“จูนจิ่ว!”เสียงที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นหมายอยากจะสังหารแบบเดียวกันแหบพร่าราวกับถูกบีบเค้นให้ออกมาจากลำคอ
จูนจิ่วหันหน้ากลับไปยกคิ้วกระดกขึ้นหืม!จูนเหลยฟื้นคืนสติแล้วอย่างนั้นหรอ!
“เสี่ยวอู่”
“เมี้ยว!ส่งมาให้ข้า!”
เสี่ยวอู่พุ่งกระโจนตัวออกไปกรงเล็บแผ่หรากางออกข่วนเข้าที่ใบหน้าจูนเหลยอย่างสะเปะเสะปะจูนเหลยร้องโหยหวนด้วยความทรมานเขาอยากจะต่อสู้ขัดขืนแต่ทว่าร่างกายของเขากลับไร้เรี่ยวแรงทรุดตัวคุกเข่าอยู่กับพื้นอยากจะหยัดตัวลุกขึ้นแต่ก็ทำไม่ได้นอกจากจะร่ำร้องปล่อยให้เสี่ยวอู่ข่วนตะปบอยู่แบบนั้น
แค่ไม่กี่พริบตาหลังจากนั้นจนเสี่ยวอู่รู้สึกพึงพอใจก็กระโดดตัวลงบนพื้นเหลือเพียงแต่จูนเหลยที่ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยบาดแผลมีเลือดไหลซึมพร้อมกับส่งเสียงร่ำร้องออกมาอย่างต่อเนื่อง
จูนหวั่นเอ๋อร์“จูนจิ่วนี่เจ้าทำได้อย่างไรกัน!จูนเหลยเป็นถึงนักจิตชั้นสองเขาพ่ายแพ้ให้ต่อเจ้าได้อย่างไร”
เสียงที่ดังอยู่ก็เงียบหยุดลงสีหน้าของจูนหวั่นเอ๋อร์ก็เปลี่ยนไปในทันทีหวาดกลัวอกสั่นสะท้านขวัญแขวนสับสนอย่างไม่มีที่เปรียบได้มันเป็นไปได้อย่างไร!
สีหน้าท่าทีของจูนหวั่นเอ๋อร์อยู่ในสายตามาโดยตลอดริมฝีปากของจูนจิ่วค่อยๆฉีกยิ้มขึ้น“ทำไม?รู้สึกว่าร่างกายไร้เรี่ยวแรงใช่ไหมแม้แต่จะใช้พลังลมปราณก็จนปัญญา”
“เจ้า!นี่เจ้าทำได้อย่างไรกัน!”จูนหวั่นเอ๋อร๋รู้สึกตกใจ
จูนไห่เทียนเมื่อได้ยินเข้าใบหน้าก็ซีดเผือดราวกับกระดาษสีขาวโพลนขาของเขากำลังสั่นเทิ้มไม่มีอะไรจะน่าหวาดกลัวไปกว่านี้จูนจิ่ววางยาพวกเขาเข้าให้เสียแล้ว
“ไม่มีทางปี้หลั๋วจับตาเฝ้าดูเจ้ามาตลอดเจ้าวางยาพวกเราได้อย่างไรกัน”จูนหวั่นเอ๋อร์ตะโกนดังลั่น
จูนจิ่วมีโอกาสวางยาให้พวกเขาได้อย่างไรกัน
จูนหวั่นเอ๋อร์ไม่ยอมเชื่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...