บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 291

สรุปบท บทที่ 291 เริ่มการแข่งขันกลั่นยา: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ

สรุปเนื้อหา บทที่ 291 เริ่มการแข่งขันกลั่นยา – บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดย ต้าวเมียวเมียว

บท บทที่ 291 เริ่มการแข่งขันกลั่นยา ของ บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ต้าวเมียวเมียว อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 291 เริ่มการแข่งขันกลั่นยา

เวทีประลองเห้อของสำนักตันจง การแข่งขันกลั่นยาจะเริ่มขึ้นแล้ว

“เวทีประลองเห้อเป็นสถานที่ที่ตันจงเลือกมา อีกสักครู่หมอเทวดาจูนจิ่วก็คงจะมาแล้ว”

“แล้วพวกเราจะได้เห็นพวกเขาแข่งขันกลั่นยาหรือไม่”มีคนถามอย่างอยากรู้ แต่ก็ถูกคนข้างๆขัดขึ้นทันที เอ่ยอย่างเยาะเย้ยว่า “เจ้าฝันไปเถอะ นักกลั่นยามีความลับในการกลั่นยา จะเปิดเผยให้พวกเราเห็นได้อย่างไรกัน ”

“แล้วพวกเขาจะแข่งขันกันอย่างไร”ฝู้หลินจ้านได้ยินคนทั้งสองข้างหน้าพูดคุยกัน ก็รีบยื่นหน้าเข้าไปถามทันที

“การกลั่นยานั้นต้องทำการกลั่นในห้องที่ตันจงได้เตรียมไว้โดยเฉพาะ แต่ว่าถ้ากลั่นยาเรียบร้อยแล้วก็จะเอามาที่ลานประลองเห้อ เพื่อตัดสินต่อหน้าผู้คน และยังมีการลองยาที่กลั่น ครั้งนี้คนที่ออกหัวข้อในการกลั่นยาก็เป็นตันจง รู้สึกจะไม่ยุติธรรมกับหมอเทวดาจูนจิ่วเลย”ขณะที่คนคนนั้นกำลังพูด พลางก็หันกลับไปมองยังฝู้หลินจ้าน

ชายหนุ่มหน้าตาสดใส ดูหล่อเหลามีความสามารถ

ฝู้หลินจ้านยิ้มให้กับเขา ใบหน้าของชายหนุ่มที่รูปร่างสูงใหญ่เทอะทะก็แดงขึ้นทันที รีบหันศีรษะกลับไป เห็นดังนี้ มือหนึ่งวางลงบนไหล่ของฝู้หลินจ้าน ใบหน้าเย็นชาดุจน้ำแข็งแกะสลัก “นั่งดีๆ มารยาทของเจ้าล่ะ”

“หลินซวง นี่เป็นที่รโหฐานไม่ใช่สำนักฝึก จะพูดเรื่องมารยาททำไม เจ้าให้ข้าทำตามใจหน่อยเถอะ”ฝู้หลินจ้านถอนหายใจ รู้สึกจนใจกับฝู้หลิงซวงที่ช่างเคร่งครัดเย็นชาเสียเหลือเกิน ที่จริงทั้งสองต่างก็มีหน้าที่เหมือนกัน แต่เพราะลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันจึงมีหญิงสาวมารักใครชอบพออย่างนับไม่ถ้วน เปลี่ยนเป็นฝู้หลินซวง สามารถแช่แข็งหญิงสาวให้ร้องไห้ได้ ฝู้หลินจ้านส่ายหัวแล้วยื่นไปใกล้ฝู้หลินซวง เขาพูดว่า “หลินซวง วันนี้พวกเรามาดูสาวงามนะ ได้ยินว่าหมอเทวดาจูนจิ่วนั้นสวยจนหาตัวจับยาก แต่ก็ไม่รู้ว่าจะสวยสู้นางฟ้าที่พวกเราพบเห็นเมื่อวานได้หรือไม่ ”

ฝู้หลินซวงเย็นชา ได้ยินคำนี้ก็ลุกขึ้นจะเดินออกไปทันที ถูกฝู้หลินจ้านใช้แรงกดเอาไว้จึงหนีไม่สำเร็จ ตอนนี้เอง ไม่รู้ว่าใครในหมู่ผู้คนร้องขึ้นอย่างตื่นเต้นเสียงหนึ่งว่า “หมอเทวดาจูนจิ่วมาแล้ว”

ตูม

บนเวทีประลองเห้อมีเสียงอึกทึกเกิดขึ้น ทุกคนต่างยืดคอยาวขึ้นมาดู

ก่อนอื่นพวกเขาเห็นพี่น้องแห่งสำนักเทียนอู่จงกำลังเปิดทางอยู่ด้านหน้าอย่างดุดัน สายตาที่คมปลาบแต่ละคู่ จ้องมองไปยังลูกศิษย์ของตันจงอย่างน่ากลัว ทำเอาคนของตันจงตกใจจนผงะถอยหลังไป เมิ่งจื้อหยวนเห็นดังนี้ สีหน้าดำเป็นก้นหม้อ

ผู้อาวุโสข้างกายสบถว่า“จูนจิ่วคนนี้ท่าทีอวดดีไม่เบา”

“ฮึ อวดดีแล้วอย่างไร ต่อหน้าผู้คนมากมาย ข้าจะทำให้นางชื่อเสียงป้นปี้ เพื่อเป็นชุดแต่งงานของตันจง”เมิ่งจื้อหยวนพูด ก้มหน้าลงยกมือขึ้นตบไหล่อู๋ซาน เขายิ้มและพูดว่า “อู๋ซาน เจ้าต้องสู้เพื่ออาจารย์นะ”

อู่ซานมองไปยังทิศทางที่จูนจิ่วกำลังมาแต่ไกล ใบหน้าคลุมเครือ ไม่ตอบอะไร

จูนจิ่วมาแล้ว

ทุกคนต่างก็สนใจ นางเหมือนกุหลาบที่เบ่งบานกลางไฟลุกโชน งามจนดูหยิ่งและฮึกเหิม งานจนดูเหมือนเอาแต่ใจ ไม่แบ่งชายหญิงหนุ่มหรือแก่ ทุกคนต่างมองนางอย่างโง่ๆ

“เป็นนาง”ฝู้หลินจ้านนิ่งอึ้ง “นางก็คือหมอเทวดาจูนจิ่ว ที่แท้ก็เป็นนาง หลินซวงเจ้าเห็นหรือไม่ ”

“อืม ”ฝู้หลินซวงมองเพียงแวบเดียว ก็เก็บสายตากลับอย่างเฉยเมย

แต่เมิ่งจื้อหยวนนั้น เพียงแต่มองเขาด้วยความเมตตาเท่านั้น รอยยิ้มที่มุมปากทำให้คนรู้สึกกลัว เมิ่งจื้อหยวนให้เขาวางใจ เพราะคนที่จะชนะก็คือเขา

อาจารย์จะทำอะไรกันแน่ รู้สึกไม่สบายใจ อู๋ซานคิดอยากจะเตือนจูนจิ่ว แต่คิดแล้วก็รู้สึกเป็นการหักหลังตันจง หักหลังอาจารย์ อู๋ซานได้แต่ลังเล

“จูนจิ่ว อู๋ซาน” ใบหน้าของเมิ่งจื้อหยวนมีรอยยิ้มที่ร้ายกาจแขวนอยู่ เขากวักมือเรียกลูกศิษย์ของตันจงมาสองคน เขาหยิบเอากระดาษที่ถูกพับไว้ให้กล่องที่ลูกศิษย์ตันจงถือเอาไว้ออกมา

เมิ่งจื้อหยวนพูดว่า “นี่ก็คือสูตรยาที่ยากที่สุดของตันจงของเรา เป็นการนำมาใช้เพื่อกลั่นยาเสิรมพลังทิพย์ ยาเสริมพลังทิพย์ กินแค่เม็ดเดียว ก็สามารถทำคนขึ้นสูงไปอีกหนึ่งระดับในเวลาอันสั้น พวกเจ้าสองคนหากใครสามารถกลั่นออกมาได้ คนนั้นก็ชนะ”

เมิ่งจื้อหยวนอยากยื่นให้จูนจิ่ว ใครจะคิดว่าชิงหยู่กลับชิงกระชากเอาไปตรวจสอบทั้งข้างในข้างนอกว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ค่อยส่งต่อให้กับจูนจิ่ว

ดูท่าทีที่เขาระแวดระวังตนเองราวกับอะไรสักอย่าง ใบหน้าของเมิ่งจื้อหยวนก็บิดเบี้ยวขึ้นมา ยังดีที่ผู้อาวุโสเตือนเขาว่าผู้คนต่างก็จ้องมองอยู่ จึงค่อยๆเก็บสีหน้าร้ายกาจเลวทรามของตนเองลง

มีเวลาแค่หนึ่งก้านธูปในการท่องสูตรยา เมื่อถึงเวลา เมิ่งจื้อหยวนก้รีบเรียกคืนสูตรยาและเผาทิ้งต่อหน้าผู้คน เขาควบคุมรอยยิ้มร้ายกาจที่มุมปากไม่อยู่ จ้องจูนจิ่วเขม็ง “สูตรยาได้บอกกับพวกเจ้าไปแล้ว เช่นนั้นก็ไปห้องกลั่นยาเถอะ สมุนไพรและเตากลั่นได้เตรียมไว้ให้พร้อมแล้ว หมอเทวดาจูนจิ่วเชิญ”

ท่าทีเช่นนี้ของเมิ่งจื้อหยวน ราวกับว่าที่จูนจิ่วจะไปไม่ใช่ห้องกลั่นยา แต่เหมือนกับไปยังเตาเผานรก หรือว่าเขาคิดจะลงมือลับหลังศิษย์น้อง

จูนจิ่วเงยหน้าขึ้นมองชิงหยู่ ใช้สายตาเย็นชานิ่งสงบของนางปลอบใจที่กำลังกังวลของชิงหยู่ ยิ้มเย็น เอ่ยขึ้นเบาๆว่า “ก็แค่ยาเสริมพลังทิพย์ เรื่องเล็กน้อย พวกท่านรอข้ากลับมา”

ยาที่ยากที่สุดของตันจง พอถึงปากของจูนจิ่วก็กลายเป็นเรื่องเล็ก ใบหน้าของเมิ่งจื่อหยวนราวกับจานผสมสี แต่ว่าเขาก็รีบหัวเราะออกมาทันที ไม่ว่าจูนจิ่วจะสามารถกลั่นยาได้สำเร็จหรือไม่ คนที่ชนะต้องเป็นอู๋ซานคนเดียวเท่านั้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ