บทที่ 304 ให้นางรับมือไม่ได้
“ย่อมเกิดขึ้นแน่ เพียงแต่ไม่ใช่ตอนนี้” จูนจิ่วมองชิงหยู่ ก่อนยิ้มออกมา ตอนนี้ยังไม่สามารถหักคอผู้ดูแลหวางลงมาได้ แต่วันหน้าเกิดขึ้นจริงอย่างแน่นอน
เมื่อเห็นจูนจิ่วหันกลับไปมองสำรวจเรือนเปื้อนไปด้วยโคลนตมผุพังแห่งนั้น ชิงหยู่ขมวดคิ้วเป็นปม “ศิษย์น้องเจ้ารอก่อน ศิษย์พี่จะไปหาที่อื่นดู จะพักที่นี่ไม่ได้จริงๆ!”
ศิษย์น้องของเขา นั่นคือคนที่เขารักเทิดทูนที่สุด! ในสำนักเทียนอู่จงสวมสิ่งที่ดีที่สุด ทานสิ่งที่เลิศรสที่สุด ของใช้ก็หนึ่งเดียวไม่มีสอง ผู้ใดตัดใจรังแกจูนจิ่วไม่ได้ มาถึงที่นี่ กลับให้ศิษย์น้องของเขาพักสถานที่ซอมซ่อเช่นนี้ เขาอดทนไม่ได้แล้ว!
แต่จูนจิ่วห้ามปรามเขา โดยส่ายหน้าพลางเอ่ยขึ้น “ไม่ ที่นี่ไม่เลวทีเดียว”
จูยจิ่วเอ่ยจบ ชิงหยู่และเสี่ยวอู่ต่างแสดงอาการตกตะลึงอย่างที่สุด สถานที่ซ่อมซ่อเช่นนี้จะไม่เลวได้เช่นไร? กระท่อมหญ้า รั้วบิดเบี้ยว โคลนเต็มพื้น มีที่ใดดีกัน?
เพียงชิงหยู่ยังไม่ทันเอ่ยปาก จูนจิ่วอุ้มเสี่ยวอู่เตะปลายเท้าเบาๆ ทะยานข้ามโคลนไปที่ประตูกระท่อม ถือไข่มุกราตรีไว้บนมือพร้อมเดินเข้าไป ก่อนเสียงเย็นชาของนางจะดังออกมา “ศิษย์พี่ ทำตามพวกเขาพักที่นี่กันก่อนเถิด”
“เดี๋ยวก่อนศิษย์น้อง!” ชิงหยู่ขมวดคิ้ว และทะยานข้ามโคลนบนพื้นมา ก่อนตามเข้าไปในกระท่อม
เพียงเข้าไป ชิงหยู่กวาดมองไปทั่วรอบหนึ่งพร้อมสีหน้าเคร่งขรึมลง เห็นเพียงโต๊ะเก้าอี้ในกระท่อมล้วนน่ารังเกียจ ปลายเตียงพังลงมาฝั่งหนึ่ง ด้านบนถูกปกคลุมด้วยฝุ่น นี้จะพักได้เช่นไร? ความจริงไร้สถานที่ให้คนพักอาศัย! ชิงหยู่หันออกไปมองห้องด้านข้างที่อยู่ติดกัน สุดท้ายหันกลับมาอย่างหม่นหมอง
ชิงหยู่บีบหมัดดังสนั่น ดวงตาแฝงด้วยไอสังหาร “สำนักไท่ชูรังแกกันเกินไปแล้ว ศิษย์น้องพวกเราอย่าอยู่ที่นี่กันอีกเลย ศิษย์พี่จะจับตัวลูกศิษย์สำนักไท่ชูสองคน จากนั้นพวกเราเดินทางกลับพร้อมกลุ่มขนส่ง สำนักไท่ชูไร้สาระอะไรนี้ ไม่คณามือสำนักเทียนอู่จงของข้าหรอก!”
ตรงข้ามกับปฏิกิริยาของชิงหยู่ จูนจิ่วกลับสงบอย่างไม่คาดคิด นางหาเก้าอี้ที่สามารถนั่งลงได้อย่างมั่นคงออกมาสองตัวอย่างไม่เต็มใจ ก่อนเช็ดทำความสะอาด จากนั้นจูนจิ่วเงยหน้ามองชิงหยู่พลางเอ่ยว่า “ศิษย์พี่นั่งลงหารือกันเถิด”
“เมี้ยว~” เสี่ยวอู่กระโดดขึ้นบนขาจูนจิ่ว ขดตัวกลมเป็นลูกบอล
เจ้านายเงียบเช่นนี้ ต้องมีวิธีดีๆ แน่นอน! ชิงหยู่เพียงมองจูนจิ่ว ก็คิดเช่นนี้เช่นกัน เขาขมวดคิ้วแน่น นั่งลงตรงข้ามจูนจิ่วด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ก่อนเอ่ยขึ้น “ข้าไม่พูดแล้ว ศิษย์น้องเชิญพูดก่อนเถิด”
“ตกลง ในเมื่อพวกเรามาถึงสำนักไท่ชูแล้ว จงอยู่อย่างสงบสุข อีกอย่างสถานที่แห่งนี้คืนนี้ถือว่าถูไถไปก่อน ห้องเก่าทรุดโทรม ไร้ผู้คนรบกวนพวกเราหารือแผนการพอดี” ระหว่างเดินทางมาห้อมล้อมด้วยพวกหลี่เอ้อ จึงมีเรื่องมากมายที่พวกเขาปิดปากเงียบไม่หารือกัน
เมื่อมาถึงที่นี่ มีเพียงพวกเขาสองคนและแมวหนึ่งตัว จูนจิ่วจึงเอ่ยขึ้น “ศิษย์พี่ การตรวจสอบถูกรายงานขึ้นไปแล้ว พวกเราต้องอดทนรอการตอบกลับของสำนักไท่ชูก่อน เมื่อสำนักเทียนอู่จงไร้ปัญหา พวกเราจึงจะสามารถสบายใจได้”
“ศิษย์น้อง” ชิงหยู่อ้าปาก พร้อมสีหน้าสับสนหงุดหงิด
เรื่องนี้ควรเป็นเรื่องที่ศิษย์พี่และเจ้าสำนักเช่นเขากังวลใจ สุดท้ายเขากลับมุทะลุใจร้อนเช่นนี้ กลับกันทำให้จูนจิ่วกังวลใจ จึงหงุดหงิดในใจ ก่อนชิงหยู่จะค่อยๆ ใจเย็นลง ศิษย์น้องพูดถูกต้อง มาแล้วจะล้มเลิกกลางคันไม่ได้!
จูนจิ่วจึงเอ่ยขึ้น “ศิษย์พี่เชิญพักผ่อนก่อนเถิด พรุ่งนี้จึงจะได้รู้ว่าสำนักไท่ซูจะจัดเตรียมสิ่งใดไว้รอพวกเรา แต่ข้าสังหรณ์ใจ พรุ่งนี้ต้องยอดเยี่ยมอย่างมากแน่” เอ่ยจบ จูนจิ่วปิดตานั่งลงฝึกวิชาอยู่บนเก้าอี้
ชิงหยู่ก็ไม่จากไป เขานั่งฝึกวิชาอยู่ตรงข้ามจูนจิ่วเช่นเดียวกัน แต่จิตใจของชิงหยู่เจ็ดส่วนพะวงอยู่กับจูนจิ่ว แอบคุ้มครองจูนจิ่วอย่างเงียบๆ ไม่ให้คนรบกวนนาง
คร่อก คร่อก เสี่ยวอู่ย่ำอยู่บนเบาะรองกลางอากาศ ก่อนกลับมาท่าน แล้วปิดตาลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...