บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 332

สรุปบท บทที่ 332 น่ารังเกียจ ไร้ยางอาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ

สรุปตอน บทที่ 332 น่ารังเกียจ ไร้ยางอาย – จากเรื่อง บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดย ต้าวเมียวเมียว

ตอน บทที่ 332 น่ารังเกียจ ไร้ยางอาย ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดยนักเขียน ต้าวเมียวเมียว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 332 น่ารังเกียจ ไร้ยางอาย

เอาชนะผู้ชนะการแข่งขันลูกศิษย์สิบอันดับแรกทั้งหมด ? จะเป็นไปได้อย่างไร ! มิหนำซ้ำจูนจิ่วยังตอบตกลงอีก พวกผู้ดูแลชั้นนอกสำนักต่างหันไปมองจูนจิ่วด้วยสายตาที่เหมือนกับกำลังมองดูไอ้โง่คนหนึ่ง ส่วนพวกลูกศิษย์เองต่างก็หัวเราะเยาะออกมา

ในสายตาของพวกเขา จูนจิ่วก็เป็นเพียงแค่หญิงสาวที่ดูเย็นชาและดุดันคนหนึ่งก็เท่านั้น หนึ่งต่อสิบ ? ไม่สิ หากรวมชิงหยู่เข้าไปด้วยก็เท่ากับสองต่อสิบ นั่นก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะพวกเขา !

พวกลูกศิษย์ลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีหยิ่งผยอง มิหนำซ้ำยัง จ้องมองไปที่จูนจิ่ว พวกเขาถือเป็นชนชั้นสูงในเมืองไท่ชู เข้ามาอยู่ที่ชั้นนอกสำนักไท่ชูตั้งแต่เด็ก แล้วแมลงเม่าตัวเล็กๆ ที่มาจาก สองสำนักสิบแคว้นจะมาเอาชนะพวกเขาได้อย่างไรกัน ? แต่ละคนรู้สึกมั่นใจและหยิ่งผยองเป็นอย่างมาก มิหนำซ้ำยังยื่นมือออกไปลวนลามจูนจิ่วและชิงหยู่อีกด้วย “ไม่รู้ว่าจะอยู่หรือจะตาย ! ขึ้นมาสิ ให้พวกเราสอนพวกเจ้าว่าอะไรที่เขาเรียกว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า !”

“ใช่ ก็แค่พวกปลายแถวที่มาจากสองสำนักสิบแคว้นยังจะกล้ามาต่อกรกับพวกเราอีก น่าขำสิ้นดี ! ถุย !”

รอยยิ้มบนใบหน้าของชิงหยู่จางหายไป ใบหน้าดุดัน พับแขนเสื้อขึ้น โกรธจนกัดฟัน “ลุย ! พวกเราเข้าไปสั่งสอนพวกเขากันเถอะศิษย์น้อง !”

“ดี” จูนจิ่วแสยะยิ้ม

มู่จิ่งหยวนยืนอยู่อย่างใกล้ชิด รู้สึกว่าเมื่อมุมปากของจูนจิ่วยกขึ้น รูปลักษณ์ที่น่าทึ่งและดูมีเสน่ห์นั้นก็เปล่งประกายขึ้นมาในทันที ช่างงดงามจริงๆ ! แต่ก็ดูเย็นชาไม่น้อยเช่นกัน เย็นชาจนแทบไม่หลงเหลือความอบอุ่นอยู่เลยแม้แต่น้อย เย็นชาจนทำให้คนรู้สึกราวกับติดอยู่มนถ้ำน้ำแข็ง

เขาขมวดคิ้ว โค้งงอริมฝีปากยิ้มเล็กน้อย : “สู้เขา ! ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าจะต้องชนะ”

เมื่อใดยินดังนั้น จูนจิ่วก็หันไปมองมู่จิ่งหยวนที่ยืนอยู่ข้างๆ นางผละสายตาออกมาแล้วตบก้นของเสี่ยวอู่ “ลงไปเถอะ”

“เหมียว !” เสี่ยวอู่กระโดดลงมาแล้วโบกมือให้กำลังใจจูนจิ่ว เจ้านายสู้ๆ ! ให้พวกขยะพวกนี้ได้รู้ว่า เจ้านายต่างหากที่เก่งที่สุด !

จูนจิ่วยิ้ม แล้วใช้เท้าดีดตัวเองให้ลอยขึ้นไปราวกับนก แล้วนั้นจึงค่อยลอยลงตรงกลางสังเวียน ชิงหยู่ตามนางไปทางด้านหลัง ทันทีที่ขึ้นไปถึงก็ถูกลูกศิษย์ทั้งสิบคนเข้ามายืนล้อมเอาไว้ แววตาของพวกเขาไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย รอยยิ้มฉาบใบด้วยความโหดเหี้ยมและการดูถูกสมเพช

ดูถูกเพราะไม่เชื่อในความสามารถของจูนจิ่วและชิงหยู่ ส่วนความสมเพชก็แสดงออกด้วยการจ้องมองจูนจิ่วด้วยแววตาที่ไร้ยางอาย

ส่วนทางด้านของมู่จิ่งหยวนก็เดินขึ้นไปนั่งบนอัฒจันทร์ พวกผู้ดูแลชั้นนอกสำนักเองก็รีบเข้าไปล้อมเขาไว้ในทันทีแล้วพูดว่า : “นายน้อย ทำเช่นนี้เกรงว่าจะไม่เหมาะสม ?”

“หากพวกเขาสามารถเอาชนะลูกศิษย์สิบอันดับแรกได้ มีความสามารถที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขา แล้วทำไมจะให้พวกเขาเข้ามาอยู่ชั้นในสำนักไม่ได้ล่ะ ? หรือว่าพรสวรรค์และความสามารถเช่นนี้ จะให้ทิ้งเอไว้ที่ชั้นนอกสำนักอย่างไร้ประโยชน์อย่างนั้นหรือ ?” ถึงแม้ภายนอกของมู่จิ่งหยวนจะดูเป็นคุณชายที่สง่างามและเป็นผู้รากมากดี แต่ในแววตาและน้ำเสียงของเขาก็มีความน่ากลัวแฝงอยู่ด้วย

พวกผู้ดูแลสำนักชั้นนอกไม่พูดอะไรต่ออีก เพราะว่าผู้ดูแลหวางได้แอบเปรยไว้ว่า : “ทุกท่านจะรีบร้อนอะไรกัน ข้าไม่เชื่อว่าจูนจิ่วและชิงหยู่จะสามารถเอาชนะได้หรอก !”

เขาเคยเห็นการต่อสู้ของจูนจิ่วและชิงหยู่สองครั้ง ครั้งแรกตอนที่ถูกจูนจิ่วขู่ ครั้งที่สองตอนที่เจ้าเมืองไท่ชูจับคนร้าย ภาพจำทั้งสองครั้งทำให้ผู้ดูแลหวางรู้สึกว่าพวกเขาเพียงแค่บังเอิญโชคดีเท่านั้น แต่หากต่อสู้อย่างจริงๆ จังๆ แล้วล่ะก็ ไม่มีทางที่จะชนะได้แน่นอน ! อีกทั้งเมื่อเห็นท่าทางของจูนจิ่วและชิงหยู่ที่ดูอ่อนเพลียแล้ว จะต้องแพ้อย่างแน่นอน

เขายิ้มออกมาอย่างมีความสุข แววตาเต็มไปด้วยความประสงค์ร้าย ถ้าจะให้ดีต้องให้พวกลูกศิษย์เหล่านี้รุมเข้าไปหักกระดูกของพวกเขา แล้วสั่งสอนพวกเขาสักตั้ง !

แต่ละคนต่างมีความคิดที่ไม่เหมือนกัน มู่จิงหยวนไม่ได้สนใจพวกเขา แล้วเอ่ยปากพูดขึ้นว่า : “เอาล่ะ การแข่งขันเริ่มได้ !” เขาหันไปสบตาเข้ากับเสี่ยวอู่ที่อยู่ข้างๆ โดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่รู้ว่าเจ้าแมวที่มีขนปุกปุยสีขาวราวกับหิมะตัวนี้กระโดดขึ้นมาอยู่บนอัฒจันทร์ตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้เจ้าแมวน้อยกำลงัจ้องมองไปที่สังเวียนอย่างใจจดใจจ่อ จากนั้นจึงยิ้ม มู่จิ่งหยวนเองก็หันไปมองบนสังเวียนด้วย เขาเชื่อและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจูนจิ่วกับชิงหยู่จะชนะ ! อย่าทำให้เขาต้องผิดหวังเป็นอันขาด

เสียงระฆังบนสังเวียนดังขึ้น ทั้งสิบคนก็วิ่งกรูเข้าไปหาจูนจิ่วและชิงหยู่ด้วยท่าทีดุร้ายในทันที ใช้พลังทิพย์ทุกรูปแบบโจมตีเข้าไป เกิดเป็นพลังที่ผสมปนเปกันเคลื่อนไหวไปมาอยู่บนสังเวียน

ชิงหยู่แสยะยิ้มออกมา “ถึงตาพวกเราแล้วศิษย์น้อง”

หลบหลีก แล้วพุ่งตรงเข้าโจมตี

นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น......

นางกำหมัดจนเสียงกระดูกลั่นดังกรอบแกรบ จูนจิ่วลงมืออย่างลวกๆ เรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงที่อารมณ์รุนแรง ที่ผ่านมาไม่มีลูกศิษย์คนไหนสามารถต้านนางได้เกินสองกระบวนท่า จับใครได้ก็โยนคนนั้น ลงมือได้อย่างแม่นยำ !

ส่วนชิงหยู่นั้นก็ดุดันยิ่งกว่าจูนจิ่ว ! อาจเป็นเพราะรู้สึกแค้นที่เมื่อครู่ศิษย์น้องของเขาไม่ได้รับความเคารพ ตอนนี้จึงลงมือตบหน้าโดยเฉพาะ !

ลงมือจนแต่ละคนใบหน้าฟกช้ำดำเขียวไปหมด จนไม่หลงเหลือสภาพของยอดฝีมืออยู่เลย แค่ใช้เท้าก็สามารถเตะพวกเขากระเด็นออกไปได้ ก่อนที่จะเตะให้ลอยออกไป ชิงหยู่ก็ยังไม่ลืมที่จะพูดขู่ว่า : “หากครั้งหน้ายังจะกล้าดูหมิ่นศิษย์น้องของข้าอีกล่ะก็ ข้าจะดึงลิ้นของพวกเจ้าออกมามัดเอาไว้เสีย !”

ตุ้บตุ้บตุ้บ——

เมื่อเห็นลูกศิษย์ค่อยๆ ลอยออกมาทีละคนๆ เหล่าบรรดาผู้ชมการแข่งขันก็รู้สึกตกใจ รู้สึกเหลือเชื่อและสับสนจนไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี

มีลูกศิษย์ถูกถีบกระเด็นออกมาอีกคน เขากระอักเลือดแล้วลุกขึ้นนั่ง ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด นิ้วชี้ขึ้นไปบนสังเวียนแล้วตะโกนว่า : “ศิษย์ชั้นนอกสำนักอยู่ไหนกันหมด ! พวกเจ้าอยากจะเห็นตำแหน่งศิษย์ชั้นในสำนัก ถูกพวกชั้นต่ำพวกนี้แย่งไปได้หรืออย่างไร ? ขึ้นมาเร็วเข้า ! ตำแหน่งเป็นของศิษย์ชั้นนอกสำนักอย่างพวกเรา ไม่ได้เป็นของพวกชั้นต่ำ ศิษย์ชั้นนอกสำนักทั้งหมดจงรีบขึ้นมาแย่งกลับไปเร็วเข้า !”

เมื่อประโยคนี้พูดจบ ก็มีลูกศิษย์พุ่งเข้าโจมตีขึ้นไปบนสังเวียนจริงๆ มีคนแรกก็มีคนต่อๆ มา นับไปนับมาน่าจะสักราวๆ ยี่สิบกว่าคน !

เสี่ยวอู่ลับกงเล็บด้วยความโมโห “เหมียวเหมียวเหมียว !” น่ารังเกียจ ไร้ยางอาย !

“เจ้าแมงน้อยอย่าเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้า” มู่จิ่งหยวนหูตาว่องไว รีบยื่นมือออกไปจับเสี่ยวอู่ไว้อย่างรวดเร็ว เขาพูดว่า : “ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังเป็นห่วงเจ้านายของเจ้า แต่พวกเขาขึ้นไปก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ เจ้านายของเจ้า จูนจิ่วชนะขาดเรียบร้อยแล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ