บ่วงแค้นแสนรัก นิยาย บท 166

สรุปบท บทที่166 คลอดออกมาก็ให้คนอื่นไป: บ่วงแค้นแสนรัก

ตอน บทที่166 คลอดออกมาก็ให้คนอื่นไป จาก บ่วงแค้นแสนรัก – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่166 คลอดออกมาก็ให้คนอื่นไป คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet บ่วงแค้นแสนรัก ที่เขียนโดย ชิวเซิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ลู่จิ้นยวนไม่ได้เชื่อ เขาจำได้อย่างชัดเจนว่า คนที่เขามีอะไรด้วยในวันนั้นคือหลิวเมิ่งเซวี่ย

และมีอยู่ช่วงหนึ่งที่หลิวเมิ่งเซวี่ยกับเวินหนิงตัวติดกันอย่างกับปลาท่องโก๋ ไม่แน่ เวินหนิงอาจจะรู้เรื่องนี้ในเวลานั้นก็ได้

"เวินหนิง เธออย่ามาพูดโกหกกับฉันอีกเลย คนที่ฉันมีอะไรด้วยในวันนั้นคือหลิวเมิ่งเซวี่ยอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของของเขาที่ทิ้งไว้หรือว่าคำพูดของเขาในภายหลัง ก็ตรงกันหมด"

"เด็กคนนี้ เธออย่าคิดที่จะเก็บเอาไว้ข้างตัว ฉันจะหาบ้านที่มีฐานะดีๆหน่อยให้เขา หลังจากคลอดแกออกมา ก็เอาแกให้คนอื่นไป เธอไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว"

ลู่จิ้นยวนไม่เชื่อคำพูดของเวินหนิงแม้แต่นิด เพราะหลักฐานตอนนั้นชัดเจนมาก เขาก็เลยคิดได้เพียงว่าที่เวินหนิงยอมพูดโกหกก็เพื่อที่จะรักษาเด็กคนนี้เอาไว้

นี่ทำให้อารมณ์ที่หงุดหงิดอยู่แล้วของเขาหดหู่ขึ้นมาอีก

"เพราะอะไร ทำไมคุณถึงไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันพูด" เวินหนิงคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนี้ " มิฉะนั้น คุณโทรโทรศัพย์ให้หลิวเมิ่งเซวี่ย ลองถามเขาดูว่าเขาจะพูดว่าอย่างไร "

ความดื้อรั้นของลู่จิ้นยวนทำให้เวินหนิงเจ็บปวดใจมาก เขาไม่เชื่อว่าลูกในท้องของเธอเป็นของเขา เธอจะพูดโกหกเรื่องแบบนี้ได้ยังไงกัน

เมื่อลู่จิ้นยวนเห็นความดื้อรั้นของเธอ แล้วคิดอยู่พักหนึ่ง " โอเค ตามที่เธอพูด"

ก็แค่โทรโทรศัพท์เท่านั้นเอง ไม่ใช่เรื่องยากอะไร

แต่ตอนนี้หลิวเมิ่งเซวี่ยกำลังรับการรักษาอยู่ในต่างประเทศ ลู่จิ้นยวนก็เลยโทรไปหาคนบ้านหลิว

ตั้งแต่เรื่องนั้นนี่เป็นครั้งแรกที่ลู่จิ้นยวนโทรหาเขา หัวใจของหลิวเมิ่งเซวี่ยฟู่โตมีความดีใจเล็กน้อย

ในช่วงนี้ เธอกำลังทำกายภาพบำบัดอยู่ เพราะลู่จิ้นยวนได้เลือกทีมชั้นนำในด้านการกายภาพบำบัดทางด้านกีฬาเพื่อรักษาเธอ ขาของเธอจึงมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถ้ารักษาอีกระยะหนึ่ง ก็เกือบจะหายเหมือนคนปกติทั่วไปแล้ว

แม้ว่า จะยังไม่สามารถวิ่งหรือกระโดดได้ แต่ก็ดีกว่าต้องนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิต

"หลิวเมิ่งเซวี่ย ฉันมีเรื่องจะถามคุณ" ลู่จิ้นยวนไม่ได้พูดอะไรนอกเหนือจากนั้น ก็เลยถามอย่างตรงไปตรงมาว่า " ที่โรงแรมครั้งนั้น เกิดอะไรขึ้นกันแน่"

หัวใจของหลิวเมิ่งเซวี่ยสั่นเทา เรื่องนั้นเธอคิดว่าถูกปิดเป็นความลับไปแล้ว แต่ตอนนี้เธอไม่อาจสูญเสียโอกาสในการรักษาที่ลู่จิ้นยวนมอบให้ เธอไม่อยากให้ชีวิตของเธอที่เหลือต้องถูกทำลายอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นครั้งนั้นถ้าไม่ใช่เพราะเวินหนิง เธอก็คงจะไม่น่าสงสารเช่นนี้

ดังนั้น หลิวเมิ่งเซวี่ยจึงตอบอย่างไม่รู้สึกผิดว่า “ คุณชายลู่ เราได้ยืนยันเรื่องนั้นมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วไม่ใช่เหรอคะ เสื้อผ้าและป้ายชื่อทำงานที่ทิ้งไว้ในวันนั้นเป็นของฉัน ต่อให้คุณจะไม่เชื่อหรือสงสัยอะไร มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ คุณสามารถไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็ได้ "

ขณะที่หลิวเมิ่งเซวี่ยพูด แต่ลึกๆในใจนั้นกำลังหัวเราะอย่างได้ใจ เพราะเธอรู้กฏของโรงแรมหมิ่งเซิ่งเป็นอย่างดี เป็นไปไม่ได้ที่โรงแรมจะเปิดให้คนนอกดูกล้องวงจรปิดง่ายๆ ต่อให้จะดู ก็สามารถดูได้แค่ภายในสามเดือนนี้เท่านั้น

และนี่เป็นเวลาเกือบห้าเดือนแล้วกับเรื่องที่เกิดขึ้น ต่อให้ลู่จิ้นยวนอยากหาหลักฐานก็ยากพอๆกับหาเข็มใต้สมุทร

เวินหนิงไม่เคยคิดเลยว่าหลิวเมิ่งเซวี่ยจะทำลายโอกาสสุดท้ายของเธอและทำให้เรื่องยิ่งเข้าใจผิดไปกันใหญ่ ทั้งๆที่เขารู้อยู่แกใจว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้น " หลิวเมิ่งเซวี่ย ทำไมเธอถึง ... "

"คุณชายลู่ เวินหนิงก็อยู่ด้วยเหรอคะ ...เรื่องนั้นมันเป็นแค่ความผิดพลาด ฉันเคยบอกเวินหนิงไปแล้ว ตอนนั้นเราสนิทกันมาก คุณก็รู้อยู่ ... หรือว่าตอนนี้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีกเหรอ”

หลิวเมิ่งเซวี่ยแสร้งทำเป็นไม่รู้ทั้งที่รู้อยู่แกใจ ที่แท้ เป็นเพราะเวินหนิงได้พูดความจริงออกมานี่เอง

หลิวเมิ่งเซวี่ยไม่สามารถปล่อยให้เธอสมหวัง หากลู่จิ้นยวนรู้ว่าคนในวันนั้นคือเวินหนิง เขาจะต้องไม่ไว้หน้าเธออย่างแน่นอน ถ้างั้นความพยายามของเธอก่อนหน้านั้นก็ต้องสูญเปล่า

คำพูดของหลิวเมิ่งเซวี่ยทำให้ใบหน้าของลู่จิ้นยวนชาไปหมด หลังจากวางสายโทรศัพท์ ชายหนุ่มก็จ้องมองไปที่เวินหนิงด้วยหน้าที่เขียวซีดเซียว " ยังไง เธอยังอยากจะพูดอะไรอีกล่ะ เขากล้าที่จะให้คนอืนไปดูกล้องวงจรปิด ถ้าเขาพูดโกหก. จะกล้าท้าขนาดนี้ได้ยังไง”

ลู่จิ้นยวนเห็นความดื้อรั้นในดวงตาของเวินหนิง ลุกขึ้นยืนเดินเข้าไปหาเธอทีละก้าวเพื่อกดดันเธอ จากความสูงที่ได้เปรียบอยู่แล้วสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าใครเหนือกว่าในตอนนี้

เวินหนิงถูกเงาใหญ่ของลู่จิ้นยวนคลุมไปหมดทั้งตัว จนเธอต้องถอยหลังออกไปเรื่อยๆจนจมมุม แต่เธอก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะยอมแพ้ใดๆ

“ เวินหนิง ที่ฉันพูดไม่ได้ล้อเล่นนะ และเธอก็ต้องทำตาม เรื่องของเด็กคนนี้ เธอต้องฟังฉัน”

ลู่จิ้นยวนเห็นความดื้อรั้นของเธอจนทำให้เขาโมโหมากขึ้้น เธอให้ความสำคัญกับพ่อสาระเลวของเด็กคนนี้มาก แม้ว่าจะต้องเป็นศัตรูกับเขาก็ตาม

“ ไม่ ไม่ได้ ฉันจะปล่อยให้คุณทำแบบนี้ไม่ได้” เวินหนิงปฏิเสธอย่างเด็ดขาด ลู่จิ้นยวนมองเธอโมโหจนหัวเราะออกมา

"เพื่อเด็กสาระเลวคนนี้ พ่อของมันได้ใช้ยาเสน่ห์อะไรกับเธอ ให้เธอตายใจได้ขนาดนี้ เวินหนิง ความอดทนของฉันมีขีดจำกัดนะ "

ในสายตาของลู่จิ้นยวน การที่เวินหนิงยิ่งให้ความสำคัญกับเด็กคนนี้มากเท่าไร ก็หมายความว่าเธอไม่สามารถตัดใจจากพ่อของเด็กมากเท่านั้น

ถึงเวลานั้น หรือว่าเธอยังอยากจะเล่นตลกลับสายตาเขา พาลูกและผู้ชายสาระเลวคนนั้นหนีไปสุดขอบฟ้าเหรอ

“ ลู่จิ้นยวน คุณต้องเชื่อฉัน ... เด็ก เด็ก ... ”

เวินหนิงใช้ความพยายามในการอธิบาย แต่เห็นได้ชัดว่าลู่จิ้นยวนไม่ได้เชื่อแม้แต่น้อย มีเพียงความโกรธ จนเธอไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร

“ ฟังนะ ฉันไม่ได้บังคับให้เธอทำแท้งเด็ก ก็ถือว่าใจดีมากพอแล้ว แต่เธอยังอยากให้แกอยู่ข้างๆ เป็นไปไม่ได้ ฉันจะให้เวลาคุณคิดเรื่องนี้ ฉันหวังว่าเธอจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก