ลู่จิ้นยวนสะบัดแขนมู่เยียนหรานทันที “ไม่หรอก แค่มารับเอง จะลำบากได้ยังไง”
มู่เยียนหรานถูกสะบัดออกก็หดหู่นิดหน่อย แต่ทันใดนั้นก็รีบระงับเอาไว้ “งั้นก็ดี ฉันกังวลว่าคุณจะไม่พอใจที่จู่ๆ ฉันก็กลับมาก่อนกำหนด”
ลู่จิ้นยวนส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง ไม่ได้พูดอะไรอีก มู่เยียนหรานก็เป็นเพื่อนเขา เขาไม่ได้ใจแคบขนาดนั้น
ทั้งสองขึ้นรถแล้ว ลู่จิ้นยวนก็เอ่ยปาก “เธอกลับมา วางแผนจะพักที่ไหน? ”
ตระกูลมู่ย้ายธุรกิจครอบครัวออกไปหลังจากมู่เยียนหรานไปต่างประเทศได้ไม่นาน
“ฉันรอคุณเตรียมการน่ะ” มู่เยียนหรานยิ้ม ถ้าไม่ใช่เพราะลู่จิ้นยวน เธออาจจะไม่กลับมา
“โอเค” ลู่จิ้นยวนก็ไม่ได้พูดอะไร บริษัทตระกูลลู่มีโรงแรมระดับไฮเอนด์ในเครือไม่น้อย มู่เยียนหรานอยากไปพักก็ได้แน่นอน
“ฉันจะไปส่งเธอที่โรงแรม”
ลู่จิ้นยวนให้อันเฉินจองโรงแรมห้าดาวสุดหรูห้องหนึ่งอย่างรวดเร็ว
มู่เยียนหรานไม่ค่อยดีใจนัก แต่ใบหน้ามองไม่ค่อยออก “ฉันคิดว่าคุณจะพาฉันไปเยี่ยมท่านปู่กับป้าสะใภ้ที่บ้านคุณซะอีก”
เมื่อก่อนตอนทั้งสองคบกัน เธอมักจะไปเยี่ยมตระกูลลู่บ่อยๆ เธอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อาวุโส
“ตอนนี้ดึกเกินไป ไว้วันหลังแล้วกัน”
ลู่จิ้นยวนไม่ได้คิดเรื่องนี้มาก่อน ตอนนี้พวกเขาไม่ได้เป็นคู่รักอย่างที่เคยเป็นกันอีกแล้ว พามู่เยียนหรานกลับบ้านตอนดึกขนาดนี้ มันจะคลุมเครือเกินไป
เห็นลู่จิ้นยวนไม่ได้ตั้งใจทำแบบนี้ มู่เยียนหรานก็หงุดหงิดเล็กน้อย เดินทางมาอย่างเหนื่อยล้า ไม่นานเธอก็หลับไปที่เบาะนั่ง
……
สามทุ่ม
เวินหนิงมองนาฬิกา ต้องการฟังเพลงก่อนคลอดเพื่อผ่อนคลายสักหน่อยก่อนเข้านอน แต่ร่างลู่จิ้นยวน และคำพูดของเถ้าแก่เนี้ยที่พูดกับเธอในวันนี้ยังวนเวียนในสมองตลอดเวลา
และไม่รู้ว่าตอนนี้ผู้ชายคนนั้นกำลังทำอะไรอยู่
เวินหนิงฝืนความฟุ้งซ่านของตัวเองแล้วนอนสักพัก สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาลู่จิ้นยวน
ก็……ก็ถือว่าเธอใส่ใจการทำงานของผู้ชายคนนี้แล้วกัน
เวินหนิงหาเหตุผลที่ดีในการปฏิบัติของตัวเอง จากนั้นก็กดเบอร์
ลู่จิ้นยวนกำลังขับรถอยู่ ได้ยินโทรศัพท์ดังขึ้น มู่เยียนหรานซึ่งกำลังสะลึมสะลือจะหลับได้ยินเสียงก็พึมพำสองที เหมือนจะไม่พอใจที่เสียงดังเกินไป
ลู่จิ้นยวนกวาดมองชื่อด้านบน เห็นว่าเป็นเวินหนิง จึงกดรับสาย
“ว่าไง? ”
“อืม……ฉันถึงบ้านแล้ว จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ คุณบอกว่ามีเรื่องด่วน ตอนนี้เป็นไปด้วยดีไหม? ”
เวินหนิงรู้สึกอายกับคำถามเล็กน้อย ขณะที่พูด ใบหน้าก็แดงก่ำขึ้นมาอีกครั้ง
ลู่จิ้นยวนมีรอยยิ้มที่มุมปากโดยไม่รู้ตัว “ทุกอย่างปกติดี ไม่ต้องเป็นห่วง”
ใบหน้าเวินหนิงเริ่มร้อนผ่าวขึ้น “ฉันแค่กลัว……ว่าคุณจะมีปัญหาอะไร ในเมื่อไม่มีงั้นก็วางแล้วนะ”
จู่ๆ เธอก็รู้สึกว่าที่ตนโทรมานี้ มันคือความในใจซือหม่าเจา แม้คนผ่านทางยังล่วงรู้แท้ๆ เลย……
ลู่จิ้นยวนกำลังจะพูดอะไร มู่เยียนหรานก็ลืมตาขึ้นมา เห็นรอยยิ้มที่มุมปากนั้น ผู้ชายที่มีสายตาอ่อนโยน ในใจก็เกิดสัญญาณเตือน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก