บทที่ 293 ไร้ยางอาย
หากว่าจูนจิ่วกลั่นยาออกมาได้ก่อน แผนที่เขาวางไว้ก็จะล้มเหลว ไม่ได้ ต้องหยุดจูนจิ่ว เมิ่งจื้อหยวนเรียกตัวผู้อาวุโสที่กำลังจะเดินออกไปเอาไว้ น้ำเสียงเคร่งขรึมของเขาพูดขึ้นว่า“หากว่าจูนจิ่วจะกลั่นยาเสร็จแล้ว ให้จัดการจุดไฟเผา ทำลายยาที่นางกลั่น”ผู้อาวุโสพยักหน้า อาศัยจังหวะที่ทุกคนไม่ได้สังเกตออกไปจากเวทีประลองเห้ออย่างเงียบๆ แอบไปยังห้องกลั่นยาอย่างเร่งรีบ
พวกเขาจะพูดคุยกันเสียงต่ำแค่ไหน ก็ปิดบังพวกของโม่อู๋เยว่ได้ได้ รวมถึงเสี่ยวอู๋ก็ยังได้ยิน มันตบโต๊ะอย่างโมโห เบิกตากว้าง “เหมียวเหมียว ช่างไร้ยางอาย คิดอยากจะทำลายยาที่เจ้านายกลั่น ข้าจะไปบอกเจ้านายพวกเขาไม่มีทางทำสำเร็จแน่”
“เจ้าจะทำอะไรได้ จะดึงดูดสายตาผู้คนเสียเปล่า เหลิ่งยวนเจ้าไป ไม่ว่าใครที่ขัดขวางเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ หักแขนขาอุดปากมันแล้วโยนได้ตรงหน้าประตูห้องกลั่นยาของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ซะ รอให้เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กลั่นยาเสร็จแล้วออกมาจัดการเอง”โม่อู๋เยว่สั่งการ โหดร้ายเย็นชา
เสี่ยวอู่ได้ยินแล้ว ร้องเหมียวเหมียวเห็นดีด้วย คนชั่วย่อมมีจุดจบเช่นนี้
จูนจิ่วไม่ทราบถึงแผนการอันชั่วร้ายไร้ยางอายของเมิ่งจื้อหยวน แต่นางก็รู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวที่อยู่นอกห้องกลั่นยา นั่งขัดสมาธิอยู่หน้าเตากลั่นยา จูนจิ่วคอยเกลี่ยไฟของเตากลั่นยาด้วยท่าทีผ่อนคลายไร้กังวล สำหรับความเคลื่อนไหวด้านนอกนางแกล้งทำเป็นไม่เห็น
คนด้านนอกได้แอบดูนางจากนอกหน้าต่างเป็นเวลาหนึ่งก้านธูป เห็นว่าจูนจิ่วไม่มีทีท่าจะกลั่นยาเสร็จ จึงได้จากไปอย่างโล่งใจ แต่ว่าพอเดินไปถึงห้องข้างๆก็หยุดลง จูนจิ่วเงี่ยหูแอบฟัง นางได้ยินเจ้าของฝีเท้าคู่นั้นเปิดปากพูด น้ำเสียงแก่แต่ทรงพลัง “อู๋ซานกลั่นยาถึงไหนแล้ว”
คนที่เขาถามคือลูกศิษย์ตันจงที่อยู่หน้าประตู ลูกศิษย์ของตันจงตอบกลับเสียงเบาว่า “ศิษย์พี่อู๋ซาน กลั่นยาทุกอย่างราบรื่นดี”
“ดี เจ้าสองคนเฝ้าให้ดี ท่านเจ้าสำนักมีคำสั่ง มีเพียงอู๋ซานเท่านั้นที่จะกลั่นยาได้สำเร็จก่อน หากว่านังจูนจิ่วผู้นั้นกลั่นเสร็จก่อน พวกเจ้าต้องคิดวิธีทำลายยานั่นซะ”
ลูกศิษย์ของตันจงถามขึ้นว่า “แล้วถ้าหากจูนจิ่วกลั่นยาเสร็จหลังจากศิษย์พี่อู๋ซานเล่า”
หากว่าเสร็จหลังอู๋ซาน ผู้อาวุโสนึกถึงบทสรุปที่เขากับเจ้าสำนักและผู้อาวุโสคนอื่นๆแอบปรึกษากันไว้ บนหน้าของผู้อาวุโสตันจงเต็บไปด้วยริ้วรอย ยิ้มขึ้นมาราวกับเปลือกไม้ที่ยับย่น
เขายิ้มและพูดว่า “เช่นนั้นก็สลับยาของนางกับอู๋ซาน”
ลูกศิษย์ของตันจงนิ่งอึ้ง สลับกัน
“จูนจิ่วนั้นมีความสามารถจริง เกรงว่ายาของนางจะดีกว่าของอู๋ซาน ฉะนั้นให้สลับกันก่อน หากว่ายาของนางดีจริง สุดท้ายก็เป็นชุดแต่งงานของตันจง หากว่าทำได้ไม่ดี ฮึ พวกเจ้าเป็นพยาน นางขโมยยาของอู๋ซานไปเป็นของตน เข้าใจหรือไม่ ”ผู้อาวุโสของตันจงพูด
เขากดเสียงได้ต่ำมาก สายตาคมปลาบโหดเหี้ยมจ้องมองลูกศิษย์ทั้งสองคนของตันจงด้วยแววแจ้งเตือนซ้ำๆ ลูกศิษย์ตันจงทั้งสองตอนนี้นอกจากจะนิ่งอึ้งแล้วทัศนคติต่อโลกต่อชีวิตต่อคุณค่าก็ได้แตกสลายแล้ว ผู้อาวุโสและเจ้าสำนักที่เคยเคารพนับถือตลอดมา กลับคิดแผนการอันชั่วร้ายที่คนเลวไร้ยางอายเท่านั้นจะคิดได้ นี่มันเป็นการแข่งขันการกลั่นยาที่ไหนกัน นี่มันเป็นการอำนาจโดยไม่ชอบชัดๆ ทำไมต้องเป็นศิษย์พี่อู๋ซานเท่านั้นที่ชนะ
เห็นลูกศิษย์ของตันจงไม่ตอบสนอง ผู้อาวุโสโมโหจนเตะทั้งสองไปคนละที “ไม่มีหูหรือไง พวกเจ้าฟังข้าให้ดี ทำตามที่พูด หากมีข้อผิดพลาดอะไร ข้ากับท่านเจ้าสำนักจะถลกหนังพวกเจ้า เอาไปเป็นคนทดลองยา”
ลูกศิษย์ตันจงทั้งสองคนตกใจจนตัวสั่น รีบตกปากรับคำทันที คุกเข่าส่งผู้อาวุโส ทั้งสองสีหน้าขาวซีดราวกับกระดาษ
บนหลังคา พอเหลิ่งยวนมาถึงก็ได้เห็นฉากนี้แล้ว เม้มปากลูบคาง ตันจงช่างโหดเหี้ยมจริงๆ นี่เป็นนักกลั่นยาที่ช่วยเหลือชีวิตผู้คน แต่ไม่ใช่หมอพิษ ใจดำเสียจริง แล้วหันกลับไปมองในห้อง เหลิ่งยวนพบว่าจูนจิ่วเองก็ได้ยินทั้งหมดแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...