สรุปเนื้อหา บทที่ 366 จูนจิ่วหล่อระเบิดเลย – บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดย ต้าวเมียวเมียว
บท บทที่ 366 จูนจิ่วหล่อระเบิดเลย ของ บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ต้าวเมียวเมียว อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 366 จูนจิ่วหล่อระเบิดเลย
ตรงหน้าของพวกเขา เป็นหลุมวงรีขนาดใหญ่หนึ่งหลุม
ในหลุมใหญ่นั้น มีงูมากมายทั้งที่พวกเขารู้จักและไม่รู้จัก แต่ละตัวพัวพันโรมรันกัน หรือบางตัวก็สีสันหลากหลาย บางตัวก็สีเข้ม บางตัวใหญ่บางตัวเล็ก ทับถมกันยั้วเยี้ยจนเต็มครึ่งหลุม งูก็รับรู้ได้ถึงการมาของพวกเขา แต่ละตัวต่างก็ยืดคอขึ้นมามองพวกเขา แต่ไม่มีตัวไหนเลื้อยขึ้นมาโจมตีพวกเขา
ที่นี่มีเพียงเส้นทางเดียว นั่นก็คือเส้นทางเท้าเดินเล็กๆที่ต้องทะลุผ่านหลุมที่เต็มไปด้วยงู แค่เห็นก็ขนหัวลุกแล้ว ใครจะกล้าเดินผ่าน
นี่มันถึงชีวิตเชียวนะ
ฝู้หลินจ้านกอดแขนเอาไว้ ใช้แรงถูไถรูขุมขนที่ขนลุกชันให้นอนราบลง เขาเอ่ยขึ้นอย่างยากลำบากว่า “นี่พวกเราต้องเดินผ่านไปจริงหรือ”
มู่จิ่งหยวนตอบเขา “เห็นชัดว่าใช่”
“ข้าไม่เอาฮือ ข้ายังไม่พอให้งูพวกนี้งับเลย ”หลี่อี้หมิงขาสั่น แต่พอเห็นสีหน้าจูนจิ่วไม่เดือดร้อน นิ่งสงบเขาก็ได้แต่กัดฟันพยายามทำตัวให้นิ่งที่สุด พี่สาวเป็นหญิงสาวยังไม่กลัวเลย เขาจะอ่อนแอได้อย่างไร
ฉากตรงหน้าทำเอาทุกคนอกสั่นขวัญแขวน ไม่มีใครอย่างเอาตัวเองไปเสี่ยวกับฝูงงู มีเพียงจูนจิ่วกับเสี่ยวอู่ ปฏิกิริยาไม่เหมือนกับพวกเขาสักเท่าไหร่
พวกเขาฟังภาษาเหมียวไม่รู้เรื่อง ไม่เช่นนั้นก็คงต้องตกใจจนลูกตาถลนออกมาแล้ว เสี่ยวอู่กำลังถามว่า เหมียว จะนิ่งตุ๋นหรือทำซุปงูดี เจ้านายเหมียวหิวแล้ว เสี่ยวอู่คิดถึงซุปงูที่เจ้านายเคยทำให้กิน เห็นภาพหลุมนรกงูนี้ ทำให้เสี่ยวอู่หิวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ แม้ว่าคนอื่นไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับงูพวกนี้ แต่เจ้านายของมันไม่เหมือนกัน เจ้านายของมันเป็นถึงหมอเทวดาจูนจิ่วนะ
“สวรรค์”หยุนหนีเดินมาจากข้างหลัง นางยังไม่รู้ว่าพวกคนข้างหน้ายืนนิ่งไม่ขยับนั้นเพราะเหตุใด พอเดินออกมาเห็นหลุมงูขนาดใหญ่ หยุนหนีก็สีหน้าซีดขาวเริ่มสั่นเทา ด้านหลังนางมีหงยิงพาคนของนางเดินเข้ามา พอเงยหน้าเห็น ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเช่นกัน
ฉากนี้ต้องเป็นฝันร้ายที่ทุกคนที่พบเห็นยากจะลืมได้ในชาตินี้แน่ จูนจิ่วเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ นางยื่นมือเข้าไปในแขนเสื้อ ที่จริงแล้วคือล้วงมือเข้าไปในช่องว่างของกำไลควานหาสิ่งที่ต้องการอยู่สักพัก ก็เอาขวดเคลือบออกมา จูนจิ่วเทยาเม็ดที่มีขนาดเท่าหัวแม่มือออกมา นางเอาให้พวกมู่จิ่งหยวนเขาคนละเม็ด
ฝู้หลินจ้านกับฝู้หลินซวงก็ได้รับ เห็นหลี่อี้หมิงที่มองนางตาปริบๆ จูนจิ่วก็ยิ้มมุมปากส่งให้เขาหนึ่งเม็ด
นางพูดว่า “บีบยานี้ให้แหลกแล้วทาไปที่คอเสื้อ แขนเสื้อกับรองเท้า”
“นี่คืออะไร”ฝู้หลินจ้านถามอย่างอยากรู้ พวกเขาต่างก็ประหลาดใจ แต่ก็เชื่อใจอย่างไร้ข้อกังขาเมื่อเห็นจูนจิ่วได้บีบยาจนแหลกแล้วละเลงไปทั่วร่าง
จูนจิ่ว “นี่เป็นผงยาไล่งู ยามีผลแค่หนึ่งก้านธูป ฉะนั้นพวกเจ้าต้องเร่งแล้ว”
ทุกคน ??
หมายความว่าไง รีบเร่งอะไรกัน หรือว่าจะเป็นความหมายที่พวกเขาต่างก็เข้าใจกัน
เห็นสีหน้าพวกเขาที่เต็มไปด้วยความอึ้ง รวมถึงชิงหยู่เองก็กำลังมึนงง จูนจิ่วยิ้มพูดขึ้นว่า “มีข้าอยู่อย่ากลัวเลย”
เมื่อเห็นจูนจิ่วก้าวเท้าไป ทุกคนต่างกลั้นหายใจจ้องเขม็งไปที่จูนจิ่ว เห็นฉากที่น่าอัศจรรย์เกิดขึ้น ระหว่างทางที่จูนจิ่วก้าวเท้าไปนั้นเหล่างูที่ขวางทางอยู่ก็ค่อยๆขยับตัวลงไปในหลุมเพื่อเปิดทางอย่างว่าง่าย มีคนไม่น้อยขยี้ตา ไม่อยากเชื่อ
จูนจิ่วควบคุมงูได้ด้วย นี่มันร้ายกาจเกินไปแล้ว
“เหมียวเหมียว”พวกเจ้ายังยืนบื้อทำไมกัน รีบตามมาสิ เสี่ยวอู่ยืนอยู่บนไหล่ของจูนจิ่ว หันไปกวักมือให้กับพวกชิงหยู่ ดูแล้วอย่าว่าแต่น่ารักขนาดไหนเลย นี่มันเหมือนกับภาพลวงตาด้วยซ้ำ ชิงหยู่ไปก่อน ต่อด้วยพวกของมู่จิ่งหยวน สีหน้าพวกเขายังคงตกตะลึงและไม่อยากจะเชื่อ ก้าวเท้าตามไปด้วยท่าทีหลังแข็งยืดตรง จ้องฝูงงูอย่างระแวดระวัง ราวกับเตรียมจะสู้กับพวกมันอยู่ตลอดเวลา แม้พวกเขาจะเดินผ่านไป พวกงูก็ไม่มีทีท่าจะโจมตี เพียงแต่มองเท่านั้น
ไม่รู้ว่าเป็นฤทธิ์ของยาไล่งู หรือเพราะขลุ่ยสั้นของจูนจิ่ว แต่พวกเขาก็สามารถผ่านไปได้อย่างราบรื่น จะไปสนใจเรื่องนี้ทำไม
ลูกศิษย์ข้างหลังที่เห็นเช่นนี้ต่างก็เบิกตากว้าง เห็นพวกจูนจิ่วเดินผ่านไปแล้ว พวกเขาก็คิดอยากจะรีบตามไป ปรากฏว่าแค่เข้าใกล้ปากหลุมงูเท่านั้น งูที่ดูเชื่อฟังข้างหน้านั้นก็หันมาจ้องมองพวกเขาทันที ขู่ฟ่อๆ ท่าทีเหมือนจะโจมตีอยู่รอมร่อ ทำเอาแต่ละคนถอยร่นทันที
หยุนหนีก็เป็นหนึ่งในคนที่ตกใจจนถอยหนี นางร้อนใจดุจมีไฟสุม เปิดปากตะโกนไปยังจูนจิ่วกับมู่จิ่งหยวน “ศิษย์น้องจูน ศิษย์พี่มู่พวกท่านลืมข้าแล้วหรือ”
“ศิษย์พี่มู่ยังมีพวกเรานะ ”เหล่าลูกศิษย์สำนักศึกษาไท่ชูคิดถึงคำเยาะเย้ยเหยียดหยามคำด่าที่ตัวเองทำต่อจูนจิ่วเป็นประจำ จึงไม่กล้าเรียกจูนจิ่ว ขณะเดียวกันก็ได้แต่ร้องตะโกนหามู่จิ่งหยวนไม่ปล่อย แต่ก็ไม่มีใครหันกลับมามอง
การฝึกฝนต้องพึ่งตัวเอง วาสนาก็เช่นกัน ใครก็ไม่มีหน้าที่ต้องพาใครไปด้วยทุกที่ มู่จิ่งหยวนได้แต่พึมพำในใจ ไม่เห็นหรือว่าเขาเองยังต้องอาศัยเกาะแข้งขาของจูนจิ่วเลย จะเรียกเขาทำไม
เห็นพวกจูนจิ่วเดินไปได้ครึ่งทางอย่างราบรื่น หงยิงก็ทนไม่ได้ นางไม่มีทางให้พวกเขาได้สำเร็จ หงยิงยิ้มเย็นมองไปยังหลุมงูแวบหนึ่ง นางยกฝ่ามือขึ้นเคลื่อนพลังทิพย์ ตบฝ่ามือลงไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...