ทุกคำพูดของจูนจิ่วล้วนทำให้เขารู้สึกตื่นกลัวไม่เป็นสุข สัญชาตญาณลึกๆของเขากำลังแจ้งเตือนว่า สถานการณ์ไม่ดีแล้ว เขาจำเป็นต้องยับยั้งจูนจิ่วให้ได้
ทันใดนั้นเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูก็หันไปจ้องหน้าเจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวกับไท่ชู เขายิ้มชั่วร้ายอย่างดูแคลน พูดเสียงดังว่า“พวกเจ้าคงไม่ได้หลงเชื่อคำพูดเหลวไหลของนางเข้าจริงๆหรอกนะ อาศัยแค่นางคนเดียวเนี่ยนะ”
“ไม่ ไม่ใช่ข้าคนเดียว”จูนจิ่วดีดนิ้ว เฟิ่งเซียวกับหยูนเฉียวสวมชุดสีดำ ปิดบังใบหน้าเอาไว้เดินออกมา พวกเขาโยนคนที่ลากมาด้วยทิ้งไปบนพื้น จากนั้นก็ถอยไปยืนอยู่ข้างหลังจูนจิ่วเป็นแถวเดียวกับชิงหยู่
ม่านตาของเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูหดแน่นขึ้น จ้องมองพวกเฟิ่งเซียวอยู่นาน แล้วก็มองไปรอบๆทั้งสี่ทิศที่ค่อยๆมีคนชุดดำเดินมาล้อมรอบพวกเขาเอาไว้ คนพวกนี้เป็นใครกัน แทรกซึมเข้าสู่สำนักศึกษาเทียนซูได้อย่างไร
เขาไม่ใช่คนโง่ เห็นได้ชัดว่างานนี้จูนจิ่วได้เตรียมการไว้ล่วงหน้านานแล้ว แต่ทำไมเขาจึงไม่รับรู้ถึงความผิดปกติเลยสักนิด หน่วยกล้าตายของเทียงฉิวซ่อนตัวอยู่ในสำนักศึกษาเทียนซูเต็มไปหมด ทำไมจึงไม่สังเกตเห็นคนเหล่านี้ แล้วก็มองไปยังชายหนุ่มที่ถูกโยนไว้บนพื้น หัวใจของเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูเต้นตุบตับ “นี่เป็นใคร”
“นี่ไม่ใช่คนที่เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูรออยู่หรอกหรือ นักกลั่นยาพิษเฟยชิง ทำไม เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูท่านจำไม่ได้แล้วหรือ ”จูนจิ่วยิ้มเยาะเย้ย
เป็นไปไม่ได้
เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูไม่เชื่อ สีหน้าหงยิงผิดปกติจนไม่น่าดูเดินเข้าไป จิกผมดึงศีรษะขึ้นมาเพื่อให้เผยใบหน้า หงยิงสูดลมหายใจหนึ่งเฮือก หันหน้ากลับไปมองยังเจ้าสำนักศึกษาเทียนซู “อาจารย์ เป็นเฟยชิงจริงๆ ”
พวกเขาฝากความหวังไว้ที่ตัวเฟยชิง หวังว่าเฟยชิงจะสามารถแก้หมอกพิษแล้วพาคนมาช่วยพวกเขา แต่ตอนนี้ เฟยชิงก็อยู่ที่นี่แล้ว อีกทั้งยังสลบไม่ฟื้น
จูนจิ่วยิ้มเย็น มองไปที่พวกเจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวอีกครั้ง “ท่านเจ้าสำนักศึกษาทั้งสองคิดออกหรือยัง”
เจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวกับเจ้าสำนักศึกษาไท่ชูต่างหันมาสบตากัน เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูหันไปมองพวกเขาทันที อ้าปากร้องเรียกชื่อของทั้งสองคนเสียงดัง แต่เจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวและเจ้าสำนักศึกษาไท่ชูกลับไม่มองมาทางเขาเลยแม้แต่แวบเดียว
เจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวลูบหนวดเครา เอ่ยด้วยน้ำเสียงซับซ้อนว่า “ข้าเลือกจะยืนอยู่ตรงกลางมองดูอยู่ข้างๆ”
“ดี”จูนจิ่วใช้สายตาหันไปถามเจ้าสำนักศึกษาไท่ชู เจ้าสำนักศึกษาไท่ชูพยักหน้าเช่นเดียวกัน เลือกคำตอบเดียวกันกับเจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียว
เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูโมโหมาก “จื่อเซียว ไท่ชู ข้าจะจดจำสิ่งที่พวกเจ้าทำเอาไว้ แค่จูนจิ่ว กับพวกชั้นต่ำไม่กี่คนคิดจะควบคุมสำนักศึกษาเทียนซูของข้าอย่างนั้นหรือ ฝันไปเถอะ นิ้วเดียวของข้าก็สามารถบดขยี้พวกเขาให้ตายได้แล้ว”
พูดจบ เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูพุ่งตรงไปยังจูนจิ่ว
จูนจิ่วเป็นคนวางแผน จับตัวนางได้ก็แก้ไขทุกสิ่งได้ หงยิงจับแส้ยาวไว้แน่น ตามหลังของเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูไปติดๆ
สวบๆๆ
จูนจิ่วไม่เคลื่อนไหว ด้านหลังนาง พวกชิงหยู่กับเฟิ่งเซียวพุ่งตัวออกไปขวางเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูไว้พร้อมกัน ทุกคนต่างก็เป็นนักจิตใหญ่ชั้นหนึ่ง ถ้าพูดถึงพลังพวกเขานั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้าสำนักศึกษาเทียนซู แต่ถ้าพูดถึงการร่วมมือจัดค่ายกล เพื่อล้อมสกัดเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายยิ่งนัก
หงยิงหลบหลีกได้อย่างรวดเร็ว จึงหลบพ้นค่ายวงล้อมไปได้ นางสบตาของเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูแวบหนึ่ง พุ่งเข้าไปหาจูนจิ่วด้วยไอสังหารที่พวยพุ่ง “จูนจิ่วรับมือ”
“ขวางนางเอาไว้”เสียงหนึ่งตะโกนขึ้น ฝู้หลินจ้านพุ่งเข้าไปขวางหงยิงเอาไว้
หงยิงทั้งตกใจทั้งโมโห ดวงตาแดงก่ำจ้องฝู้หลินจ้านเขม็ง “ฝู้หลินจ้านเจ้าทำอะไร ไสหัวไป”
“หลินจ้าน”เจ้าสำนักศึกษาจื่อเสียวรีบร้องตะโกนขึ้น ฝู้หลินจ้านจะทำอะไร บอกแล้วไม่ใช่หรือว่าจะยืนอยู่ตรงกลาง ขณะเดียวกัน เขาก็มองเห็นฝู้หลินซวงดึงดาบออกมาเดินไปทางฝู้หลินจ้าน
ฝู้หลินซวงพูดว่า “ที่ยืนเป็นกลางนั้นมีอาจารย์กับสำนักศึกษาจื่อเซียว ข้ากับหลินจ้านเป็นเพื่อนของจูนจิ่ว”
“คนเป็นเพื่อนย่อมเสี่ยงอันตรายและเสียสละเพื่อเพื่อนได้”มู่จิ่งหยวนหันไปคำนับให้กับเจ้าสำนักศึกษาไท่ชู และเดินเข้าไป สามคนสามทิศทาง ล้อมหงยิงเอาไว้ เห็นดังนั้น เจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวและเจ้าสำนักศึกษาไท่ชูก็ได้แต่มองหน้าอีกฝ่ายอย่างจนใจ ถอนหายใจหนึ่งเฮือก
ลูกศิษย์เติบใหญ่แล้ว ขวางเอาไว้ไม่อยู่แล้ว
เห็นการกระทำของพวกเขา ดวงตาของจูนจิ่วสั่นระริก มุมปากที่โค้งขึ้นมีแววแห่งความปิติยินดีอย่างจริงใจเพิ่มขึ้นมาหลายส่วน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...