อ่านสรุป บทที่33แม่นางผู้นี้เป็นคนสติวิปลาสใช่หรือไม่? จาก บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดย ต้าวเมียวเมียว
บทที่ บทที่33แม่นางผู้นี้เป็นคนสติวิปลาสใช่หรือไม่? คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ต้าวเมียวเมียว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บทที่33แม่นางผู้นี้เป็นคนสติวิปลาสใช่หรือไม่?
“หรือแท้จริงแล้วแม่นางผู้นี้จะมีอะไรที่พิเศษโดดเด่นถ้าไม่เช่นนั้นแล้วเพราะอะไรนายท่านถึงให้ข้ามาเพื่อปกป้องนาง”ชายหนุ่มนั่งย่อตัวซ่อนอยู่บนหลังคาลูบคางไปมา
ทันใดนั้นสีหน้าของชายหนุ่มก็แปรเปลี่ยนสะบัดตัวพร้อมกับวิ่งหนีไป
ไม่วิ่งไม่ได้เพราะว่าในเวลาถัดมาก่อนที่เขาจะออกตัววิ่งนั้นจูนจิ่วม้วนตัวกระโดดขึ้นมาบนที่หลังคา
คิ้วเรียวค่อยๆยกตัวขึ้นจูนจิ่วลูบเบาๆที่คางอย่างเต็มไปด้วยความสงสัย“ไม่มีใครหรือว่าข้าจะตาฝาดไปเองอย่างนั้นหรือ”
“เมี้ยว?เสี่ยวอู่ตามจูนจิ่วกระโดดตัวขึ้นไปบนหลังคา”เอียงคอมองจูนจิ่วอย่างสงสัยใคร่รู้เจ้านายท่านเห็นอะไรเข้าอย่างนั้นหรือ?กวาดตามองซ้ายขวาก็ไม่พบอะไรทั้งนั้น
จูนจิ่วยักไหล่ขึ้น“คงจะเป็นข้าเองที่ตาฝาดไปเถอะพวกเรากลับกัน”
“เมี้ยวววว”
“เอาเถอะไม่ต้องอ้อนแล้ว”จูนจิ่วยิ้มขึ้นพร้อมกับอุ้มเสี่ยวอู่กระโดดทิ้งตัวลงจากบนหลังคา
จากบนหลังคามาแล้วบุรุษผู้หนึ่งก็แนบตัวสนิทกับกำแพงไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวกระดุกกระดิก
ความรู้สึกแบบนี้มันช่างเขย่าให้อกสั่นขวัญแขวนเกินไปแล้ว!
แม่นางผู้นี้เป็นคนเสียสติใช่ไหม?ในตอนที่ตกใจในเวลาเดียวกันนั้นเองชายหนุ่มจำเป็นต้องซ่อนตัวให้เงียบเชียบไม่กระโตกกระตาก
ในวันนั้นช่วงเวลาบ่ายจูนจิ่วก็ได้รับคำเชื้อเชิญของจูนไห่เทียนที่แทบจะอดใจรอเอาไว้ไม่ไหวไม่เพียงแต่นำเสื้อผ้าและเครื่องประดับมาให้มิหนำซ้ำยังส่งนางรับใช้มาด้วยถึงสามคนน้ำเสียงวาจาอ่อนหวานเอาแต่สอบถามว่านางว่าสวมใส่เสร็จหรือยังแท้จริงแล้วก็แค่กลัวว่านางจะหนีไป
ประตูถูกเปิดออกลงตรงหน้านางรับใช้ทั้งสามด้วยบรรยากาศเย็นยะเยือกจูนจิ่วแสยะยิ้ม“ขี้ขลาดเสียขนาดนี้?จูนไห่เทียนเป็นถึงนายใหญ่แห่งตระกูรองได้อย่างไรกัน”
ขี้ขลาดแบบนี้ยังจะอยากลงมือสังหารนางอย่างนั้นหรือ?ปล่อยให้จูนไห่เทียนฝันกลางวันลมๆแล้งๆไปเสียเถอะ
ไม่ได้แตะต้องสิ่งของที่จูนไห่เทียนส่งมอบมาให้จูนจิ่วสวมชุดสีแดงเพลิงสดประกายระยิบระยับผมยาวถูกปล่อยทิ้งตัวลงระไปจนถึงกลางแผ่นหลังนางเตรียมตัวเสร็จผ้าม่านด้านหลังเป็นรอยแยกออกแมวสีขาวท่าทีปราดเปรียวกระโดดเข้ามาสะบัดตัวแป้งสีชมพูผลัดหน้าก็ปลิวร่วงหล่นลง
“ใกล้?หึ”
“ใต้เท้าอย่าเพิ่งรีบร้อนวันนี้ต่อให้จูนจิ่วนางมีปีกก็ไม่สามารถหลบหลีกบินหนีหายไปได้หวั่นเอ๋อร์เมื่อตอนที่ส่งใต้เท้ากลับไปจะต้องควักเอาสมองของจูนจิ่วกลับไปชุบชีวิต”จูนหวั่นเอ๋อร์พูดโน้นน้าวได้ดีกว่าจูนไห่เทียนหลายสิบขุม
จูนเหลยพยักหน้าอย่างพึงพอใจ“คุณหนูหวั่นผู้นี้ช่างรู้ความยิ่งสมแล้วที่เป็นถึงคนสนิทชิดเชื้อของนายหญิงและคุณหนูใหญ่ทั้งสองท่าน”
ได้ยินคำพูดนั้นจูนไห่เทียนก็ยิ้มออกมาอย่างชื่นบาน
จูนหวั่นเอ่อร์แสร้งทำเป็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แต่ทว่าภายในใจกลับเต็มไปด้วยความริษยาชังชังคุณหนูใหญ่?นางเองก็เป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลรองแต่เพราะว่าบ้านใหญ่คนนั้นกลับทำให้นางถูกเรียกเป็นเพียงคุณหนูหวั่น
จูนหวั่นเอ๋อร์รู้สึกอิจฉาแต่ใครกันล่ะที่ทำให้มีการแบ่งเมียหลวงเมียน้อยและยิ่งเป็นบ้านรองอย่างพวกเขามันน่าน้อยใจยิ่งกว่าพวกลูกที่เกิดจากเมียน้อยอีก
นางกัดฟันแน่นและตัดสินใจหากแม้นวันนี้สังหารจูนจิ่วลงได้แลกกลับมาด้วยของล้ำค่าที่จะเอาไว้ใช้ในการฝึกหัดรอให้นางก้าวไปให้ถึงนักจิตชั้นสามได้เสียก่อนความน่าอัปยศอดสูที่ต้องตามประจบสอพลอแบบนี้ก็จะกลายเป็นเรื่องชั่วครู่ชั่วคราว
เมื่อคิดดังนั้นแล้วจูนหวั่นเอ๋อร์มองเห็นคนหนึ่งนัยน์ตาก็เปล่งประกายออกมา“จูนจิ่วมาถึงแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...