บทที่ 343 เจ้าแสดงให้เต็มที่
สิ่งที่อยู่ในมือนี้ใช้ประโยชน์ไม่ได้ จูนจิ่วแบะปากแล้วก็โยนเจ้ากุญแจเวลานี้กลับไปยังช่องว่างระหว่างกำไลข้อมือของนาง มีเพียงผู้ที่บรรลุขั้นนักจิตใหญ่แล้วจึงจะใช้ได้ จูนจิ่วกะพริบตาแววตาเย็น นางจะต้องพยายามบรรลุนักจิตใหญ่ให้ได้เร็วๆนี้
ถ้าไปถึงห้องหนังสือ หากไม่พบเบาะแสของวิชาฝึกตนชั้นที่สี่ จูนจิ่วจะลองกลั่นยาทิพย์ใหญ่ดู แต่ว่าก่อนจะทำสิ่งเหล่านี้ จูนจิ่วยังมีเรื่องหนึ่งต้องทำก่อน
นั่นก็คือไปพบกับผู้อาวุโสใหญ่ อาจารย์ในนามคนใหม่ของนาง
แสงอรุณยามเช้าทอแสงอ่อน ลมพัดโชยเบาๆ
ชิงหยู่มองไปทางจูนจิ่วและเอ่ยว่า “ศิษย์น้อง ขากลับให้ขาไปรับเจ้าหรือไม่ ”
วันนี้นางกับชิงหยู่ต้องแยกกันเข้าไปยังสาขาที่สองกับสาขาที่สาม เมื่อรู้ว่าจูนจิ่วต้องไปพบกับผู้อาวุโสใหญ่เพียงลำพัง เห็นได้ชัดว่าชิงหยู่เป็นห่วงเป็นอย่างมาก ผู้อาวุโสใหญ่ดูอย่างไรก็รู้สึกว่าไม่ชอบมาพากล ให้จูนจิ่วไปเผชิญหน้าคนเดียวจะไหวหรือ
จูนจิ่วยิ้มเย็น เงยหน้าขึ้นสีหน้าหยิ่งทะนง จูนจิ่วหัวเราะ “ศิษย์พี่วางใจเถอะ ตอนนี้ข้าเป็นผู้มีพรสวรรค์ระดับหกสีฟ้า พวกเขาไม่กล้วลงมือง่ายๆหรอก”
จูนจิ่วไม่ได้บอกกับชิงหยู่ในสิ่งที่นางคาดเดาไว้ หากการคาดเดาของนางถูกต้อง นอกจากผู้อาวุโสจะไม่กล้าทำอะไรนางแล้วยังจะดูแลนางเป็นพิเศษอีกด้วย คนที่ทำทุกสิ่งตรงข้ามกับผู้อาวุโสรองกับผู้อาวุโสสามสามารถดูออกได้ไม่ยากเลย ฉะนั้นจูนจิ่วจึงไม่กลัวอันตรายเลยสักนิด
นางกลับรู้สึกรอคอย ที่จะชิงไหวชิงพริบกับผู้อาวุโสใหญ่
ผู้อาวุโสใหญ่กับหยุนหนีอาศัยอยู่ที่ภูเขาชิวสุ่ย เพิ่งจะมาถึงเขาชิวสุ่ยก็เห็นหยุนหนีมารอรับด้วยตนเองที่ตีนเขา รอยยิ้มดุจบุปผาสวยงามมาก
ตลอดทางเหล่าลูกศิษย์ที่เห็นหยุนหนีมาจับจูนจิ่วด้วยตนเอง ทุกคนต่างเบิกตากว้างไม่อยากเชื่อสายตา แล้วก็จ้องจูนจิ่วด้วยสายตาอิจฉา จูนจิ่วเป็นใคร นายน้อยรับนางเข้ามาในสำนักด้วยตนเอง ตอนนี้ยังมีศิษย์พี่หยุนหนีมาต้อนรับด้วยตนเอง นางคิดว่านางเป็นใคร พรสวรรค์ระดับหกสีฟ้า ก็จะทำอะไรตามใจได้เลยหรือ หลังจากนั้นทันทีที่รู้ว่าจูนจิ่วจะไปพบผู้อาวุโสใหญ่ เล่าลูกศิษย์ที่อยู่ในสาขาที่สองต่างก็อิจฉาตาร้อนยิ่งขึ้น
ไม่ได้ไหว้ครูรับอาจารย์ด้วยซ้ำ เป็นเพียงศิษย์ธรรมดาเหมือนกันกับพวกเขา แต่กลับมีผู้อาวุโสคอยสั่งสอนชี้แนะ ทุกคนต่างรู้สึกไม่เป็นธรรม จูนจิ่วมองเห็นปฏิกิริยาของทุกคน หยุนหนีก็เห็น
หยุนหนียิ้มอ่อนๆ “ศิษย์น้องจูนไม่ต้องสนใจพวกเขา พวกเขากำลังอิจฉาเจ้า ”
“อิจฉา ศิษย์พี่หยุนหนีก็เป็นหรือ”จูนจิ่วเหลือบมองหยุนหนี ได้เห็นสีหน้าแข็งทื่อของนางอีกครั้ง สีหน้าลำบากใจ
หยุนหนีพบว่าหลังจากกลับมาจากภูเขาหนาน คำพูดของจูนจิ่วนั้นทิ่มแทงเหลือเกิน ทำให้หยุนหนีอดไม่ได้ที่จะกังวลว่าตัวเองได้เผยอะไรออกไปหรือไม่ แต่พอดูท่าทีสีหน้าของจูนจิ่วก็ไม่พบความผิดปกติอะไร เดาไม่ออกว่าจูนจิ่วรู้หรือไม่รู้กันแน่
หากรู้ ทำไมยังสามารถพูดด้วยรอยยิ้มกับนางได้ แต่หากไม่รู้ แล้วทำไมต้องตอกกลับนางด้วย ในสมองมีความคิดมากมายวาบผ่าน สีหน้าของหยุนหนีกลับสู่ความนิ่งสงบอย่างรวดเร็ว นางยิ้มล้อเล่นว่า
“ศิษย์พี่เองก็อิจฉาศิษย์น้อง พรสวรรค์ระดับหกสีฟ้า เป็นพรสวรรค์ที่สามารถบรรลุนักจิตใหญ่อย่างที่เขาว่ากัน ใครจะไม่อิจฉาเล่า แต่ข้าประหลาดใจมากกว่า”
หยุนหนีพูดถึงตรงนี้แล้วก็หยุดไม่ได้พูดต่อ จงใจลากเสียงเพื่อซื้อเวลา
นางจะรอให้จูนจิ่วอดใจไม่ได้จนถามนางขึ้นมา แต่ตลอดทางเดิน จนเกือบจะถึงที่อยู่ของผู้อาวุโสใหญ่อยู่แล้ว จูนจิ่วก็ไม่ได้เอ่ยปากถามสักคำ เป็นหยุนหนีซะเองที่ทนไม่ไหว
“ศิษย์น้องจูนเจ้าจะไม่ถามข้าหรือว่าประหลาดใจเรื่องอะไร”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...