บทที่ 314 ไม่ใช่นางฆ่า ทำไมต้องเป็นแพะรับปาบ
“อะไรนะ”หยุนหนีรู้สึกตกใจมาก กระโดดขึ้นจากเก้าอี้ชนเอาแก้วบนโต๊ะตกลงไปแตกจนมีแต่เศษกระเบื้องเต็มพื้น
ใบหน้างดงามตกใจจนไร้สีเลือด ริมฝีปากบางสีชมพูค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีขาว นางใช้สายตาเย็นยะเยือกจ้องมองไปยังสาวใช้ “พูดอีกทีสิ ทำไมศิษย์พี่ถึงเข้ามายุ่งเรื่องนี้ได้ เขามายุ่งทำไม”
สาวใช้ตกใจจนคุกเข่าลง นิ่งอยู่กับที่แล้วพูดใหม่อีกรอบ หยุนหนีสีหน้าไม่น่าดู ริมฝีปากของนางถูกเม้มเป็นเส้นตรง เดิมทีนางคิดจะรอให้เจ้าเมืองไท่ชูจับตัวจูนจิ่ว จากนั้นก็ทรมานจูนจิ่วอย่างหนักก่อนที่นางจะปรากฏตัวเข้าไปช่วย ให้จูนจิ่วเกิดความประทับใจอย่างลึกซึ้ง ฉะนั้นจึงได้อดทนรออย่างใจเย็นอยู่ที่นี่
แต่ไม่คาดคิดเลยว่า มู่จิ่วหยวนเองก็กลับจากการฝึกฝนในเวลานี้พอดี และยังพบเข้ากับเรื่องนี้โดยบังเอิญ
“ ไม่ ไม่ได้การ ”หยุนหนีส่ายหัวรีบทำจิตใจให้สงบดังเดิม “ศิษย์พี่มู่กลับมาก็ไม่ควรใช้เส้นทางนอกสำนักที่จูนจิ่วอาศัยอยู่ จากนั้นก็พบเข้ากับเรื่องนี้ เขาตั้งใจไปที่นั่น แต่ว่าทำไมเขาถึงได้……”
หยุนหนีคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก แต่นางก็หยุดความคิดลงได้โดยเร็ว รีบเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าหน้าผม ประเมินตนเองในกระจก สาวงามในกระจกดุจเทพธิดาบนสรวงสวรรค์ คิ้วเรียวงามตาเป็นประกายกิริยาล้วนดึงดูดผู้คน หยุนหนีเห็นเช่นนี้แล้วจึงได้เดินออกไปอย่างพอใจ
นางต้องไปที่จวนเจ้าเมือง ดูสิว่ามู่จิ่งหยวนจะช่วยอย่างไร
ครู่เดียวก็มาถึงจวนของเจ้าเมืองไท่ชู พอเข้าไปก็ได้ยินเสียงร้องไห้ระงมไปหมด น้ำเสียงโศกเศร้าอาดูรทำเอาคนฟังยังรู้สึกปวดใจไปตามกัน เงยหน้าขึ้นดู ในห้องมีแต่คนแก่และเด็กซึ่งล้วนเป็นผู้หญิง
เจ้าเมืองไท่ชูสีหน้าปั้นหน้าเย็นชาในใจคุกรุ่น “ไสหัวไปให้หมด นายน้อยจะให้ความเป็นธรรมกับจวนเจ้าเมืองของข้าเอง เพื่อแก้แค้นให้กับลูกชายข้า”
ไล่ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งออกไป เจ้าเมืองไท่ชูมองร่างไร้วิญญาณของจูเก่อชิวที่นอนอยู่บนเตียงอย่างเจ็บปวดใจ มู่จิ่งหยวนอยู่ข้างหน้า จูนจิ่วกับชิงหยู่อยู่ข้างหลัง ระหว่างทางจูนจิ่วได้ให้ชิงหยู่กินยาแล้ว จากนั้นก็ใช้พลังทิพย์ในการรักษา สีหน้าของชิงหยู่ตอนนี้ดูดีขึ้นมากแล้ว แต่ก็ยังต้องการพักรักษาเป็นการเร่งด่วน
จูนจิ่วเดินเข้าไปเงยหน้าขึ้น ร่างของจูเก่อชิวที่พองโตเกือบจะทับเตียงที่นอนทนพังครืนลงมาแล้ว คนตายแล้ว ผิวหนังของจูเก่อชิวยังคงมีสีแดงที่ผิดปกติไป จากนั้นก็เห็นสองตาที่ถลนห้อไปด้วยเลือด ใบหน้าแลดูดุร้ายยิ่งนัก
สุดท้ายสายตาก็ไปหยุดลงที่หน้าอกของจูเก่อชิว เลือดแดงฉานไหลอาบเสื้อผ้า จูนจิ่วใช้สายตาวิเคราะห์ จูเก่อชิวนั้นถูกมีดสั้นแทงทะลุตัดขั้วหัวใจจนถึงแก่ชีวิต
สายตาดุดันโกรธเคืองสายหนึ่งมองไปยังร่างของจูนจิ่ว สายตาคมปลาบและเกลียดชัง เจ้าเมืองไท่ชูเปิดปากเอ่ยขึ้น “นังสารเลว เห็นศพของลูกชายข้าแล้วยังมีอะไรจะแก้ตัวอีกหรือไม่ นายน้อย ท่านยังไม่เชื่ออีกหรือว่าลูกชายข้านั้นถูกนังสารเลวคนนี้กับชายชู้ของนางฆ่าตาย”
“มีดสั้นอยู่ที่ไหน“จูนจิ่วน้ำเสียงเย็นชา ตัดบทของจูเก๋อหุนที่กำลังฟ้องร้องอยู่
เจ้าเมืองไท่ชูจะเปิดปากพูดอีกครั้ง จูนจิ่วใช้สายตาเย็นชามองไปทางเขาทำให้น้ำเสียงที่อยู่ในลำคอแข็งทื่อไปชั่วขณะ จูนจิ่วเลิกขึ้นเอ่ยเสียงเย็น “ท่านว่าข้าฆ่าจูเก่อชิว แล้วอาวุธล่ะ มีอาวุธจึงเรียกว่าหลักฐานได้”
“อาวุธ ฮึ อาวุธย่อมถูกเจ้าทิ้งไปแล้ว นังคนไร้ยางอาย เจ้ายังกล้าจะขอหลักฐานต่อหน้าเจ้าเมืองอย่างข้า ”เจ้าเมืองไท่ชูถลึงตาโมโห
ชิงหยู่ได้ยิน ก็รีบตะคอกกลับไปว่า “คนเลวรึ เจ้าต่างหากที่เป็นตาแก่หนังเหนียวตายยากไร้ยางอาย ไม่มีหลักฐานยังจะปรักปรำพวกข้า และนี่ก็เป็นศิษย์น้องข้า ชายชู้อะไร เจ้าตาบอดแล้วกระมัง”
คำพูดนี้ทำให้เจ้าเมืองไท่ชูโกรธมาก เกือบจะกระอักเลือดออกมา พุ่งเข้าไปด้วยความโมโห สายตาดุจคมดาบจ้องมองชิงหยู่ราวกับจะกลืนกินทั้งเป็นหรือแล่เนื้อของชิงหยู่ออกมาอย่างไรอย่างนั้น แต่คำพูดถัดมาของจูนจิ่วทำให้เจ้าเมืองไท่ชูต้องหยุดชะงัก จูนจิ่วพูดว่า “เจ้าเมืองไท่ชูหากไม่ใช่ตาบอด ก็ต้องรู้ว่า ถึงแม้จะไม่ถูกมีสั้นแทงอก จูเก่อชิวก็ไม่มีทางมีชีวิตรอดจนถึงเมื่อคืนนี้”
“นังสารเลว เจ้าพูดบ้าอะไรของเจ้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...