สรุปตอน บทที่32งานฉลองครอบครัวสักครั้งเป็นอย่างไร – จากเรื่อง บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดย ต้าวเมียวเมียว
ตอน บทที่32งานฉลองครอบครัวสักครั้งเป็นอย่างไร ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดยนักเขียน ต้าวเมียวเมียว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
บทที่32งานฉลองครอบครัวสักครั้งเป็นอย่างไร
“คุณหนูหวั่นนี่พวกท่านยังไม่ได้ประหารชีวิตจูนจิ่วกลับเป็นนางสวะชั้นต่ำผู้นั้น!ความสามารถของบ้านรองในครั้งนี้ทำให้ข้ารู้สึกผิดหวังยิ่งนัก”เมื่อได้ทราบจุดประสงค์ของจูนหวั่นเอ๋อร์มาก่อนสีหน้าของจูนเหลยก็แสดงออกถึงความเหน็บแนมอยู่กลายๆ
เขาใช้คำว่าโทษประหารราวกับว่าจูนจิ่วเป็นโจรเลวทรามต่ำช้าที่ชั่วร้ายในสายตาของพวกเขาจูนจิ่วคือความอัปยศของตระกูลจูน!นางสมควรจะต้องได้รับโทษความตาย!
จูนหวั่นเอ๋อร์มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะอธิบาย“ใต้เท้าจูนเหลยท่านยังไม่ทราบจูนจิ่วผู้นี้นางเสแสร้งกลับกลอกนางไม่ใช่คนโง่!นาง”
“พอแล้ว”จูนเหลยตัดบนสนทนาของจูนหวั่นเอ๋อร์ขึ้นอย่างรำคาญ“ไม่ต้องหาข้อแก้ตัวที่ไร้ประโยชน์ให้กับบ้านรองของเจ้าอีกว่ามาพวกเจ้าต้องการสังหารจูนจิ่วอย่างไร”
จูนเหลยหาได้เชื่อในคำพูดของจูนหวั่นเอ๋อร์ไม่
ไม่ใช่คนโง่?
ฮึจูนจิ่วผู้นั้นเป็นคนอ่อนแอไร้ประโยชน์เมื่อตอนที่อยู่ในบ้านเขาอยากจะจัดการคิดอยากจะตบตีอย่างไรเขาลองมาแล้วทั้งหมดนางไม่ใช่คนโง่ปัญญาอ่อนถ้าอย่างนั้นใครกันล่ะ?เมื่อจูนเหลยได้ฟังดังนั้นก็คิดว่าตระกูลรองแห่งเมืองเฟิงหลัวกำลังแต่งเรื่องไร้สาระให้ตัวเองฟัง
จูนหวั่นเอ๋อร์“ใต้เท้าจูนเหลยท่านจงวางใจครั้งนี้จะต้องให้โทษตายกับจูนจิ่วให้จงได้”
เพื่อต้องการเชื้อเชิญเอาใจจูนเหลยจูนหวั่นเอ๋อร์ต้องกล่าวคำนี้ขึ้น
ดวงตาของนางกลอกไปมาพร้อมกับกล่าวขึ้น“งานฉลองของครอบครัวสักครั้งเป็นอย่างไร?พวกเราส่งข้อความไปบอกเรียกจูนจิ่วให้มาแล้วจากนั้นก็จัดการลงไม้ลงมื้อฆ่านางทิ้งเสียในงาน”
จูนหวั่นเอ๋อร์ทำมือวาดเหมือนมีดพร้อมกับตวัดมีดลงด้วยความโหดเหี้ยมเพื่อสังหาร!เมื่อได้รับฟังถึงแผนการของจูนหวั่นเอ๋อร์แล้วในที่สุดจูนเหลยก็รู้สึกพึงพอใจเขาพยักหน้ารับและแสยะยิ้มอย่างน่าหวาดกลัว“ได้ครั้งนี้ข้าจะเป็นผู้นำสมองของจูนจิ่วกลับไปชุบชีวิต”
“ใช่!ครั้งนี้จะไม่ทำให้ใต้เท้าจูนเหลยต้องผิดหวังเป็นอันขาด”จูนหวั่นเอ๋อร์เงยหน้าขึ้นนัยน์ตาเต็มไปด้วยความอำมหิตอย่างไม่มีอะไรเปรียบได้
จูนจิ่วเป็นก้อนกรวดรองฝ่าเท้าของตระกูลรองของพวกเขานางจะต้องตาย!
หากจะโทษก็โทษว่าเป็นเพราะนางไม่มีทั้งพ่อและแม่นางเป็นเพียงแค่คนไร้ประโยชน์
“เมื่อเชื้อเชิญมาจะไม่ให้สนองตอบก็ดูจะไร้มารยาทข้าให้โอกาสไว้ชีวิตพวกเขามาแล้วถึงหนึ่งครั้งแต่พวกเขาก็หาได้เห็นคุณค่าไม่ถ้าอย่างนั้นก็จนปัญญา”จูนจิ่วอุ้มเสี่ยวอู่ขึ้นล้มตัวลงบนเตียงตัวงามด้วยท่าทีอันเอื่อยเฉื่อยอย่างขี้เกียจพร้อมกับยกแมวน้อยขึ้น
ฟังเสี่ยวอู่ครางเสียงครืดคราดจูนจิ่วค่อยๆหรี่ตาจูนจิ่วหมอเทวดาอย่างนางแต่ไหนแต่ไรมาไม่ใช่คนจะใจอ่อนลดราวาศอกให้คนได้
ถ้าหากลงมือแล้วก็ต้องเอาให้ถึงที่สุด!
ในทันใดจูนจิ่วเอียงคอใช้สายตาที่เยือกเย็นดุดันมองไปยังหน้าต่างด้านนอกที่นอกหน้าต่างมีเพียงต้นไม้ต้นใหญ่ที่กำลังต้องลมโยกตัวไปมาเกิดเสียงดังขึ้นในลานสายตาไม่พบความผิดปกติใดๆ
จูนจิ่วนวดไปมาที่ใบหูของเสี่ยวอู่ตาฝาดหรอ?หรือว่าจูนไห่เทียนไม่วางใจนอกจากปี้หลั๋วแล้วเขายังส่งคนอื่นให้มาจับตาดูนาง?
หลังคาด้านบนชายผู้สวมชุดคลุมสีดำเข้มเหมือนสีน้ำหมึกยกมือขึ้นตบที่หน้าอก“เห้ออออีกนิดเดียวก็จะถูกจับได้เสียแล้ว”
แต่ทว่าดรุณีน้อยที่ไม่เคยได้รับการฝึกฝนมาก่อนกลับเห็นเขาได้อย่างนั้นหรือ?คิดดูแล้วชายหนุ่มก็รู้สึกทึ่งปนความรู้สึกอดที่จะแปลกใจไม่ได้แต่เรื่องที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าก็คือหลังจากที่นายท่านกลับมาภารกิจพิเศษอันดับแรกที่มอบหมายให้เขาก็คือให้เขามาพิทักษ์ปกป้องแม่นางดรุณีน้อยผู้นี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...