บ่วงแค้นแสนรัก นิยาย บท 400

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการแข่งขัน นางแบบสาวที่ถูกไฟไหม้จนผิวและรูปร่างหน้าตาเสียหาย และชุดนางเงือกสีฟ้าสดใสที่เธอออกแบบก็กลายเป็นที่นิยมไปด้วยเช่นกัน

ช่วงนี้ออเดอร์การสั่งซื้อของตระกูลลู่ไม่น้อยเลยที่เดี๋ยว ส่วนใหญ่จะเป็นการสั่งจองกระโปรงตัวนั้น ซึ่งทำให้โม่โยวดีใจจนร้องไห้ไม่ออก

นอกจากนี้ ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ควรค่าแก่การเฉลิมฉลองเช่นเดียวกัน ตามที่ลู่จิ้นยวนคาดหวัง มีคนในอุตสาหกรรมเสื้อผ้ามากมายเริ่มรู้จักและติดตามโม่โยวแล้ว

สิ่งเหล่านี้เห็นได้จากจดหมายเชิญของ BLแฟชั่นวีค ที่ส่งมาจากประเทศF ผู้จัดงานมีชื่อเสียงโด่งดังมากในแวดวงแฟชั่น และจดหมายเชิญนี้ไม่ใช่ว่าใครจะได้มาง่ายๆ

เพราะเวลาของแฟชั่นวีคเป็นปีหน้า ดังนั้น ยังไม่ใช่เรื่องที่ต้องคิดมากในตอนนี้

ที่คฤหาสน์ตระกูลลู่

สำหรับโม่โยวแล้วมันไม่ได้มีความรู้สึกแปลกประหลาดเหมือนครั้งแรกที่มาที่นี่อีกต่อไป ไม่เพียงแต่เธอยังมีเพื่อนรักของเธอเย่ซือเยวี่ยก็มาที่นี่ด้วยในวันนี้

เดิมทีเย่ซือเยวี่ยเองทำงานอยู่ใน บริษัท ต่างประเทศและตำแหน่งของเธอก็ไม่ใช่ว่าต่ำ ก่อนหน้านั้นที่ผ่านมาเธอถูกบริษัทส่งตัวไปทำงานตามที่ต่างๆของประเทศ ซึ่งในตอนนั้นเธอกับลู่จิ้นยวนยังไม่ไม่คุ้นเคยกันมากนัก

ดังนั้น เป็นเรื่องปกติที่เย่ซือเยวี่ยจะไม่รู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น เธอรู้แค่ว่า ตัวเองนั้นได้เดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศเพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น หลังจากกลับมา วงการชีวิตของเพื่อนรักของเธอก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงอย่างกับฟ้ากับดิน

โดยเฉพาะเรื่องที่โม่โยวกับโม่เทียนยวี๋นั้นเลิกกันแล้ว เธอนั้นชูนิ้วโป้งเห็นด้วยอย่างมาก

ก่อนหน้านี้เธอก็ไม่ได้เห็นด้วยกับความรักนี้ของเพื่อนอยู่แล้ว เขาว่ากันว่าคนนอกนั้นจะมองได้ชัดเจนกว่า ในความคิดของเธอ โม่เทียนยวี๋ไม่ได้ให้ความสำคัญกับโม่โยวเลย ถ้าบอกตรงๆก็คือเขาไม่ได้จริงจังอะไรกับเธอ .

หลังจากกลับมาถึงได้รู้เรื่องของถังหว่านเอ๋อร์ สำหรับโม่เทียนยวี๋นั้นเธอยิ่งเกลียดเขาเข้าไปใหญ่ มันดีมากเลยที่โม่โยวตัดขาดจากเขาซะที

แต่สิ่งที่ทำให้เธอคาดคิดไม่ถึงก็คือเพื่อนรักนั้นได้กลายเป็นสมาชิกส่วนหนึ่งของบริษัทตระกูลลู่โดยไม่มีคำพูดใด ๆ และฐานะตำแหน่งก็เปลี่ยนมาเป็นถึงนักออกแบบของตระกูลลู่ กลายเป็นหงษ์ไปทันที

ในฐานะเพื่อนรักคนหนึ่งของโม่โยว เธอดีใจแทนเพื่อนอย่างมาก แต่ข่าวภายหลังที่ได้รับรู้ ทำให้เธอต้องตะลึงอย่างมาก

เรื่องที่ว่าโม่โยวนั้นความจำเสื่อมเธอรู้ดี

แต่คิดยังไงก็คิดไม่ถึงมาก่อนเลยว่า ก่อนที่โม่โยวจะความจำเสื่อม ยังเคยให้กำเนิดลูกคนหนึ่ง และเด็กคนนั้น ยังเป็นถึงเจ้าชายตัวน้อยของตระกูลลู่

มันน่าทึ่งมากทำให้เธออาหารไม่ย่อยไปหลายวัน ขณะในละครทีวียังไม่กล้าฉายแบบนี้เลย

ประธานลู่อย่างลู่จิ้นยวนเป็นถึงคนระดับไหนกัน

เย่ซือเยวี่ยมักจะอ่านบทสัมภาษณ์หรือรูปถ่ายของเขาในนิตยสาร สำหรับพวกเขาลู่จิ้นยวนเป็นเหมือนพีระมิดที่สูงที่สุด ที่สำหรับให้คนเขามองขึ้นไปเท่านั้น

ใครจะไปรู้ว่า พีระมิดที่สูงที่สุดจะนอนเตียงเดียวกับเพื่อนรักของตัวเอง

ทั้งสองคนกำลังคุยกันเรื่องพวกนี้ในร้านกาแฟในวันนั้น แล้วลู่จิ้นยวนก็ได้ตามมาตามตำแหน่งของโทรศัพท์มือถือของเธอ จากนั้นยังขอบคุณเย่ซือเยวี่ยอย่างเป็นมิตรที่ค่อยดูแลโม่โยวตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยังเชิญเธอไปเป็นแขกของตระกูลลู่ที่บ้านด้วยซะงั้น

นั่นเป็นเหตุผล ที่เย่ซือเยวี่ยได้มาที่นี่ในวันนี้

พ่อบ้านนั้นคุ้นเคยและสนิมสนมกับโม่โยวเป็นอย่างดี ด้วยรอยยิ้มที่กระตือรือร้น " คุณผู้หญิงโม่กลับมาแล้ว ใกล้จะได้เวลาทานอาหารแล้วครับ ในห้องครัวยังมีซุปที่ตุ๋นตั้งแต่เช้าตรู่ คุณชายน้อยเป็นคนสั่งไว้เป็นการส่วนตัวเมื่อรู้ว่าคุณจะกลับมา"

ฟังไปที่คำพูดสิ อ้าปากก็คุณผู้หญิงโม่กลับมาแล้ว แต่ไม่ใช่กลับมาแล้ว คำพูดนั้นเหมือนกับโม่โยวเป็นลูกหลานของตระกูลลู่ยังไงอย่างงั้น

เย่ซือเยวี่ยจี้ไปที่เอวของโม่โยวอย่างลับๆด้วยรอยยิ้มที่คลุมเครือ โม่โยวรู้สึกเขินอายมาก

“ ฉันรู้แล้วค่ะ ขอบคุณพ่อบ้านมากค่ะ เออนี่คือเพื่อนรักของฉันเอง เย่ซือเยวี่ย ”

พ่อบ้านยังคงยิ้ม " คุณเย่ ยินดีต้อนรับครับ"

เย่ซือเยวี่ยรีบรับยิ้มและกล่าวสวัสดีกลับทันที แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นเพียงพ่อบ้าน แต่เธอก็ให้ความเคารพอย่างมาก และเธอไม่ได้แสดงนิสัยอารมณ์ร้อนเหมือนปกติ

"คุณแม่ครับ……"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก