บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 420

เจ้าสำนักศึกษาไท่ชูคิดว่าตัวเองผ่านประสบการณ์ชีวิตมาหลายสิบปี เห็นคนมาไม่น้อย จูนจิ่ว ไม่มีใครเหมือนนางเลย ไม่ว่าจะเป็นพรสวรรค์ หรือว่าสมองที่ฉลาดเป็นกรด แม้แต่เจ้าสำนักศึกษาไท่ชูยังต้องชื่นชม

แต่ไม่ช้าก็คิดถึงเรื่องยุ่งยากในตัวจูนจิ่ว เจ้าสำนักศึกษาไท่ชูถอนหายใจ เขาพูดว่า “จูนจิ่ว ข้ามีเรื่องอื่นจะถามเจ้าจริงๆนั่นแหละ นั่งลงเถอะ”

ทุกคนต่างนั่งลง เจ้าสำนักศึกษาไท่ชูพูดต่อว่า “คิดว่าเจ้าคงเดาออกแล้ว ที่ข้าจะถาม ก็คือเรื่องสำนักศึกษาเทียนซูกับเทียงฉิว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เทียงฉิวลงมือกับเจ้า ”

เดิมที่คิดว่าคงเป็นความละโมบของผู้อาวุโสใหญ่ แต่หลังจากสอบสวนแล้ว จึงได้รู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวพันกันลึกซึ้งมาก ไม่เหมือนที่พวกเขาเห็นแค่ภายนอกเท่านั้น

ผู้อาวุโสใหญ่ถูกสังหาร ก็สมควรแล้ว แม้เขาจะยังมีชีวิตอยู่ เจ้าสำนักศึกษาไท่ชูก็คงต้องไล่ล่าเขาเพื่อล้างมลทินให้สำนัก แต่คิดไม่ถึง ว่าเบื้องหลังของผู้อาวุโสใหญ่ไท่ชูจะเป็นเทียงฉิว อีกทั้งยังใช้อำนาจทีมีในมือ ลงมือกับพวกจูนจิ่ว

“ในการแข่งขันทั้งห้าสำนักคงเป็นครั้งแรกที่ลงมือ เทียงฉิวมาเพราะต้องการของล้ำค่าในมือเจ้า ”เจ้าสำนักศึกษาไท่ชูพูด

พอพูดออกไป บรรยากาศในห้องก็เปลี่ยนไป

มู่จิ่งหยวนมองจูนจิ่วอย่างเป็นห่วง ในสายตาของเขากับเจ้าสำนักศึกษาไท่ชูไม่มีเรื่องผลประโยชน์ และไม่มีความโลภแม้แต่น้อย ชิงหยู่เห็นสีหน้าของพวกเขา ก็ยังคงขมวดแน่นไม่ได้ผ่อนคลาย มองคนจะมองแค่ภายนอกไม่ได้ ปกป้องศิษย์น้องนั้นต้องระวังแล้วระวังอีก

จูนจิ่วพยักหน้าเบาๆ นางเอ่ยด้วยส้ำเสียงเย็นสงบ“พูดให้ถูกคือ การแข่งขันของทั้งห้าสำนักไม่ใช่ครั้งแรก สิบปีมานี้เทียงฉิวตามหาข้าอยู่ตลอด เพื่อหวังจะได้ของล้ำค่าในมือข้า ก่อนจะมีการแข่งขันของทั้งห้าสำนัก ข้าไม่เคยรู้จักตัวตนของพวกเขามาก่อน ”

จูนจิ่วพูดถึงความเป็นมาคร่าวๆให้พวกเขาฟัง ได้ฟังแล้วเจ้าสำนักศึกษาไท่ชูกับมู่จิ่งหยวนต่างมีสีหน้าซับซ้อนและชื่นชม อายุน้อยๆก็ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก ยังสามารถต่อกรกับเทียงฉิวได้

ร้ายกาจ สองคำ จูนจิ่วเหมาะสมคำนี้ที่สุดแล้ว

“ศิษย์น้องจูน ข้ากับท่านปู่ไม่ถามเจ้าเรื่องของล้ำค่านั่น แต่เจ้าต้องรู้ว่า เทียงฉิวหากไม่ได้ดังหวังจะไม่รามือ เจ้าตบหน้าพวกเขาที่สำนักศึกษาจื่อเซียว ยิ่งเป็นการกระตุ้นให้พวกเขาเดือดดาลและอำมหิตมากขึ้น”

มู่จิ่งหยวนพูด “ตอนนี้เจ้าอยู่ที่สำนักศึกษาไท่ชูนั้นปลอดภัย แต่เกรงว่าความปลอดภัยนี้จะมีเวลาจำกัด”

พวกเขารู้นิสัยใจคอของเจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวเป็นอย่างดี ยังมีความอหังการของเทียงฉิว หลายปีมานี้สิ่งที่พวกเขาอยากได้ ก็ทำได้สำเร็จตามเป้าหมายอย่างไม่สนใจวิธีการ

พวกจูนจิ่วเป็นลูกศิษย์ของสำนักศึกษาไท่ชู พวกเขาต้องปกป้องนาง แต่ต้องพูดให้ชัดเจน พวกเขาไม่สามารถปกป้องจูนจิ่วได้ตลอดไป ไม่ช้า ต้องเผชิญหน้ากับสำนักศึกษาเทียนซู

“จูนจิ่ว เจ้าเคยคิดจะกลับไปที่สองสำนักสิบแคว้นหรือไม่”จู่ๆเจ้าสำนักศึกษาไท่ชูก็ถามนางขึ้นมา สายตาเลือดเย็น จูนจิ่วยิ้มมองไปทางเจ้าสำนักศึกษาไท่ชูและมู่จิ่งหยวน นางเอ่ยขึ้นว่า “ขอบคุณความห่วงใยของเจ้าสำนักกับศิษย์พี่มู่มาก แต่ข้าจูนจิ่วไม่เคยกลัวใคร เทียงฉิวแล้วอย่างไร ไม่สู้พวกท่านทำใจให้สบาย คอยดูต่อไปว่าข้ากับเทียงฉิว ท้ายที่สุดแล้วใครจะตายในมือใคร”

ซู๊ด

สูดลมหายใจเข้า มู่จิ่งหยวนตกใจ “ศิษย์น้องจูนเจ้านี่จริงๆเลย โปรดอภัยในคำพูดที่ไม่น่าฟังของข้า สำนักศึกษาเทียนซูเป็นสำนักที่แกร่งที่สุดในสำนักศึกษาทั้งสาม แล้วก็มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตำหนักไท่หวงมากกว่าพวกเรา เจ้าจะต่อกรกับเขา เท่ากับรนหาที่ตาย”

“ศิษย์พี่มู่ ตอนที่ศิษย์น้องข้าบอกว่าจะทำลายสำนักตันจงนั้น ข้าก็คิดเช่นนี้ แต่สุดท้ายข้าก็เชื่อนาง และศิษย์น้องก็ทำสำเร็จ”ชิงหยู่เอ่ยขึ้น

“แต่นี่ไม่เหมือนกัน”

สำนักตันจง เจี้ยนจง ชางไห่จะเทียบกับสำนักศึกษาเทียนซูได้อย่างไร พวกเขาทั้งหมดรวมกัน ก็ยังไม่เท่ากับนิ้วมือเดียวของสำนักศึกษาเทียนซู ที่นั่นมีนักจิตใหญ่อยู่หลายคน เบื้องหลังยังมีตำหนักไท่หวง

มู่จิ่งหยวนยังอยากจะเตือนพวกเขา แต่ไม่รู้ว่าควรเริ่มจากตรงไหน เขาหันไปมองเจ้าสำนักศึกษาไท่ชูเพื่อขอความช่วยเหลือ แค่เจ้าสำนักก็ส่ายหัวให้กับเขา

ด้วยสายตาของเขา เห็นท่าทีของจูนจิ่วแล้ว บางทีชิงหยู่ก็กังวล แต่เขาไม่มีเงื่อนไขที่จะไม่ฟังจูนจิ่ว พวกเขาเตือนไม่ก็ไม่เป็นผล

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ