บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 419

สรุปบท บทที่ 419 จูนจิ่วมาเยี่ยมชมที่นี่: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ

บทที่ 419 จูนจิ่วมาเยี่ยมชมที่นี่ – ตอนที่ต้องอ่านของ บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ

ตอนนี้ของ บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดย ต้าวเมียวเมียว ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 419 จูนจิ่วมาเยี่ยมชมที่นี่ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

หน่วยกล้าตายของเทียงฉิวแอบซุ่มอยู่นอกเมืองไท่ชู ในป่าลึกมีที่ลับแห่งหนึ่ง จูนจิ่วกับโม่อู๋เยว่เดินเข้าไป ราวกับเข้าไปในเขตแดนที่ไร้ผู้คน

มุมปากฉีกออกเล็กน้อย จูนจิ่วเหลือบมองโม่อู๋เยว่พูดในใจว่ามีพลังนี่มันดีจริงๆ นางเองก็สามารถไปมาอย่างไร้สุ้มเสียง แอบเข้ามาที่นี่ราวกับภูตผี แต่ที่เรียกว่าแอบเข้ามานั้นยังไม่เท่าโม่อู๋เยว่ที่เข้ามาอย่างเปิดเผย แต่ไม่มีคนมองเห็นเขาได้

พร้อมที่จะสร้างปัญหา จูนจิ่วถูหมัดถูมือ นางรอคอยนาทีที่พลังของตนที่จะขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุด

ระหว่างครุ่นคิด ก็เดินเข้าใกล้กระโจม โม่อู๋เยว่เอ่ยขึ้น “ถึงแล้ว เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์จะฆ่าพวกเขา หรือแค่ก่อกวน”โม่อู๋เยว่มองสีหน้าของจูนจิ่ว เหมือนจะเป็นอย่างที่สองมากกว่า จูนจิ่วมุมปากโค้งขึ้น นิ้วมือนางกำลังเล่นโยวยิ่ง ยิ้มอย่างชั่วร้าย นางพูดว่า “ท่านรอดูเถอะ เทียงฉิวคิดว่าอย่างนี้ก็จะจับข้าได้ ความสุขของข้าคือชอบตบหน้าคน”

โม่อู๋เยว่เห็นจูนจิ่วโยนไฟเข้าไปในกระโจม มีผงที่ไม่รู้จักชื่อก็ถูกโยนเข้าไปเผาไหม้ด้วย

ไฟลูกใหญ่ดึงดูดความสนใจของหน่วยกล้าตายเทียงฉิว เพียงครู่เดียวหน่วยกล้าตายที่อยู่รอบๆนั้นก็เร่งมาที่นี่ จูนจิ่วยืนอยู่หน้ากระโจม มอืยังคงหมุนโยวยิ่งเล่นยิ้มอย่างเย็นชาอวดดี

นางเอ่ยขึ้นว่า “หนึ่ง สอง สาม ……”

นางกำลังนับ มีหน่วยกล้าตายของเทียงฉิวมากันเท่าไหร่

และกำลังนับด้วยว่า มีหน่วยกล้าตายของเทียงฉิวเข่าทรุกลงกี่คน ทำให้สูญเสียพลังการต่อสู้ เป็นถึงหมอเทวดาจูนจิ่ว การลงมือเพื่อทำลายศัตรูนั้นแบบไหนง่ายก็ทำแบบนั้น นางมีวิชาแพทย์เต็มมือ ไม่ใช่เรียนมาให้สูญเปล่า

ระดับรองลงมาจากนักจิตใหญ่ ไม่มีใครสามารถต่อต้านหมอกพิษของนางได้ ซึ่งก็พอดีเลย ที่นี่ไม่มีนักจิตใหญ่สักคน นิ้วหมุนวนหยุดลง จูนจิ่วกำโยวยิ่งก้าวเท้าอย่างผ่อนคลายสบายอารมณ์ นางเดินไปทางหน่วยกล้าตายของเทียงฉิว โยวยิ่งในมือร่ายรำปลิดชีวิตของพวกเขาทีละคน ไฟที่ลุกลาม ยังสู้ไม่ได้กับชุดกระโปรงแดงเปลวเพลิงของจูนจิ่วที่ปลิวสะบัดเป็นประกาย

โม่อู๋เยว่ยืนอยู่ที่เดิม สายตาจ้องมองนางตลอด มุมปากยิ้มร้าย

คนแล้วคนเล่า หน่วยกล้าตายของเทียงฉิวที่อยู่ที่นี่ สุดท้ายจูนจิ่วก็เหลือไว้เพียงหนึ่งคน โยวยิ่งฟันหน้ากากออก ปลายนิ้วของจูนจิ่วมีเข็มเงินหนึ่งเล่ม เห็นจูนจิ่วเอาเข็มเงินขีดเขียนไปบนใบหน้าของหน่วยกล้าตายเทียงฉิว โม่อู๋เยว่ก็เดินเข้าไปดูอย่างอยากรู้ รอยยิ้มยิ่งลึกขึ้น

ทำไมเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ของเขาถึงได้น่ารักขนาดนี้

น่ารัก เจ้าสำนักศึกษาเทียนซู และพวกซิงโล่เฉินที่อยู่ห่างออกไปเห็นเพียงหน่วยกล้าตายของเทียงฉิวที่รอดกลับมาหนึ่งคน ในใจมีแต่คำด่าหยาบคายมากมาย

เห็นเพียงใบหน้าของหน่วยกล้านายเทียงฉิวมีตัวอักษรเขียนไว้อย่างอวดดีว่า “จูนจิ่วมาเยี่ยมชมที่นี่ ”

ปัง

เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูตบโต๊ะ “มีอย่างที่ไหน น่าโมโหนัก จูนจิ่วนังคนชั้นต่ำกล้าจองหองขนาดนี้ ไม่เห็นเทียงฉิวของข้าอยู่ในสายตาเลย”

“คนชั้นต่ำ ไม่ช้านางต้องได้ชดใช้ในสิ่งที่ทำอวดดีไปแน่ ข้าจะให้นางได้ลิ้มรสการทรมานทุกรูปแบบ ให้รู้ถึงจุดจบที่กล้วล่วงเกินเทียงฉิวของเรา ”หงยิงโมโหจนหน้าเขียวคล้ำ กุมที่หน้าอกเอาไว้ ในลำคอมีกลิ่นคาวเลือดตีขึ้นมา

บาดแผลเพิ่งจะดีขึ้นบ้าง ทีนี้ถูกทำให้โมโหจนจะกระอักเลือดอีกแล้ว

ที่สำนักศึกษาจื่อเซียวพวกเขาถูกตบหน้าด้วยฝ่ามือไร้ตัวตนไปไม่รู้เท่าไหร่ จนกลายเป็นที่น่าขันของสำนักศึกษาจื่อเซียวกับสำนักศึกษาไท่ชูไปแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้จูนจิ่วเป็นคนทำทั้งสิ้น พวกเขาตายก็ไม่อาจลืมความแค้นนี้ได้

หงยิงมองไปทางซิงโล่เฉินที่หน้าดำไม่พูดจาสักคำ นางพูดว่า “ศิษย์พี่ซิง ท่านพูดบ้างสิ หรือว่าท่านไม่อยากจะฆ่าจูนจิ่วนังคนสารเลวนั่น”

“แน่นอนว่าอยากจะฆ่าให้ตาย แต่ถ้ายังไม่ได้ของล้ำค่า จูนจิ่วจะตายไม่ได้”ซิงโล่เฉินเอ่ยอย่างเคร่งขรึม

ของล้ำค่า ของล้ำค่าอีกแล้ว

แววตาของหงยิงมีแววสงสัยกับโกรธเคืองแล่นผ่าน นางถามขึ้นว่า “ศิษย์พี่ซิง คอยแต่บอกว่าของล้ำค่า แต่ข้ากับอาจารย์ไม่เคยรู้เลยว่าเป็นของล้ำค่าอะไร สำคัญขนาดนั้นเชียวหรือ สำคัญจนสามารถวางเรื่องที่จูนจิ่วเหยียดหยามเทียนซู กับเทียงฉิวไว้ทีหลังเลยหรือ”

ในสายตาของหงยิง หน้าตาของสำนักศึกษาเทียนซู และศักดิ์ศรีของนางสำคัญที่สุด

เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูกับหงยิงนิ่งอึ้ง ใบหน้าเห็นได้ชัดว่าสงสัยไม่เข้าใจ จูนจิ่วต้องหลบพวกเขาสิไม่ว่า จะมาถึงหน้าประตูเองได้อย่างไร

ซิงโล่เฉินยิ้มเย็น เอ่ยเสียงต่ำ “ข้าจะเขียนจดหมายไปที่ตำหนักไท่หวง รายงานแผนการของข้า ถึงเวลาพวกเจ้าก็จะรู้เอง วิชาฝึกตนขั้นที่สี่อยู่ในมือข้า จูนจิ่วต้องมาด้วยตนเองแน่ ”

ซิงโล่เฉินอุบเรื่องแผนการของเขาเอาไว้ แต่พวกเขาไม่รู้ว่าจูนจิ่วได้วิชาฝึกตนขั้นที่สี่มานานแล้ว ยังคงคิดว่า จะสามารถอาศัยหมากนี้ในการข่มขู่ดึงดูให้จูนจิ่วมาได้

……

อีกฝั่งหนึ่ง ในสำนักศึกษาไท่ชู

พอพวกจูนจิ่วกลับมา เจ้าสำนักศึกษาไท่ชูก็เรียกเข้าพบทันที จูนจิ่วกับชิงหยู่รีบไปหา ที่ประตูลานบ้านเห็นมู่จิ่งหยวนที่กำลังรอพวกเขาอยู่ เห็นพวกเขาเดินมา มู่จิ่งหยวนก็ยิ้มจางๆอย่างสง่า พยักหน้าให้กับพวกเขา “กลับมากันแล้ว”

“ศิษย์พี่มู่ฟื้นฟูได้ดีมาก”จูนจิ่วมองมู่จิ่งหยวนแวบหนึ่ง วิเคราะห์สภาพร่างกายของเขาทันที

รอยยิ้มที่มุมปากยิ่งดีใจ มู่จิ่งหยวนหันไปคำนับจูนจิ่ว “นี่ล้วนเป็นเพราะบุญคุณของศิษย์น้องจูนจิ่วที่ช่วยชีวิตเอาไว้ ขอเพียงเจ้าต้องการความช่วยเหลือ ให้เรียกใช้ได้ตลอดจะไม่ขัดคำสั่งเลย เข้าไปเถอะ ท่านปู่รอพวกเจ้าอยู่ ”

เข้าไปในเรือน สิ่งแรกที่เห็นคือในเรือนเต็มไปด้วยสมุนไพรตัวยาต่างๆ

เจ้าสำนักศึกษาไท่ชูลูบหนวด ยิ้มมองจูนจิ่ว “นี่คือของขวัญชดใช้ที่เข้าใจพวกเจ้าผิด เลือกเอาตามใจชอบ จูนจิ่วเจ้าเป็นนักกลั่นยา สมุนไพรพวกนี้เจ้าพอใจหรือไม่ ”

“พอใจ”จูนจิ่วพูดตรงๆ เงยหน้ามองไปทางเจ้าสำนักศึกษาไท่ชู นางพูดว่า “แต่เจ้าสำนักเรียกข้ากับศิษย์พี่มา คงไม่ได้แค่จะมอบสมุนไพรให้กระมัง”

“เจ้านี่มัน ฉลาดเกินไปแล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ