“พี่สาวคนสวย นี่คือพ่อแล้วก็แม่ของผมเอง”
เจ้าตัวเล็กที่ยังเยาว์วัยอยู่ แต่พูดภาษาฝรั่งเศสได้คล่องพอตัว
โม่โยวตัวแข็งทื่อ เคราะห์ซวยอีกครั้ง เพราะคำว่าพ่อกับแม่สองคำนี้ในภาษาฝรั่งเศส เธอก็รู้เช่นกัน แต่ลู่อันหรานนั้นไม่เหมือนกับลู่จิ้นยวน
สำหรับลูกชายตนเองแล้ว เธอก็ไม่อาจที่จะโต้เถียงออกไปได้ จึงทำได้เพียงยิ้มออกมาอย่างกระอักกระอ่วน
ลู่จิ้นยวนยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ จ้องมองไปที่ลูกชายเจ้าตัวยุ่งของตัวแล้วก็พลันรู้สึกว่าดูรื่นหูรื่นตาอยู่เหมือนกัน
เด็กสาวที่ขายดอกไม้แม้จะรู้สึกได้ว่าลูกชายบ้านนี้จะประหลาดอยู่มากก็ตาม แต่ก็ยังยิ้มและเอ่ยออกมาอีกครั้งว่า “คุณผู้ชายคะ ซื้อดอกไม้สักช่อให้คุณผู้หญิงสิคะ และขอให้มีความสุขมากๆ นะคะ”
ลู่จิ้นยวนอารมณ์ดี โบกธนบัตรใบใหญ่ แล้วหยิบเอาตะกร้าดอกกุหลายมา โดยซื้อทั้งหมดรวมไปถึงตะกร้ามาด้วยเลย
“โม่โยว สุขสันต์วันแห่งความรักนะ” เขาส่งดอกไม้ไปให้เธอ ประโยคที่พูดออกไปนั้นพูดด้วยภาษาฝรั่งเศส
ลู่จิ้นยวนกดน้ำเสียงให้ทุ้มต่ำลง มองมาด้วยสายตาที่ลุ่มลึก ทำให้ใจของโม่โยวกระตุกวูบ อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้นจนเริ่มที่จะควบคุมไม่อยู่ เธอกระแอมไอเบาๆ หนึ่งที ไม่ได้รับดอกไม้ดอกเดียวที่เขายื่นมาให้ แต่หยิบทั้งตะกร้านั้นมาแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า
“เด็กผู้หญิงคนนั้นขายดอกไม้อย่างยากลำบาก ซื้อมาก็ดีแล้ว”
เพียงประโยคเดียว ก็ทำให้จุดประสงค์ของเขากลายมาเป็นเรื่องเจตนาดีแทน ลู่จิ้นยวนหัวเราะออกมาเบาๆ และไม่ได้สนใจอะไรนัก
ไม่ผิด วันนี้คือวันแห่งความรัก
เทศกาลแบบนี้ ลู่จิ้นยวนมักไม่สนใจอะไรนัก แต่เพราะได้รับข้อความเตือนมาจากอันเฉินเมื่อเช้านี้ถึงได้พึ่งรู้เรื่อง เขาพึงพอใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
ช่างสมกับที่เป็นผู้ช่วยที่มีคุณสมบัติจริงๆ ตอนที่เจ้านายตนเองกำลังตามตื้อคนอยู่ ก็ส่งข้อความมาช่วยเหลือในทันที
“แม่ครับ ตรงนั้นคนเยอะมากเลย” เสียงของลู่อันหรานดึงความสนใจของทั้งสองคนกลับมา
ด้านหน้าเป็นสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง บนสนามหญ้าอันกว้างใหญ่มีเวทีตั้งอยู่ ที่มุมสุดของทั้งสองด้านมีป้ายห้อยเอาไว้ และมีคนมุงอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
มีชายหนุ่มรูปงามชาวประเทศF กำลังพูดอะไรบางอย่างอยู่บนเวที ดูแล้วคึกคักเป็นอย่างมาก
“นี่กำลังจัดงานอะไรกันอยู่นะ” โม่โยวเอ่ยถาม
ลู่จิ้นยวนดึงลู่อันหรานขึ้นมาอุ้มด้วยมือเดียว “ไปกันเถอะ เข้าไปดูก็รู้แล้วว่าเป็นอะไร”
มาเที่ยวเล่นที่ต่างประเทศ แล้วบังเอิญได้เจอเข้ากับกิจกรรมท้องถิ่นนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก โม่โยวเองก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย
ทั้งสามคนเดินเข้าไป ด้วยลักษณะนิสัยใจกล้าบ้าบิ่นของเจ้าตัวเล็กจึงทำให้รู้สึกไม่อยากที่จะยืนอยู่บริเวณด้านหลัง จึงไม่ลังเลที่จะทำให้ดวงตากลมโตดูน่ารักน่าชังเป็นที่สุด แล้วปากก็พูดจาเจื้อยแจ้วหวานหยาดเยิ้ม
เมื่อเจอผู้ชายก็เรียกพี่ชายสุดหล่อ เมื่อเห็นผู้หญิงก็เรียกพี่สาวสุดสวย ใช้ประโยชน์จากใบหน้ายิ้มแย้มอันน่ารัก กุมหัวใจของชายหญิงทั้งกลุ่มที่อยู่ตรงนั้น ทุกคนต่างล้วนแต่หลีกทางให้เจ้าตัวน้อย เพื่อให้เขาไปดูอยู่ที่ด้านหน้าทันที
โม่โยวหัวเราะออกมาเบาๆ อดไม่ได้ที่จะยีหัวของลูกชาย
ความหน้าตาดีของพ่อแม่ลูกครอบครัวนี้ดึงดูดคนจำนวนไม่น้อยให้มามุงล้อมรอบดู และสิ่งที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้นไปก็คือคนครอบครัวนี้ล้วนแล้วแต่มีผมสีดำ ซ้ำแล้วนัยน์ตาก็สีดำอีกด้วย เป็นชาวเอเชียอย่างชัดเจน จึงยิ่งเรียกความสนใจให้คนมาดู
ในขณะเดียวกัน คนที่สังเกตเห็นพวกเขาก็รวมไปจนถึงพิธีกรที่อยู่บนเวทีด้วยเช่นกัน
ดวงตาของพิธีกรหนุ่มสุดหล่อก็เป็นประกาย รีบกระโดดลงมาทันที “ทั้งสองท่านมาลองร่วมกิจกรรมของเราดีกว่าครับ ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะก็มีรางวัลปลอบใจให้ คนที่ได้ที่หนึ่งจะได้ของรางวัลชิ้นใหญ่จากเราไปด้วยนะครับ”
นี่เป็นการเชื้อเชิญที่พิธีกรถึงกับลงมาเสนอเองกับตัวเลย บรรดาผู้คนที่ล้อมรอบก็ส่งเสียงเชียร์ทั้งสองคนขึ้นมาทันที ให้ทั้งสองคนนั้นขึ้นบนเวทีไป
โม่โยวฟังไม่เข้าใจ จึงทำได้เพียงมองไปที่ลู่จิ้นยวน
ลู่จิ้นยวนนัยน์ตาสั่นไหวเล็กน้อย แล้วจึงยิ้มขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เสี่ยวอันหรานที่อยู่ในอ้อมแขนก็มีสีหน้าตื่นเต้นขึ้นมา “แม่ เขาให้แม่กับพ่อขึ้นไปเล่นเกม”
ห๊ะ?
โม่โยวตัวนิ่งค้างไป เธอเล่นเกมเป็นเสียที่ไหนกันล่ะ
แต่ลู่อันหรานเจ้าเพื่อนตัวน้อยอยากจะเห็นพวกพวกเธอเล่นเกมเอามากๆ ดิ้นจนหลุดออกมาจากอ้อมแขน แล้วจูงมือของทั้งสองคนให้ขึ้นไปบนเวที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก