เช้าของวันรุ่งขึ้น ลู่อันหรานไม่ได้นอนตื่นสายอย่างเช่นเคย ลุกขึ้นมาแต่เช้า แล้วเริ่มไปหาเสื้อผ้าบนตู้เสื้อผ้าของเขา
ยิ่งไปกว่านั้น ในขณะที่เปลี่ยนเสื้อผ้า ยังได้เรียกป้าจางที่ดูแลเขามาดูอีก
“ ชุดนี้เป็นยังไงครับ”
“ ดูหล่อดีค่ะ ”
"แล้วชุดนี้หล่ะ"
“ คุณชายน้อยใส่อะไรก็ดูหล่อจ๊ะ ”
ป้าจางนั้นพูดความจริง แม้ว่าลู่อันหรานยังอายุน้อย แต่ใบหน้าเล็กๆนี้ของเขาโหงวเฮ้งดีมาก ตอนนี้ผมของเขายาวขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าที่ขาวอ่อนโยนบวกกับโครงหน้าที่สวยงามของเขา ซึ่งดูจากที่ไกลๆแล้วเหมือนอย่างกับตุ๊กตาบาร์บี้เลย
“ ก็แน่อยู่แล้ว ”
เมื่อได้ยินคำชมของป้าจาง ลู่อันหรานอารมณ์ดีเป็นพิเศษ แต่ว่าเมื่อมองไปที่เสื้อผ้าและเครื่องประดับเหล่านั้นแล้ว เขายังคงทนทุกข์ทรมานกับการเลือกจริงๆ
ครั้งล่าสุดที่ได้เจอโม่โยวนั้น เขาดูทรุดโทรมไปหน่อย เพราะกำลังวิ่งหนี ไม่ได้สะท้อนถึงความหล่อและรูปลักษณ์โดดเด่นภายนอกของเขาออกมา ครั้งนี้เจอหน้ากัน เขาจะต้องแต่งตัวให้ดึงดูดสายตา และทำให้เธอต้องอึงกับความหล่อเหลาของเขา
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ลู่อันหรานก็วิ่งกลับไปที่ห้องนอนอีกครั้งเพื่อค้นหาเสื้อผ้าที่เหมาะสมอีกครั้ง
เสียงวิ่งไปวิ่งมาของเขาทำไมลู่จิ้นยวนต้องตื่นขึ้นมา ลุกขึ้นนั่งอย่างขมวดคิ้ว
ปกติลู่จิ้นยวนก็เป็นคนหลับยากอยู่แล้ว หลังจากดูเวลาแล้วยังไม่ถึงแปดโมงเช้า ซึ้งมันไม่เหมือนเด็กที่ชอบนอนเซาเอาซะเลย ปกติแล้วจะต้องรอจนถึงเที่ยงถึงจะยอมลุกขึ้น
ชายหนุ่มถึงกับต้องเปิดผ้านวมออกแล้วเดินออกไปพร้อมกับกุมหน้าผากไว้ ได้เห็นลู่อันหรานที่ชอบหลงตัวเองกำลังส่องมองกระจกไปมา
"ลูกกำลังทำอะไรน่ะ "
ลู่อันหรานไม่ได้สนใจในสิ่งที่ลู่จิ้นยวนพูด วิ่งเข้าไปตรงหน้าของลู่จิ้นยวนด้วยเสียง ตุง ตุง ตุง มองเขาอย่างกระตือรือร้น " ชุดนี้ดูหล่อไหมครับคุณพ่อ รู้สึกว่าคุณพ่อมีชุดสูทอยู่ชุดหนึ่งที่สามารรถเข้ากับมันได้ พวกเราใส่ชุดพ่อลูกกันไหม "
ลู่จิ้นยวนมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง แล้วพูดออกมาอย่างเย็นชา “ ทำไม จู่ๆ ถึงคิดอยากจะใส่ชุดพ่อลูกกันล่ะ วันนี้ลูกอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ...
“ หวังว่าคุณพ่อคงจะไม่ลืมนะว่าวันนี้เราจะไปทำอะไรกัน ”
เมื่อลู่อันหรานเห็นลู่จิ้นยวนเดินออกไปอย่างไม่รู้สึกไม่รู้สาอะไร ก็รู้สึกกังวลใจขึ้นมาเล็กน้อย
ถ้าหากว่าลู่จิ้นยวนลืมเรื่องที่จะไปเยี่ยมโม่โยวแล้วล่ะก็ เขาไม่สามารถไปคนเดียวได้ อย่างงี้ที่เขาเตรียมตัวแต่เช้าและดีใจก็ต้องพังลง
"ไปโรงพยาบาล พ่อจำได้ "
ลู่จิ้นยวนหยิบกาแฟขึ้นมาจิบไปคำหนึ่ง หลังจากที่รสขมได้ขับความง่วงออกไปแล้ว ชายหนุ่มก็เปิดหนังสือพิมพ์ขึ้นมา แล้วตอบอย่างแผ่วเบาด้วยน้ำเสียงที่ดูเซ็กซี่และแหบเล็กน้อย ซึ่งดูแล้วเป็นการหลอกลวงอย่างมาก
" มันไม่ใช่ไปเดินพรมแดงอะไรสักหน่อย ลูกจำเป็นต้องแต่งถึงขนาดนี้เลยเหรอ "
ลู่อันหรานถูกแซวจนใบหน้าแดงกล่ำ “ ทำไมถึงไม่จำเป็นล่ะ เหอ เหอ เรื่องแบบนี้พ่อไม่เข้าใจหรอ ออกไปเจอสาวในจินตนาการ จะมาแต่งตัวเบาๆสบายๆไม่ได้ จะต้องดูแลภาพพจน์ให้ดีทุกที่ทุกเวลา "
หลังจากพูดจบ ลู่อันหรานก็ไม่ได้สนใจลู่จิ้นยวนอีกเลย ตัวเองนั้นหลบเข้าไปในห้องนอนเพื่อไปหาของต่อ
คนอย่างเขาเยือกเย็นอย่างกับภูเขาหิมะ พูดไปก็ไม่มีวันเข้าใจหรอก
นิ้วมือที่กำลังเปิดหนังสือพิมพ์ของลู่จิ้นยวนถึงกับนิ่งไปสักพัก ก่อนที่จะแน่ใจว่าเขาได้ยินไม่ผิด
เด็กคนนี้ พูดว่าสาวในจินตนาการ ? ? ?
พวกเขาเคยพบหน้ากันแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
ถึงแม้ว่าลู่อันหรานจะมีบุคลิกนิสัยที่สดใส่ร่าเริงก็ตาม แต่ลู่จิ้นยวนรู้นิสัยในคอของเขาเป็นอย่างดี เด็กคนนี้ไม่ใช่คนที่จะยอมรับใครได้ง่ายๆ
โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องการแต่งงานกับตัวเอง เพื่อที่จะมาเป็นแม่เลี้ยงของเขา เขาทำตัวดื้อรั้นยิ่งกว่าใคร ๆอีก
ตอนนี้ กับรู้สึกดีและเป็นมิตรกับผู้หญิงที่ชื่อโม่โยวเป็นพิเศษ
เป็นเรื่องบังเอิญเหรอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก