บทที่ 93 ใครเป็นผู้บงการเบื้องหลัง
จูนหยูนเสวี่ยโกรธจนแทบปะทุออกมา นางถึงกับพูดไม่ออก ทำได้เพียงจ้องมองเฟิ่งเทียนฉีที่เต้นเร่าๆ วิ่งออกไป นางหายใจกระชั้น สายตาพร่าเลือนวิงเวียน นางกัดฟันหยิกขาของตัวเอง เพื่อให้ตัวเองไม่โกรธจนลมจับล้มลงไป
นางกัดฟันกรอด ใบหน้าโกรธเกรี้ยวดุดันพลางเอ่ยขึ้น “เฟิ่งเทียนฉี เจ้าฝันเฟื่องรึ!จูนจิ่ว ตระกูลจูนข้าจะกำจัดนาง จะสับนางให้ร่างแหลกละเอียด!และยังเจ้า พระชายารองรึ?ฮ่าๆๆ รอข้าได้เป็นศิษย์ของอู๋จง ข้าจะจัดการเจ้าด้วยตัวข้าเอง!”
ยังคิดอยากจะช่วยจูนจิ่ว?
จูนหยุนเสวี่ยยิ้มเย็นใบหน้าบิดเบี้ยว ดูแล้วช่างน่าหวาดกลัวยิ่งนัก นางหันกายเดินไปอีกด้านหนึ่ง นางเลือกเดินทางที่ใกล้กว่า จะพบกับรองเจ้าสำนักก่อน นี่คือโอกาส เป็นโอกาสที่จะทำให้จูนจิ่วตายอย่างไร้ที่กลบฝังเลยทีเดียว!
...
เมื่อพวกจูนจิ่วออกมาจากสำนัก หยูนเฉียวอดไม่ได้เอ่ยขึ้น “แม่นางจูน เรื่องนี้ไม่ธรรมดา!เจ้าซือถูซิวนั่นต้องไม่จบเรื่องนี้ง่ายๆ แน่!”
“ใช่แล้ว ท่านพี่เก้า พวกเราต้องเตรียมตัวตั้งรับกันแล้ว!เมื่อครู่ท่านทำร้ายพวกมันบาดเจ็บ พวกมันต้องยิ่งใส่ไฟ ใส่ร้ายป้ายสี จะให้พวกมันมาทำลายชื่อเสียงของท่านพี่อีกไม่ได้!”
“เมี้ยว เมี้ยว~” เสี่ยวอู่กลับนิ่งสงบ พลางสะบัดหางไปมา
มันเอ่ย วางใจเถิด นายท่านไม่ปล่อยพวกมันไปแน่ นายท่านมีวิธีต่อกรกับพวกมันแต่แรกแล้ว ไม่อย่างนั้นก่อนหน้านี้ข้าคงไม่เพียงข่วนเฟิ่งเทียนฉี แต่คงกัดไอ้ผู้ชายสารเลวคนนั้นไปแล้ว!
น่าเสียดายที่หยูนเฉียวและจูนเสี่ยวเหล่ยไม่เข้าใจภาษาของมัน จูนจิ่วลูบลงไปบนขนของเสี่ยวอู่ ขนบนตัวอันนุ่มนิ่มทำให้จิตใจนางสงบยิ่งนัก นางเอ่ยขึ้น “เหลิ่งยวน เจ้าไปยังตำหนักฉางหยางเชิญชายปากดีมา”
“ขอรับ” เหลิ่งยวนไม่รู้ความตั้งใจของจูนจิ่ว แต่เขาก็ไม่ถาม รีบหันกายออกไปตามตำหนักฉางหยาง!
ไม่เห็นตัวตนของนายท่านสวมอยู่ในร่างของจูนจิ่วหรือ?เพียงอยู่ในสายตาของนายท่าน ก็มิอาจกล้าเกียจคร้านแม้แต่น้อย ทว่าเหลิ่งยวนแปลกใจยิ่งนัก จูนจิ่วกำลังจะทำอะไร?ดูไปแล้วราวกับกำลังวางแผนการใหญ่นัก
เมื่อกำกับเหลิ่งยวนแล้ว ก็หันไปยังหยูนเฉียว จูนจิ่วเอ่ยขึ้น “หยูนเฉียว เจ้าไปเขียนจดหมายให้พี่ของเจ้า บอกแก่หยูนจ้งจิ่น ถึงเวลารวมกำลังภายนอกของตระกูลจูนแล้ว ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ อีกต่อไป ลงมือได้เลย!”
“ได้เลย ทว่าข้าขอถามแม่นางจูน ทำไมถึงต้องลงมือกับตระกูลจูนในตอนนี้ด้วย?เวลานี้มิใช่ควรจัดการเรื่องในสำนักเทียนโจ้งก่อนหรือ?” หยูนเฉียวถามด้วยความข้องใจ
จูนเสี่ยวเหล่ยยิ่งไม่เข้าใจยิ่งไปกว่า นางทำได้เพียงพยักเพยิดหน้าไปกับคำพูดของหยูนเฉียว แสดงถึงความสงสัย
จูนจิ่วมองไปยังคนทั้งสอง กระตุกมุมปากทั้งสองข้างขึ้น “พวกเจ้ายังนึกไม่ออกว่าว่าใครเป็นผู้บงการเบื้องหลังหรือ?”
“ใครหรือ?”
“ท่านพี่หญิงเก้า ท่านทราบแล้วหรือ?เป็นใครกัน!”
“พวกเจ้าไม่รู้สึกหรือ คำพูดเหล่านั้นคล้ายกับที่ซั่งกวนอี่หรงเคยปล่อยข่าวลือก่อนหน้านี้ในเมืองหลวง เหมือนกันทุกอย่าง?จะทำอย่างนี้ได้ มีเพียงจูนหยูนเสวี่ยเท่านั้น ทว่างานหมั้นเป็นความอับอายของจูนหยูนเสวี่ย นางจึงไม่เอ่ยมันออกมา”
จูนจิ่วเอ่ยเสริม “นอกจากนางแล้ว ยังมีเฟิ่งเทียนฉีสอดมือเข้ามาร่วม”
ทว่าเฟิ่งเทียนฉีกลับเป็นผู้ราดน้ำมันบนกองเพลิง ยิ่งช่วยประโคมข่าวลือ และยังเสแสร้งเข้าปกป้องนาง เฟิ่งเทียนฉีคิดแผนชั่วอะไร ไม่ต้องใช้ความพยายามมากนางก็คาดเดาได้ คนอย่างเฟิ่งเทียนฉี คิดทำการอะไรต่างสกปรก น่ารังเกลียด
เมื่อได้ยินคำอธิบายของจูนจิ่ว พวกหยูนฉียวต่างเข้าใจในทันที ผู้ที่บงการเบื้องหลังมีสองคน คนหนึ่งคือจูนหยูนเสวี่ย อีกคนคือเฟิ่งเทียนฉี
แย้มยิ้มอย่างเยียบเย็น จูนจิ่วเอ่ยขึ้นอีก “รู้วิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับข่าวลือหรือไม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...