บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 297

บทที่ 297 ตอนนี้ถึงตาสำนักตันจงของเจ้าแล้ว

ไม่ใช่คนของเขา

คนที่มาเป็นกลุ่มคนยิ่งใหญ่ คนที่นำหน้าเป็นคนมีอำนาจที่เขาไม่รู้จัก ข้างหลังตามติดด้วยเหล่าลูกศิษย์ของสำนักเทียนอู่จงอีกมากมาย ยังมีโจ๋วชิวแห่งสำนักเจี้ยนจงที่นำคนมาอีกส่วนหนึ่ง เดี๋ยวก่อน สำนักหุ้นหยวนที่อยู่เป็นกลางไม่เข้าพวกกับใครก็มาด้วย

ใบหน้าของเมิ่งจื้อหยวนสูญเสียรอยยิ้มไป หัวใจเขาเต้นราวจังหวะของกลอง ไม่ถูกต้อง สถานณการณ์ไม่ดี สำนักเจียนจงกับสำนักหุ้นหยวนทำไมจึงมาได้ หากจะมาด้วยกันทำไมไม่มีสำนักชางไห่จงมาด้วย

หยูนจ้งจิ่นกับหยูนเฉียวนำกองทัพเย่สิงมาสมทบ พวกเขาพยักหน้าให้กับจูนจิ่วและยิ้ม หยูนจ้งจิ่นเอ่ยขึ้นว่า “แม่นางจูนจิ่ว ลูกศิษย์ของสำนักตันจงที่อยู่ด้านล่างเวทีได้จัดการเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ข้างล่างล้วนเป็นคนของพวกเรา”

“ดี ”จูนจิ่วพยักหน้า

“อาจารย์อา ตอนนี้เวทีประลองเห้อได้ถูกพวกเราล้อมไว้หมดแล้ว โปรดวางใจ รับรองว่าแม้แต่แมลงวันสักตัวก็บินออกไปไม่ได้ ”หวางฉี่อ๋างตบที่หน้าอกตนเอง จูนเสี่ยวเหล่ยที่อยู่ข้างๆก็พยักหน้าตาม

ยังมีสำนักเจี้ยนจง มือใหญ่ของโจ๋วชิวโบกลงไปลูกศิษย์ของเจี้ยนจงก็ล้อมรอบคนของสำนักตันจงเอาไว้ เมิ่งจื้อหยวนเห็นดังนี้ดวงตาก็ยิ่งเบิกกว้าง “โจ๋วชิวนี่เจ้าทำอะไร สำนักเจี้ยนจงของพวกเจ้าควรจะล้อมตัวจูนจิ่วนังสารเลวนั่นไว้ไม่ใช่หรือ”

“ไม่เคารพแม่นาย เมิ่งจื้อหยวนเจ้าเชื่อหรือไม่ข้าตัดลิ้นเจ้าทิ้งได้นะ”โจ๋วชิวโมโหจนชักดาบออกมา เหยียนไห่และเหล่าลูกศิษย์ของเจี้ยนจงต่างก็ชี้ดาบไปยังเมิ่งจื้อหยวนและลูกศิษย์ของตันจง

อีกทั้งยังมีสำนักหุ้นหยวน ครั้งนี้พวกเขาไม่ยืนอยู่ตรงกลางอีกต่อไปแล้ว

คนที่มาคือผู้อาวุโสถูฉีและกู่ซง ผู้อาวุโสถูฉีเอ่ยขึ้นว่า “เจ้าสำนักเมิ่ง การกระทำของเจ้าทั้งหมดในวันนี้ข้าเห็นหมดแล้ว ใช้วิธีต่ำทรามในการทำร้ายผู้อื่นลับหลัง ทำลายชื่อเสียงของตันจงที่สั่งสมมาเป็นร้อยปีจนสิ้น ข้าไม่ช่วยสำนักเทียนอู่จง แต่ก็ไม่อาจให้เจ้าทำตามอำเภอใจได้”

“เจ้า พวกเจ้า ”เมิ่งจื้อหยวนเพิ่งสังเกต แรงสนับสนุนไปทางไหน

คนที่ดักซุ่มอยู่ของเขาได้ถูกสำนักเทียนอู่จงและกองทัพเย่สิงกำจัดจนสิ้นซากไปตั้งนานแล้ว แต่เขากลับยังรู้สึกดีใจ คิดว่าตนเองเป็นผู้ชนะ สุดท้ายก็แพ้ราบคาบ เมิ่งจื้อหยวนยากที่จะยอมรับได้ ใบหน้าบิดเบี้ยวน่าเกลียดราวกับหน้าผี

จูนจิ่วมองเขาด้วยสายตาเย็นชา เอ่ยขึ้นว่า “เมิ่งจื้อหยวน เจ้ายังมีลูกไม้อะไรอีก”

“จูนจิ่ว พวกเจ้าอย่าได้ใจไป ข้าแพ้แล้วยังไง พวกเจ้าจะกล้าทำอะไร ข้าเป็นถึงเจ้าสำนักตันจง จูนจิ่วหากเจ้ากล้าทำลายตันจงของข้า หากสำนักศึกษาทั้งสามรู้เข้า ยังมีคุณหนูหงยิง พวกเขาจะแก้แค้นแทนข้าแน่นอน”เมิ่งจื้อหยวนตะโกนเสียงดังแต่ก็ไม่อาจกลบเกลื่อนความหวาดกลัวที่แฝงอยู่ในน้ำเสียง

อ้าปากเผยฟันตาเบิกโพลง เมิ่งจื้อหยวนดวงตาแดงก่ำยังคงตะโกนต่อไปว่า “พวกเขาจะช่วยตันจงช่วยข้าทวงคืนความยุติธรรม พวกเจ้าหนีไม่รอดสักคน ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเจ้าไม่กล้าลงมือหรือ กล้าหรือไม่ ”

“มีอะไรไม่กล้า”

เสียงเย็นเย่อหยิ่ง ผู้คนต่างมองไปยังจูนจิ่ว ริมฝีปากแดงมีรอยยิ้มผ่อนคลาย

สวยจนไม่อาจจะละสายตาได้

จูนจิ่วเอ่ยขึ้นว่า “สำนักศึกษาทั้งสาม เทียงฉิวปกป้องเจ้าแล้วอย่างไร ตันจงของเจ้าสมควรตาย การแข่งขันทั้งห้าสำนัก ลูกศิษย์ของตันจงถูกเทียงฉิวฆ่าตาย เหลือเพียงอู๋ซานคนเดียวที่ข้าช่วยเอาไว้ได้ แต่ตันจงของเจ้ากลับเนรคุณ ร่วมกับสำนักเจี้ยนจง สำนักชางไห่จงบีบบังคับสำนักเทียนอู่จงของข้า”

“พวกเจ้าพูดว่าอะไรกัน หากไม่ส่งตัวจูนจิ่วออกมา ก็จะทำลายสำนักเทียนอู่จง เฮอะ นี่คือการคาดแค้นถึงตาย ยังไม่เพียงเท่านี้ สำนักตันจงยังใช้ยาเป็นรางวัลในการเอาชีวิตข้า ทำลายชื่อเสียงของข้า ทำลายชื่อเสียงอันบริสุทธิ์ของเทียนอู่จง ในการแข่งกลั่นยา ทุจริตสารพัด ยังกลับดำเป็นขาว ความชั่วที่ทำทั้งหมดนี้ ข้าไม่ได้ใส่ร้ายตันจงของท่านกระมัง”

น้ำเสียงของสาวน้อยเย็นชาโหดเหี้ยม แต่ละคำคมปลาบทิ่มแทงใจ

ยุติธรรม เมิ่งจื้อหยวนเจ้าคนไร้ยางอายยังกล้าพูดเรื่องยุติธรรม ไม่เกรงว่าจะเป็นการลบหลู่คำว่ายุติธรรมหรือ เขากำลังเลือกเดินตามความโลภ เชื่อฟังคำสั่งของหงยิงยื่นกรงเล็บหวังขย้ำสำนักเทียนอู่จง ขณะเดียวกันก็นำพาสำนักตันจงก้าวเข้าไปยังทางตัน

ที่ลงมือในวันนี้ นอกจากเมิ่งจื้อหยวนแล้วยังมีเหล่าผู้อาวุโส ลูกศิษย์ พวกเขาไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์

เมิ่งจื้อหยวนไม่อาจตอบโต้ได้ เขาตื่นเต้นจนเหงื่อไหลท่วมหน้าผากดุจสายฝน สายตาเขากลอกกลิ้งไปมาแล้วก็หยุดอยู่ที่โจ๋วชิวกะทันหัน เมิ่งจื้อหยวนตะโกนเสียงดัง “สำนักเจี้ยนจงเองก็อยากจะทำลายสำนักเทียนอู่จงมิใช่หรือ”

“ถูกต้อง ฉะนั้นเจี้ยนจงจึงได้กลายเป็นเชลยของข้าไปแล้ว และยังมีชางไห่จง ก็ได้ถูกทำลายลงแล้ว ”จูนจิ่วเหลือบมองและเอ่ยอย่างเฉยชา ราวกับไม่รับรู้ถึงคลื่นแห่งความตกตะลึงที่พุ่งลงมาจากเวทีประลองเห้อ

ทุกคนต่างเบิกตากว้าง อ้าปากค้างนิ่งอึ้งราวกับหินสลัก ฝู้หลินจ้านกับฝู้หลินซวงตกใจจนยืนขึ้นมา ไม่อยากจะเชื่อ

เจี้ยนจงเป็นเชลย ชางไห่จงถูกทำลายแล้ว

จะเป็นไปได้อย่างไร จูนจิ่วพูดไม่จริง หลอกลวงหรือเปล่า แต่พอพวกเขามองจูนจิ่ว ท่าทีอวดดีของสาวน้อย สวยงามแต่เย็นชา แล้วยังมีดวงตาเย็นชากระหายเลือดไร้ความรู้สึกคู่นั้นของนางอีก พวกเขาได้รับคำตอบแล้ว

จูนจิ่วไม่ได้พูดโกหก

หากว่านางโกหก เจี้ยนจงคงไม่นิ่งเฉยไม่ตอบโต้ ชางไห่จงเองก็คงจะไม่นิ่งเฉยเพราะสำนักหุ้นหยวนที่เป็นกลางยังออกมาแล้วเลย

จูนจิ่ว “ตอนนี้ถึงตาสำนักตันจงของเจ้าแล้ว”

“ไม่”เสียงตกใจออกจากปากของเมิ่งจื้อหยวน เขามองไปยังดวงตาเย็นชากระหายเลือดคู่นั้นของจูนจิ่ว เหงื่อเย็นไหลท่วมตัว หากแค่สำนักเทียนอู่จงสำนักเดียว เขายังพอสู้ไหว แต่เจี้ยนจง หุ้นหยวนจงก็ยืนอยู่ข้างหลังจูนจิ่ว เขาสู้ไม่ไหว

จูนจิ่วกำลังจะเปิดปากออกคำสั่ง อู๋ซานเปิดปากขัดนางขึ้น “จูนจิ่ว โปรดรอสักครู่ ”สีหน้าของอู๋ซานซีดขาวราวกับกระดาษ ร่างกายสั่นไหว เขากำหมัดไว้แน่น สายตาที่มีความหวังมองไปยังจูนจิ่วและพูดว่า “คนในตันจงใช่ว่าทุกคนจะเข้าร่วมด้วย พวกเขาที่ไม่รู้อะไรเลยตั้งแต่ต้น ปล่อยพวกเขาไปได้หรือไม่ ”

“ปล่อยพวกเขาไป ถ้าหากพวกเขาโกรธแค้น แล้วมาชำระแค้นจะทำอย่างไร”ชิงหยู่หัวเราะเยาะเสียงเย็น

อู๋ซานกำหมัดแน่นขึ้นอีก เขาเปิดปากพูดว่า “ไม่มีทาง พวกเขาไม่เข้าร่วมเพราะไม่เห็นด้วยกับวิธีการของอาจารย์ข้า ข้ารับรองได้ว่าพวกเขาไม่ทำแน่ และพวกเขาเองก็เป็นนักกลั่นยาด้วย พวกเขาสามารถเข้าร่วมกับสำนักเทียนอู่จง กลั่นยาให้พวกท่านตลอดไป ”

จูนจิ่วเลิกคิ้ว ความตั้งใจสั่นคลอนเล็กน้อย

“ศิษย์ทรยศ ศิษย์กบฏ ”เมิ่งจื้อหยวนได้ยิน ก็เปิดปากด่า

จูนจิ่วหยักยิ้ม เปิดปากพูดเสียงเย็นให้ทั้งบนและล่างของเวทีประลองเห้อได้ยิน “ลูกศิษย์ตันจง ที่ไม่มีส่วนร่วมเลยสามารถเดินออกมาจำนนได้ ข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า แต่อย่าคิดจะปะปนเพื่อเอาชีวิตรอด ศิษย์พี่อู๋ซานของพวกเจ้าจะนับจำนวนคนด้วยตนเอง”

จูนจิ่วมองไปยังอู๋ซาน อู๋ซานพยักหน้าอย่างเคร่งขรึมจริงจัง สายตาซาบซึ้งใจมาก ทันใดนั้นก็มีลูกศิษย์ของตันจงไม่น้อยเดินออกมาจากกลุ่มผู้คน ไปยืนอยู่ด้านหลังอู๋ซาน เมิ่งจื้อหยวนเห็นดังนี้ ยิ่งด่าอย่างสกปรกไม่น่าฟัง

ชิงหยู่แคะหู “เจ้าแก่นี่ช่างน่ารำคาญเสียจริง ศิษย์น้องพวกเราลงมือเถอะ”

“ไม่ต้อง”จูนจิ่วสายตากระหายเลือด เมิ่งจื้อหยวนอยากจะทุกคนใต้หล้านี้ฆ่านาง ต้นตอของเรื่องนี้นางยังไม่ลืม จูนจิ่ว เอ่ยขึ้น“ข้าหมอเทวดาจูนจิ่วขอประกาศว่า สิ่งที่ข้าพูดนั้นเชื่อถือได้ ไม่ว่าใครก็ตามที่ฆ่าคนของตันจงได้หนึ่งคน จะให้รางวัลเป็นยาหนึ่งเม็ด หากสามารถฆ่าผู้อาวุโส เจ้าสำนักได้ จะได้รับยาสิบเม็ด”

กลุ่มคนฮือฮาขึ้นมา รีบเรียกคืนสติ จากสายตานิ่งอึ้งก็กลายเป็นจ้องมองเหล่าผู้คนของตันจงอย่างร้อนแรง

วันนี้ยืนยันได้เรื่องเดียวเท่านั้น นั่นก็คือยาของหมอเทวดาจูนจิ่วเหนือกว่าของตันจง และตันจงยังไร้ยางอายเช่นนี้ ใครยังจะซื้อยาของพวกเขาอีก ทั้งแพงทั้งนิสัยไม่ดี ผู้คนเดินลงมาจากที่นั่งชม ชักดาบดึงมีดเดินไปยังกลุ่มคนของตันจง

มีคนตะโกนเสียงดัง “ไป ฆ่าลูกศิษย์ที่ไร้ยางอายของสำนักตันจงเหล่านี้ให้หมด”

“หยุด”จู่ๆก็มีเสียงตะคอกดังขึ้น ความกดดันอันทรงพลังตกลงมายังผู้คนที่กำลังพุ่งทะยานไปข้างหน้าตกตะลึง จูนจิ่วเหลือบมอง เป็นเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ