หงยิงงอขาคุกเข่าลงคำนับ “หงยิงคำนับเจ้าตำหนัก”
“เจ้าทำได้ดีมา มารายงานข้าได้ทันท่วงที หงยิง เจ้าอยากจะได้อะไรเป็นสิ่งตอบแทน”ตู๋กูชิงนั่งอยู่บนเก้าอี้ มองกวาดหงยิงด้วยสายตาหยิ่งยโสแวบหนึ่ง
เมี่ยวยู่เอ๋อคิดไม่ถึงเลยว่า ที่นางให้หงยิงขัดขวางผางเจียเยว่เอาไว้เพื่อไม่ให้มารายงานให้ตู๋กูชิงทราบ สุดท้าย หงยิงกลับหักหลังนางเสียเอง จึงให้เกิดเหตุการณ์ที่ตู๋กูชิงเร่งรุดไปถึงงานเดิมพันหินทิพย์
หงยิงก้มศีรษะลงอย่างถ่อมตนเผยให้เห็นท่าทีที่อ่อนแอ นางคำนับและพูดว่า “เป็นเพราะเจ้าตำหนักให้อภัยจึงทำให้หงยิงยังคงมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้ หงยิงซาบซึ้งใจอย่างหาที่สุดไม่ได้ มีเพียงการช่วยงานเจ้าตำหนักเท่านั้นที่พอจะเป็นการตอบแทนได้ นี่เป็นหน้าที่ที่หงยิงพึงกระทำ หวังว่าเจ้าตำหนักจะอนุญาตให้หงยิงได้แบ่งเบาภาระของท่าน”
“หืม”ตู๋กูชิงยิ้ม
เขามองหงยิงอย่างดูแคลน “แบ่งเบาภาระ เจ้ามีความสามารถอะไรที่จะช่วยข้าแบ่งเบาภาระได้ ลองพูดมาสิ”
“ข้ารู้มาว่าจูนจิ่วเป็นว่าที่ภรรยาของเจ้าตำหนักใช่หรือไม่ แต่คำพูดต่อไปนี้ ไม่ใช่ว่าหงยิงบังอาจต้องการใส่ร้ายจูนจิ่ว แต่ว่ากันด้วยข้อเท็จจริง ล้วนเป็นสิ่งจริงแท้แน่นอน เจ้าตำหนักคงไม่รู้ จูนจิ่วนั้นเดิมทีมาจากสองสำนักสิบแคว้น นางเป็นอาจารย์อาของสำนักเทียนอู่จง ”
“พูดจุดสำคัญ”ตู๋กูชิงตัดบทนางอย่างหงุดหงิด เรื่องเหล่านี้หงยิงเคยเล่าตั้งแต่แรกแล้ว
หงยิงพยักหน้า แล้วเปิดปากพูดต่อไปว่า “จูนจิ่วกับศิษย์พี่ของนางชิงหยู่นั้นมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา จากนั้นก็มีมู่จิ่งหยวนแห่งสำนักศึกษาไท่ชู แล้วก็ฝู้หลินจ้านกับฝู้หลินซวงแห่งสำนักศึกษาจื่อเซียว เจ้าตำหนัก จูนจิ่วไม่คู่ควรต่อความรู้สึกที่เจ้าตำหนักมีแต่นางเลย”
สายตาเย็นชา แววตาคมกริบของตู๋กูชิงที่จ้องมองหงยิงเต็มไปด้วยไอสังหาร
เขายกมือขึ้น ฝ่ามือที่ไร้ตัวตนก็บีบคอของหงยิงเอาไว้ ตู๋กูชิงยิ้มอย่างโมโห “ความหมายของเจ้าคือ ข้าถูกสวมเขาอย่างนั้นหรือ”
“ไม่ ไม่ใช่”หงยิงดิ้นรนอย่างทุรนทุราย นางจับไปที่คอก็ดึงมือใหญ่ที่ไร้ตัวตนออกไปไม่ได้ สีหน้าค่อยๆขาวซีดลง หงยิงรีบอ้าปากพูดขึ้นว่า “ความหมายของหงยิงคือ ควรจะเป็นจูนจิ่วที่ต้องอ้อนวอนภาวนาขอความเมตตาจากท่าน”
ตู๋กูชิงคลายมือออก หงยิงไออย่างเจ็บปวดอยู่ชั่วครู่
นางไม่กล้าหยุดพูด เพราะกลัวตู๋กูชิงจะทนไม่ได้จนหักคอของนาง หงยิงก้มศีรษะต่ำ สายตามีแววอำมหิตวาบผ่าน นางพูดว่า “ข้าน้อยมีแผนการดีๆแผนหนึ่ง ให้จูนจิ่วกินพิษกู่หลงรัก เช่นนี้ก็จะทำให้นางรักแต่ท่านคนเดียว ไม่สนใจเรื่องที่ผ่านมา ภายหน้านางจะมีใจให้กับเจ้าตำหนักแค่คนเดียว”
เดิมทีไม่ได้คิดจะนำมาใส่ใจ แค่ต้องการจะดูว่านางต้องการจะพูดอะไรกันแน่
แต่พอฟังจนถึงประโยคนี้ สีหน้าของตู๋กูชิงก็มีแววเปลี่ยนไป เขาหรี่สายตาลง ก็พบว่าตนเองไม่เคยคิดถึงแผนการนี้มาก่อน
เขาไม่สนใจว่าจูนจิ่วจะชื่นชอบใคร หรือมีความสัมพันธ์กับใคร ที่เขาต้องการมีเพียงกุญแจเวลา และสถานะของจูนจิ่วเท่านั้น ถ้าหากจูนจิ่วกินพิษกู่หลงรักเข้าไป แล้วรักแต่เขาคนเดียว จากวันนี้เป็นต้นไปจะเชื่อฟังคำสั่งเขาทั้งหมด เขาอยากได้อะไรก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้แล้วใช่หรือไม่
มุมปากโค้งขึ้น ดีใจเป็นอย่างยิ่ง
สายตาคมกริบของตู๋กูชิงจ้องไปยังหงยิง “แล้วเจ้ามีพิษกู่หลงรักหรือไม่”
“มี จะให้จูนจิ่วกินพิษกู่หลงรักตอนนี้เลยก็ได้ ”หงยิงพูดอย่างอดใจรอไม่ไหว
ตู๋กูชิงหลับส่ายหน้าอย่างลังเล “ไม่ได้ ข้างกายของจูนจิ่วมีองครักษ์คนหนึ่งชื่อเหลิ่งยวน พลังแข็งแกร่งมาก มีเขาอยู่ก็ไม่สามารถจะลงมือวางยาพิษกู่กับจูนจิ่วได้”
พลังของเหลิ่งยวน ตู๋กูชิงก็มองไม่ออก ถ้าการวางพิษกู่ล้มเหลว ทำให้จูนจิ่วจับได้ ไม่เพียงแต่ใบหน้าจอมปลอมที่เขาบรรจงสร้างขึ้นและรักษาเอาไว้จะถูกเปิดเผยออกมา เขายังจะเสียโอกาสที่จะได้กุญแจเวลาด้วย ถ้าจูนจิ่วหนีไป เช่นนั้นจะยิ่งยุ่งยากเข้าไปใหญ่
ใช้ความคิดอยู่ชั่วครู่ หงยิงก็ยิ้มขึ้นมาอย่างกะทันหัน นางพูดว่า “เจ้าตำหนัก หงยิงมีความคิดหนึ่ง ขอเจ้าตำหนักโปรดรับฟัง”
“รีบพูดมา ”
……
เหลิ่งยวนกลับไปแล้ว เล่าสิ่งที่เขาได้ยินทั้งหมดให้จูนจิ่วฟัง
เหลิ่งยวนพูดจบแล้วก็เสริมขึ้นว่า “แม่นางจูน เมี่ยวยู่เอ๋อคนนี้ต้องเป็นปัญหาใหญ่แน่ ข้าดูแวบเดียวก็รู้ว่านางหลงรักตู๋กูชิง นางรู้ว่าแม่นางจูนมีสัญญาแต่งงานกับตู๋กูชิง ต้องลงมือกับแม่นางจูนอีกเป็นแน่ วางแผนลอบทำร้ายล้วนเป็นไปได้หมด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...