวอู่ กู่ซงก็ตอบสนองต่อความหมายของจูนจิ่ว รีบปริปากทันที “ไม่ได้! จูนจิ่วเจ้าให้พวกเราสืบข่าว เจ้ากลับไปสถานที่เสี่ยงอันตราย มันใช้ได้ที่ไหน เจ้าก็ยังบาดเจ็บด้วย”
สำนักเทียนอู่จงเกิดเรื่อง สถานที่จุดอื่นร้างผู้คน ทุกคนต้องถูกขังอยู่ในลานฝึกวิทยายุทธ์เฉียนคุนเป็นแน่ มีแต่ที่นี่จึงสามารถรองรับคนที่ชมการแข่งขันทั้งห้าสำนักได้ ตอนนี้ลานฝึกวิทยายุทธ์เฉียนคุนจึงเป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุด
หยูนเฉียวร้องต่อ “ไม่ได้! แม่นางจูนท่านไปเป้าหมายก็คงใหญ่เกินไป ทุกคนต่างรู้จักท่าน ท่านซ่อนตัวไม่ได้เลยสักนิด”
“ใช่แล้วพี่จิ่ว! รอพวกเราไปสืบรายละเอียดสถานการณ์ของสำนักเทียนอู่จงให้รู้แน่ชัดแล้ว พวกเราค่อยไปลานฝึกวิทยายุทธ์เฉียนคุนพร้อมกัน ชไปด้วยกันแบบนั้นก็มีประโยชน์นะ!” จูนเสี่ยวเหลยกล่าว
มองสำรวจกลุ่มคน จูนจิ่วหรี่ตาลงอากัปกิริยาดุกร้าวเย็นเยียบขึ้นมาในชั่วแล่น นางเอ่ยปาก “ข้าบอกแล้วว่าตามข้ามาจำเป็นต้องฟังคำสั่งของข้า หากมีข้อขัดข้องใดๆ ก็จากไปตอนนี้ได้เลย!”
บุคลิกของนางทรงพลัง! ทั่วสนามไร้สุ้มเสียง ไม่มีใครกล้าสบลสายตากับจูนจิ่ว ไม่ว่าจะเป็นกู่ซงนักจิตขั้นห้าคนนี้ วินาทีนี้ก็ยังเชื่อฟังไม่กล้าโต้แย้ง น้ำเสียงจูนจิ่วราบเรียบเยียบเย็น กล่าวต่อไปว่า “กู่ซง หยูนเฉียวตามข้ามา ข้ามีเรื่องถามพวกเจ้า”
“ได้”
เข้าไปในห้อง ครั้นประตูปิดลงก็บดบังทัศวิสัยของกลุ่มคน
บรรยากาศอันเยือกแข็งมาคุถึงค่อยๆ คลายตัวลง มุมปากจูนเสี่ยวเหลยเม้มแน่น หมัดบอบบางกำแน่น นางก็อยากช่วยเหมือนกันนะ! กู่ซงและหยูนเฉียวตามจูนจิ่วเข้าไปก็ยังประหม่าเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจูนจิ่วจะถามอะไรพวกเขา เห็นเพียงจูนจิ่วนั่งที่หน้าโต๊ะ ไม่รู้ว่ากองขวดกระป๋องหนึ่งพะเนินมาจากไหน จากนั้นก็เริ่มปาดแต้ม เสี่ยวอู่กระโดดขึ้นบนโต๊ะ นั่งยองๆ จ้องพวกเขาไม่วางตา
จูนจิ่วเคลื่อนไหวไปพลาง ถามพวกเขาไปพลาง “บอกสถานการณ์ของสำนักหุ้นหยวนให้ข้าฟังหน่อย”
หยูนเฉียวว่า “แม่นางจูนอยากรู้อะไรบ้าง”
“สถานการณ์ของสำนักหุ้นหยวนมีมากมาย กลัวว่าครึ่งชั่วยามคงพูดไม่หมด” กู่ซงอักอ่วน จูนจิ่วปรายตามองเขาหลายหน สีหน้าราบเรียบ “เช่นนั้นก็สรุปสั้นๆ”
กู่ซงเป็นน้องชายแท้ๆ ของเจ้าสำนักหุ้นหยวน ย่อมรู้เข้าใจมากที่สุดอยู่แล้ว เขาสาธยายเป็นหลัก หยูนเฉียวคอยเสริมอยู่ข้างๆ รอพวกเราสองคนพูดจนหมดเปลือกแล้ว จูนจิ่วก็เสร็จธุระพอดีพลางหยัดตัวขึ้นมองทางพวกเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...