สรุปตอน บทที่263 เกิดความสงสารขึ้นมา – จากเรื่อง บ่วงแค้นแสนรัก โดย ชิวเซิง
ตอน บทที่263 เกิดความสงสารขึ้นมา ของนิยายInternetเรื่องดัง บ่วงแค้นแสนรัก โดยนักเขียน ชิวเซิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
"นี่ที่คือประเทศฝรั่งเศส"
เหอจื่ออันพูดออกมาเบาๆ เวินหนิงถึงได้พยักหน้า ร่างกายยังคงเมื่อยล้าอยู่
"นอนเถอะ ที่นี่นั้นปลอดภัย คุณควรจะพักผ่อน"
เหอจื่ออันเดินไปอยู่ข้างๆเธอ ยื่นมืออกไปตบเบาๆที่หัวของเธอ การกระทำอ่อนโยน
เวินหนิงพยักหน้า เธอเหนื่อยมากจริงๆ ชีวิตนี้เป็นครั้งแรกที่รู้ว่าการคลอดลูกเป็นเรื่องที่ทรมานขนาดนั้น เหมือนกับว่าแทบจะผลาญพลังงานชีวิตทิ้งไปทั้งหมดอย่างไรอย่างนั้น
ยังดี ลูกของเธอไม่ได้เป็นอะไร......
เวินหนิงเข้าสู่ห้วงเวลาหลับลึกไป
เหอจื่ออันนั่งมองเธออยู่ข้างๆ เหมือนกับกำลังมองของรักที่หายไปแล้วได้กลับมา แววตาอ่อนโยน
เหอจื่ออันไม่รู้ว่านั่งอยู่ตรงเตียงของเวินหนิงนานเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าจะนั่งอยู่อย่างเยื่อหน่ายแบบนั้น แต่ว่า กลับไม่ได้รู้สึกว่าเบื่อเลย ในเวลาที่เงียบเชียบแบบนี้ ทำให้อารมณ์ของเขาสงบลง
เขาถึงขนาดที่ไม่อาจจะจินตนาการได้ ถ้าเกิดว่าเขาไม่ได้เจอตัวเวินหนิงได้ทันเวลา ไม่ได้ช่วยชีวิตเธอออกมา ตอนนี้ตัวเขาเองจะเป็นยังไง
"ประธานเหอ ถึงเวลาอาหารเย็นแล้วครับ......"
เมิ่งฝานผู้ช่วยของเหอจื่ออันเดินเข้ามา ในมือกำลังถืออาหารอยู่ กลิ่นหอมยั่วยวนลอยเข้ามาเตะจมูก ตอนนี้เหอจื่ออันถึงได้จำได้ว่าตัวเองมัวแต่ยุ่งอยู่กับการตามหาตัวเวินหนิง แล้วยังกังวลว่าเธอจะมีปัญหาอะไรอยู่ตลอด ดังนั้น ก็เลยยังไม่ได้กินข้าวมาทั้งวัน
"อืม วางไว้ตรงนั้นเถอะ" เหอจื่ออันพยักหน้า เป็นสัญญาณว่าให้เขาวางของแล้วออกไปได้
เมิ่งฝานสงสัยอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ไม่อาจจะดับความสงสัยภายในใจเอาไว้ได้ "ประธานเหอ ตกลงแล้วคุณนั้น......."
ในตอนนั้น ถึงแม้ว้าจะใช้คนที่หมดที่สามารถให้ได้ในบริษัทให้ไปตามที่อยู่ของเวินหนิง แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ไม่ได้อะไรกลับมาเลย
แต่ว่า เหอจื่ออันออกไปเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง ก็จัดการเรื่องต่างๆได้เสร็จสรรพ
แต่ ข้อแลกเปลี่ยน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเขาจะต้องละทิ้งทุกอย่างที่อุตส่าห์สร้างมาด้วยความลำบากในจีน กลับไปอยู่ต่างประเทศ
ระหว่างตกลงแล้วเกิดอะไรขึ้น ทำให้คนสงสัยมากๆ
"อะไรที่ไม่ควรถาม ก็ไม่ควรถามขึ้นมาซี้ซั้ว"
เหอจื่ออันโบกมือเล็กน้อย เมิ่งฝานรู้ว่าเขาไม่พูดเรื่องพวกนี้ เลยทำได้แค่ออกไป
เหอจื่ออันเห็นว่าเวินหนิงมีท่าทางเหมือนกำลังจะตื่นขึ้น เดินไปปิดผ้าม่าน เธอจะได้ไม่ต้องโดนแสงอาทิตย์แยงตา อยากให้เธอนั้นได้นอนเพิ่มอีกนิด
เพื่อที่จะตามหาตัวเวินหนิงให้เจอ เขาไปพบกับนายท่านลู่
นี่คือหมากสุดท้ายที่เขาโดนบีบบังคับให้เดิน
......
บ้านตระกูลลู่
เย่หวานจิ้งเอาตัวเด็กกลับมาแล้ว แต่ว่า ไม่ได้พาตัวเด็กกลับมาที่บ้านตระกูลลู่เลยทีเดียว
ยังไงเสียก็ไม่ใช่เด็กที่เกิดระหว่างสมรส ถึงแม้ว่าเย่หวานจิ้งจะไม่อยากให้สายเลือดของตระกูลลู่ถูกทิ้งเอาไว้ด้านนอก แต่ว่า มู่เยียนหรานเพิ่งจะหมั้นกับลู่จิ้นยวนไป เธอไม่ต้องการที่จะเพิ่มปัญหาให้กับเธอ
ดังนั้นเลยหาคนกลุ่มหนึ่ง เอาตัวเด็กไปทิ้งไว้ที่ด้านนอก
นายท่านลู่เองก็อยากจะมาดูเหมือนกัน ยังไงเสียก็เป็นเหลนของเขา
ในตอนที่นายท่านลู่มาถึง ทารกกำลังหลับอยู่
นึกไม่ถึงเลยว่า เขาไม่ได้เพียงแค่ยังมีชีวิตอยู่ แถม ยังมีใช้ชีวิตอย่างก้าวหน้าสุขสบายดี
ในวินาทีที่เห็นเหอจื่ออัน ความรู้สึกของนายท่านลู่อธิบายออกมาไม่ได้ ชายคนนี้ เป็นหลักฐานที่ลูกชายของตัวเองออกไปทำตัวเสเพล กลับไม่ได้สงสัยในสายเลือดของตระกูลลู่ที่ไหลเวียนอยู่ในตัวเอง
แต่ว่า เรื่องที่เขาคิดไม่ถึงเลยก็คือ ก่อนหน้านี้ที่เหอจื่ออันเจอเรื่องเดือดร้อนลำบาก กลับไม่เคยมาขอให้เขาช่วยเหลือ แต่กลับมาขอความช่วยเหลือเพื่อผู้หญิงที่ชื่อเวินหนิงคนนั้น
ผู้หญิงคนนั้น ตกลงแล้วมีเสน่ห์อะไรกันแน่ ถึงทำให้ผู้ชายสองคนของตระกูลลู่หลงไหลในตัวเธอ?
"พ่อ?"
เย่หวานจิ้งเห็นว่านายท่านเหม่อลอยอยู่ในความคิดของตัวเอง ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว ถึงได้อดไม่ได้จนต้องเรียกออกมา
อย่าบอกนะว่า นายท่านรู้เรื่องในตอนนั้นที่เธอทำลงไป แล้วก็ เกิดความเห็นใจต่อตัวเหอจื่ออันขึ้น?
เรื่องที่เธอกังวลก็คือ เพื่อที่จะชดใช้อะไรบางอย่าง นายท่านจะให้หุ้นกับเหอจื่ออัน ให้เขาแข่งกับลู่จิ้นยวน
"ไม่ต้องห่วง มีแค่ลู่จิ้นยวนที่จะได้เป็นผู้สืบทอดของตระกูลลู่ เขาเพียงแค่มาเสนอข้อต่อรองกับฉันเท่านั้น"
นายท่านลู่แค่ปราดเดียวก็มองความคิดของเย่หวานจิ้งออก เขาส่ายหน้า
"หวานจิ้ง เรื่องในตอนนั้น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้พูด แต่ว่า ที่จริงแล้วฉันรู้หมดทุกอย่าง ความโกรธเกลียดของเธอ ก็ควรจะจบลงได้แล้ว เด็กคนนั้นได้เสียสละมามากพอแล้ว เขารับปากจะพาตัวเวินหนิงไปไม่กลับจีนตั้งแต่ตอนนี้ ไม่มารบกวนชีวิตของลู่จิ้นยวน ก็.......เลิกพยาบาทต่อกันเถอะ"
นายท่านลู่แค่เอ่ยปาก กลับมีความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่และช่วยไม่ได้
บางทีอาจะเป็นเพราะว่าอายุมากแล้ว เขาเลยไม่มีความคิดอาฆาตรุนแรงแบบในตอนวัยรุ่น เขาลุกขึ้น อุ้มทารกที่กำลังหลับอยู่ขึ้นมา ลูบผมนุ่มนิ่มของเด็กน้อย "เรื่องๆนี้ จบลงแล้ว"
"ต่อไปฉันจะค่อยๆมอบอำนาจการดูแลตระกูลลู่ส่งต่อให้จิ้นยวน หลังจากนั้น ฉันก็จะอยู่บ้านดูแลเหลนของฉันแล้ว!"
นายท่านลู่มองเด็กทารกที่อยู่อยู่ตรงอก "เด็กคนนี้ยังไม่มีชื่อเลย ชื่ออะไรดีนะ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก