บทที่ 292 ยาเสริมพลังทิพย์
จูนจิ่วและอู๋ซานตามลูกศิษย์ของตันจงไปยังห้องกลั่นยา พอพวกเขาไป ทีเวทีประลองเห้อก็มีเสียงอึกทึกจากการพูดคุยเกิดขึ้นอีกครั้ง
เมิ่งจื้อหยวนเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้มจ้องไปยังชิงหยู่ สีหน้าไม่เป็นมิตร “เจ้าสำนักชิง ยาที่ล้ำค่าที่สุดของสำนักตันจงของเรา เป็นยาที่สำนักศึกษาทั้งสามต้องจับจองสั่งซื้อตามเวลา จูนจิ่วกลับบอกว่า เรื่องเล็กน้อย สายตาช่างตื้นเขิน เป็นกบในบ่อจริงๆ”
สามารถทำให้ทั้งสามเคารพนับถือได้ ยาเสริมพลังทิพย์นี้คงมีคุณสมบัติที่ดีไม่น้อย แต่นอกจากเขาแล้ว ในตันจงก็ไม่มีใครกลั่นยานี้ได้ จูนจิ่วยิ่งไม่เคยพบเห็นมาก่อน แต่กลับพูดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ช่างน่าขันเสียจริง
อายุน้อยๆก็พูดจาสามหาวโอ้อวด ช่างไม่รู้อะไรเสียแล้ว
ก็ถือว่าเขาให้บทเรียนนางซะบ้าง และให้ทุกคนได้ดูเรื่องการกลั่นยา มีเพียงตันจงของพวกเขาเท่านั้นที่เป็นของแท้ส่วนคนอื่นนั้นล้วนบิดเบือนไม่แท้
แล้วมองยังชิงหยู่อีกครั้ง แววตาของเมิ่งจื้อหยวนมีแววร้ายกาจเลวทรามขึ้นมา และยังมีเจ้าสำนักเทียนอู๋จงคนนี้ด้วย ไม่ส่งตัวจูนจิ่วออกมายังคิดจะเป็นปรปักษ์กับตนเอง ก็แค่เจ้าสำนักที่ถูกผู้อาวุโสไล่ต้อนให้ขึ้นเป็นเจ้าสำนักเท่านั้น แต่กล้ามาท้าทายเขา
“ใครเป็นกบในบ่อกันแน่อันนี้ยังไม่รู้ รอให้ศิษย์น้องของข้ากลั่นยาออกมาเสียก่อน ขอเพียงไม่ใช่คนตาบอด ใครดูก็รู้ผล”ชิงหยู่ไม่ตกหลุมพรางของเมิ่งจื้อหยวน เขาเชื่อใจจูนจิ่วโดยไร้ข้อสงสัย
ชิงหยู่หมุนตัวกลับไปยังที่นั่งของสำนักเทียนอู่จง เห็นที่นั่งของโม่อู๋เยว่ดีกว่าที่ของตน ขยับริมฝีปากแต่ก็ไม่พูดอะไร
ไม่เห็นเสี่ยวอู่หมอบอยู่ข้างกายโม่อู๋เยว่ เสี่ยวอู่อยู่ อย่างน้อยก็สามารถอุปมาไปว่ามีศิษย์น้องอยู่ ศิษย์น้องนั่งที่ที่ดีที่สุดนั้นเป็นเรื่องสมควรแล้ว สุดท้ายชิงหยู่ก็สงบใจลงได้ แต่ในสายตาของเมิ่งจื้อหยวน กลับกลายเป็นคนละความหมาย
เมิ่งจื้อหยวนเยาะเย้ย “ฮึ สถานะยังไม่เท่ากับผู้อาวุโสที่เพิ่งจะเข้าสำนักเลย ชิงหยู่ยิ่งถอยหลังเข้าคลองแล้ว”
“เจ้าสำนัก อย่างนี้ยิ่งไม่ดีหรืออย่างไร พวกเราจะได้ควบคุมสำนักเทียนอู่จงเหมือนพลิกฝ่ามือ”ผู้อาวุโสที่อยู่ข้างๆพูดขึ้นอย่างประจบ น้ำเสียงกดต่ำลงอีกหลายส่วน “เจ้าสำนัก เรื่องที่ท่านสั่งการได้จัดการเรียบร้อยแล้ว คนรออยู่ที่นอกประตูแล้ว รอเพียงแค่ให้พวกเขากลั่นยาเสร็จ……”
คำพูดที่เหลือไม่ได้พูดออกไป แต่เมิ่งจื้อหยวนก็เข้าใจแล้ว เขาพยักหน้าอย่างพอใจ สายตาของเขามีแววเยือกเย็นแห่งความชั่วร้ายวาบผ่านไป
ทุกอย่างพร้อมแล้ว รอให้จูนจิ่วกับอู๋ซานกลั่นยาเท่านั้น
อีกฝั่งหนึ่งหลังจากที่จูนจิ่วเข้าไปยังห้องกลั่นยา ก่อนอื่นก็เงยหน้าสำรวจไปทั่วทั้งห้อง นี่เหมือนกับเพิ่งจะจัดเตรียมขึ้นมา เตากลั่นยาและตู้ ถ้วยยาล้วนเป็นของใหม่ทั้งสิ้น สมุนไพรที่ต้องใช้ในการกลั่นยาถูกจัดเรียงเอาไว้ ก็เป็นของสดใหม่ทั้งนั้น
จูนจิ่วเลิกคิ้วขึ้น ยิ้มเย็นว่า “สำนักตันจงช่างใส่ใจเสียจริง”
ดูภายนอก ตันจงให้ความสำคัญกับการแข่งขันกลั่นยาในครั้งนี้มาก จึงได้“ยุติธรรม จริงจัง”อย่างมากในการเตรียมอุปกรณ์ที่ต้องใช้ไว้ให้นาง แต่ใช่ว่าจะใหม่ทุกอย่างนั่นแหละดีที่สุด เช่นเตากลั่นยา ไม่เคยผ่านการใช้กลั่นยา ก็เท่ากับไม่เคยถูกไฟลนเผามาก่อน การกลั่นยาครั้งแรกล้วนได้ต้องเสียยาไปเป็นการกลั่นเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเตากลั่นยา เตากลั่นยิ่งเก่ายิ่งน่าใช้ ส่วนเรื่องสมุนไพร หากสดใหม่มากเกินไปจะมีสรรพคุณไม่พอ ห่างกันไกลมาก
แต่ว่าเมิ่งจื้อหยวนคิดว่าหากทำเช่นนี้ นางจะแพ้ พูดเป็นเล่น
จูนจิ่วก้าวเท้าไปยังจุดที่วางสมุนไพร สูตรยาในการกลั่นยาเพิ่มพลังทิพย์สว่างวาบขึ้นในหัว จูนจิ่วเลือกสมุนไพรออกมา สมุนไพรสดใหม่เกินไป เช่นนั้นก็ต้องอาศัยไหวพริบเพิ่มจำนวนเข้าไป หากเป็นนักกลั่นยาคนอื่น คงไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเลขและลำดับใจสูตรยา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...