บทที่74ใครกันที่ลอบจู่โจมนายท่าน – ตอนที่ต้องอ่านของ บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
ตอนนี้ของ บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดย ต้าวเมียวเมียว ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่74ใครกันที่ลอบจู่โจมนายท่าน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่74ใครกันที่ลอบจู่โจมนายท่าน
ปลายฤดูร้อนเป็นวันที่ลานเทียนโจ้งเปิดรับสมัครนักเรียน
ตีนเขาเหิงซานผู้คนมากมายนับหมื่นคนเดินทางมาที่ลานเทียนโจ้งเพื่อใฝ่หาความรู้ต้องเข้าแถวตั้งแต่เนินเขาจนถึงด้านข้างทะเลสาบซินเยว่บวกกับผู้ปกครองที่เดินทางมาส่งลูกหลานคนยิ่งแออัดมากขึ้นและดูยิ่งใหญ่อลังการ
“ดูนั่นสิรถม้าของตระกูลหยูน”ไม่รู้ว่าใครร้องทักขึ้นมาผู้คนหันไปดูอย่างพร้อมเพรียง
บนรถม้าห้อยสัญลักษณ์ตระกูลหยูนไว้ค่อยๆขับเคลื่อนเข้ามาจอดที่ข้างทะเลสาบซินเยว่ผู้คนรู้สึกประหลาดใจก้มหัวซุบซิบนินทา“คนที่มาคือใครกัน?”
“ก็ต้องเป็นคนของตระกูลหยูนสิแต่ว่าไม่เคยได้ยินว่าคุณชายตระกูลหยูนคนไหนจะมาเรียนที่นี่นะ”
พวกเขารู้ว่าตระกูลหยูนมีหยูนจ้งจิ่นกับหยูนเฉียวที่เป็นทางสายตระกูลตรงตอนนี้ให้ทายว่าคงเป็นศิษย์สายรองแน่ในเมื่อหยูนจ้งจิ่นที่ตอนนี้กำลังดูแลกิจการครึ่งกว่าของตระกูลหยูนเป็นไปไม่ได้ที่จะมาลานเทียนโจ้งและหยูนเฉียวนนั้นร่างกายอ่อนแอความเป็นไปได้ที่จะออกมาพบผู้คนยิ่งน้อย
ดังนั้นผู้คนจึงประหลาดใจยิ่งนักยื่นคอยาวดูไปที่รถม้าเพื่อที่จะดูว่าคนที่อยู่ในรถม้าคือใครกันแน่
คนที่เดินลงจากรถม้าก่อนคือหยูนเฉียวตอนที่หยูนเฉียวเดินออกมาทุกคนตกตะลึงกันถ้วนหน้า“คุณชายหยูนเฉียว”
“ข้าเคยเห็นคุณชายรองหยูนเฉียวตระกูลหยูน”คาดไม่ถึงว่าเขาจะมาที่ลานเทียนโจ้ง
แล้วเห็นหยูนเฉียวหันหลังกลับมุมปากอมยิ้มสายตาอ่อนโยนสว่างไสวมองไปที่ข้างในรถม้าผู้คนมิอาจห้ามได้ที่จะตั้งตารอคอยคนที่ให้คุณชายหยูนรองรอคือใครกัน?
กระโปรงสีแดงสดใสเข้าสู่สายตาผู้คนก่อนตามด้วยการเงยหน้าขึ้นได้มองเห็นใบหน้าอันงดงามของหญิงสาวทุกคนตกตะตึงกันถ้วนหน้าไม่เพียงแต่ตกตะลึงในความงามของนางยิ่งไปกว่านั้นคือดวงตาเย็นเยือกไร้ความปราณีที่ปรากฎอยู่ภายใต้คิ้วดำคู่นั้น
แค่มองแวบเดียวถึงขนาดกลั้นลมหายใจร่างกายเกรงตัวรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาเป็นระลอกเป็นพลังอำนาจที่แลดูอันตรายมาก
นางคือใคร?ทำไมถึงลงจากรถม้าของตระกูลหยูน
ด้านหลังจูนจิ่วเสี่ยวอู่กระโดดโลดเต้นออกมากระโดดมาสู่อ้อมกอดจูนจิ่วทำเสียงออดอ้อน
หยูนเฉียวพูดพร้อมกับรอยยิ้ม“แม่นางจูนที่นี่คือทะเลสาบซินเยว่ด้านบนคือลานเทียนโจ้งเราจะเดินเล่นรอบทะเลสาบ?หรือจะตรงไปที่ลานเทียนโจ้งเลย?”
จูนจิ่วพูดเสียงเฉยๆ“ไปที่ลานเทียนโจ้งก่อน”
“ได้แม่นางจูนเชิญทางนี้”
ผู้คนมองเห็นหยูนเฉียวพาจูนจิ่วเดินผ่านการต่อแถวที่ยาวเหยียดเดินขึ้นไปโดยตรงอดไม่ได้ที่จะอิจฉาหยูนเฉียวเป็นถึงคุณชายรองตระกูลหยูนไม่ต้องเข้าแถวตามระเบียบมีสิทธิสมัครก่อนหญิงสาวที่อยู่ข้างกายเขานามสกุลจูนหรือ?
อดไม่ได้ที่จะคาดเดาหรือจะเป็นคนของตระกูลจูนหรือ?แต่ทว่าไม่ว่าพวกเขาจะคาดเดาอย่างไรก็เดาสถานะของจูนจิ่วไม่ถูก
สถานที่รับสมัครอยู่ที่ประตูลานเทียนโจ้งมีคนยืนรอสามแถวเมื่อจูนจิ่วและหยูนเฉียวมาถึงมีศิษย์สำนักทำการสมัครให้ทันทีหยูนเฉียวเพิ่งจะสมัครเสร็จตอนที่ถึงทีจูนจิ่วมีเหตสุดวิสัยเกิดขึ้น
เสียงสิ่งของปลิวมา
แสงวิบวับพุงทะลุผ่านท่ามกลางผู้คนมีความอำมหิตมืดครึ้มพุ่งตรงไปที่แผ่นหลังหลังจูนจิ่วการจู่โจมนี้มาอย่างกะทันหันและรุนแรงทุกคนยังไม่ทันรู้ตัวเลย
สายตาจูนจิ่วหรี่ลงขยับจังหวะฝีเท้าเอียงตัวหลบไปแสงวิบวับนั้นบินผ่านไปยังจุดที่นางยืนเมื่อครู่มีดอันแหลมคมบินปักไปที่เสามันคือมีดบินหนึ่งเล่ม
หยูนเฉียวโกรธจัด“ใครกันที่ลอบโจมตี?ออกมา”
“เหมียวเหมียวเหมียว”เสี่ยวอู่เต้นเร่าๆด้วยความโกรธจนขนพองฟู
ใครกันที่ลอบจู่โจมนายท่าน
ลูกศิษย์ที่รับผิดชอบการสมัครโกรธเช่นกัน“ใครที่กำลังลอบจู่โจมจับมันไว้”
“จับอะไรกัน?ข้าก็แค่ล้อเล่นเองใช้คำว่าลอบจู่โจมเลยหรือ?และนับประสาอะไรกับพวกเขา”ท่ามกลางผู้คนมีเสียงเย้ยหยันโอหังดังขึ้นพร้อมกับมีกลุ่มคนสามคนเดินออกมา
“หึ”จูนจิ่วยิ้มเยาะ
ทุกคนแค่รู้สึกสายวูบไปทีจูนจิ่วออกตัวเร็วมากแวบเดียวก็มาอยู่ตรงหน้าหลัวฉีจับนิ้วมือของหลัวฉีที่ชี้นางเมื่อครู่เสียงคุกเข่าลง
“โอ๊ย”หลัวฉีกรีดร้องโหยหวน
กิริยาท่าทางของจูนจิ่วยังไม่ยอมหยุดยกขาขึ้นเตะไปที่ข้อพับเข่าหลัวฉีจนหลัวฉีคุกเข่าลงดังตูบเสียงมืดครึ้มที่ดังทำให้คนอดนึกกังวลไม่ได้ว่าเข่าของเขาแตกร้าวไปหรือยัง
การกระทำที่ต่อเนื่องทุกคนที่ดึงสติกลับมาต้องตกตะลึง
“โอ๊ยเจ้ากล้าดี……โอ๊ย”กรีดร้องเจ็ยปวดจนพูดไม่ออก
มือของเขาถูกจูนจิ่วพับไปด้านหลังบิดมือจนเป็นเกรียวและคุกเข่าอยู่ที่พื้นหลัวฉีแค่มองจูนจิ่วยังไม่กล้ามองเลยเขาร้องเจ็บปวดสุดจะทน“พวกเจ้าจะนิ่งอยู่ทำไมยังไม่มาช่วยข้าอีก”
คนที่ติดตามเขามาอีกสองคนเพิ่งจะดึงสติกลับมารีบพุ่งตรงมาที่จูนจิ่ว“ปล่อยศิษย์พี่หลัวฉีเดี๋ยวนี้”
“เหมียว”เสี่ยวอู่พุ่งตรงไปเร็วปานสายฟ้าพร้อมตีนแมวสองข้างที่พุ่งตรงไป
“โอ๊ย”
“โอ๊ย”
ทั้งสองคนกรีดร้องเจ็บปวดพร้อมกับเอามือปิดที่หน้าที่เต็มไปด้วยรอยข่วนแมวเลือดไหลออกมาทางช่องว่างระหว่างนิ้วภาพฉากนี้ทำให้ทุกคนที่เห็นตกใจจนต้องสูดหายใจเข้าลึกๆแมวตัวนี้ดุร้ายถึงเพียงนี้เชียว?หยูนเฉียวก็อึ้งไปเหมือนกัน
“เหมียว”เสี่ยวอู่สะบัดหางแล้วหันกลับไปเชิดหน้าอย่างเย่อหยิ่งภาษาเหมียวๆก็มีแต่จูนจิ่วที่ฟังเข้าใจ
เสี่ยวอู่กำลังพูดว่าพวกขยะสู้กับมันยังไม่ไหวยังคิดที่จะหาเรื่องนายท่านจูนจิ่วกระตุกยิ้มที่มุมปาก“เศษขยะจริงด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...