บทที่ 331 พวกเขาเป็นแค่ทหารเกณฑ์ ไม่มีคุณสมบัติ
บริเวณลานฝึกชั้นนอกสำนักไท่ชู
มู่จิ่งหยวนนั่งอยู่ตรงกลางอัฒจันทร์เพื่อชมการต่อสู้ เขาดูการแข่งขันที่ดำเนินอยู่บนสังเวียนอย่างไม่ตั้งใจนัก เขามัวแต่เอามือกุมคางเอาไว้ แล้วขมวดคิ้วจ้องมองทางเข้าลานฝึกอย่างไม่วางตา เวลาค่อยๆ ผ่านไป พระอาทิตย์ค่อยๆ ตกดิน เขาไม่เห็นคนที่เขากำลังตั้งหน้าตั้งตารออยู่ทั้งสองคนเลย
พวกผู้ดูแลชั้นนอกสำนักต่างก็สังเกตเห็นปฏิกิริยาของมู่จิ่งหยวน จึงถามด้วยความแปลกใจว่า : “นายน้อย ท่านกำลังรอใครบางคนอยู่หรือ ?”
“อืม” เมื่อเห็นมู่จิ่งหยวนพยักหน้าตอบรับ พวกผู้ดูแลชั้นนอกสำนักต่างก็นิ่งไป ในขณะเดียวกันก็รู้สึกสงสัยเพิ่มมากขึ้น มู่จิ่งหยวนกำลังรอใครอยู่กันแน่ ? ต่างก็หันไปกระซิบกระซาบกัน หัวข้อสนทนาเกี่ยวกับความสงสัยก็ได้เริ่มขึ้น
ผู้ดูแลหวางนั่งอยู่ตรงมุมหนึ่ง ฟังบรรดาพวกผู้ดูแลชั้นนอกสำนักถกเถียงกัน เขาแอบหันไปมองมู่จิ่งหยวน แต่ใครจะไปนึกว่าจะถูกมู่จิ่งหยวนจับได้พอดี ทำให้ผู้ดูแลหวางเหงื่อแตกชุ่มไปทั่วทั้งแผ่นหลัง !
มู่จิ่งหยวนขมวดคิ้ว หันไปมองผู้ดูแลหวางด้วยดวงตาที่เปล่งประกายพราวเสน่ห์ของเขา แล้วถามว่า : “ผู้ดูแลหวาง จูนจิ่วกับชิงหยู่อยู่ในความรับผิดชอบของท่าน ตอนนี้พวกเขาไปไหน ?”
“เรื่องนี้ข้าน้อยเองก็ไม่รู้ เมื่อเช้าข้าน้อยส่งคนไปแจ้งให้พวกขามาเข้าร่วมการแข่งขันลูกศิษย์ แต่กลับไม่เห็นเงาของพวกเขาเลย ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาหายไปไหนกันแน่” ผู้ดูแลหวางพูดขึ้นมากะทันหันอย่างมีเลศนัยว่า : “สงสัยพวกเขาจะกลัวจนหนีไปแล้วกระมัง”
“ไม่มีทาง !” มู่จิ่งหยวนพูดอย่างมั่นใจ
จากที่ได้ยินจากปากของฝู้หลินชวงและฝู้หลินจ้าน จูนจิ่วไม่ใช่คนประเภทขี้ขลาดตาขาวอย่างแน่นอน สามสำนักบังคับสำนักเทียนอู่จง นางยังกล้าประมือจนเอาชนะสามสำนักได้ แล้วจะมากลัวการแข่งขันลูกศิษย์เล็กๆ เช่นนี้ได้อย่างไร ? อีกทั้งเขาเองก็ยังเคยเห็นความสามารถของจูนจิ่วด้วยตาของตนเอง การแข่งขันลูกศิษย์นี้ไม่มีใครมีความสามารถพอที่จะเป็นคู่ต่อสู้กับนางได้เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงศิษย์พี่ของนาง ชิงหยู่
แต่ทำไมพวกเขาถึงไม่มา ?
การแข่งขันลูกศิษย์ที่อยู่ตรงหน้ากำลังจะสิ้นสุดลง หากเสียงระฆังดังขึ้นเมื่อไหร่ พวกเขาจะถูกตัดสินให้ขาดคุณสมบัติ อีกทั้งการที่ถูกตัดสิทธิ์ในการแข่งขันลูกศิษย์ ก็จะถูกคนในสำนักไท่ชูทั้งหมดมองว่าเป็นเรื่องที่น่าอัปยศอดสู และพวกเขาก็จะถูกยกเลิกคุณสมบัติสามปี และจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการแข่งขันลูกศิษย์ต่อจากนี้เป็นเวลาสามปี
บทลงโทษเช่นนี้ถือเป็นบทลงโทษที่หนักจริงๆ อีกทั้งยังเป็นการสูญเสียพรสวรรค์ของพวกเขาไปอย่างเปล่าประโยชน์อีกด้วย มู่จิ่งหยวนจึงยากที่จะทำใจ
เขากวักมือเรียกลูกศิษย์สองคนมา แล้วสั่งว่า : “พวกเจ้าจงไปตามหาจูนจิ่วกับชิงหยู่ หากเจอพวกเขาแล้ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม จะต้องให้พวกเขามาเข้าร่วมการแข่งขันลูกศิษย์ให้ได้ !”
“ครับ !”
เมื่อเห็นมู่จิ่งหยวนมีทีท่าเช่นนี้ ผู้ดูแลหวางก็เหงื่อแตกท่วมตัว ถ้าให้มู่จิ่งหยวนรู้เข้าล่ะก็ว่าเขาเป็นคนขับไล่ให้พวกจูนจิ่วไปที่ถูเขาหนาน เขาต้องซวยแน่ๆ !
ผู้ดูแลหวางยืนกระสับกระส่าย กำหมัดแน่น เส้นเลือดดำนบหน้าผากปูดขึ้นมา รอให้การแข่งขันลูกศิษย์ผ่านพ้นไปก่อน เขาจะต้องไปหาหยุนหนีให้ได้ ! เรื่องนี้เป็นคำสั่งของหยุนหนีสั่งให้เขาทำ หยุนหนีจะต้องปกป้องเขา ถึงแม้จะรู้สึกกลัว แต่ผู้ช่วยหวังก็ยังรู้สึกมีความสุขอยู่บนความทุกข์ของคนอื่น ป่านนี้แล้ว จูนจิ่วและชิงหยู่ไม่มีทางกลับมาทันอย่างแน่นอน !
หึ ! กล้าวางยาพิษข่มขู่เขา ? จะไม่มีวันให้พวกเจ้ามีโอกาสได้เข้าร่วมการแข่งขันลูกศิษย์โดยเด็ดขาด
แก๊ง !
เสียงระฆังครั้งที่หนึ่งดังขึ้น
การแข่งขันลูกศิษย์ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว เหลือเพียงแค่การแข่งขันรอบสุดท้ายเท่านั้น ซึ่งจะคัดเลือกผู้ชนะสามอันดับแรกจากผู้เข้าแข่งขันที่เหลืออยู่ในรอบสุดท้ายจำนวนสิบคน ถึงเวลานั้นมู่จิ่งหยวนจะคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติจากสามอันดับแรกเพื่อเข้ามาเป็นศิษย์ชั้นในสำนัก
กฎของการแข่งขันลูกศิษย์ ไม่ใช่ว่าผู้ชนะสามคนแรกจะมีสิทธิ์ได้เข้ามาเป็นศิษย์ในสำนักเสมอไป และไม่ใช่ว่าสิบอันดับแรกที่พ่ายแพ้ไปจะไม่มีโอกาสแล้ว ทุกอย่างดูจากพรสวรรค์และฝีมือ ดูจากคุณสมบัติและคุณธรรมศีลธรรม แต่เหล่าผู้ชนะจะสามารถเข้ามาเป็นศิษย์ชั้นในสำนักได้หรือไม่นั้น ตั้งแต่ต้นจนจบมู่จิ่งหยวนกลับไม่ได้สนใจดูการประลองที่เกิดขึ้นบนสังเวียนเลย นี่ทำให้ทุกคนรู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก
แก๊ง !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...