เถ้าแก่เดินลงมาจากบันไดอย่างเชื่องช้า ท่านเดินช้ามากแต่กลับทำให้คนอื่นรู้สึกถึงแรงกดดัน
โจวไป๋เยว่ก็รู้สึกร้อนตัวขึ้นมา
เถ้าแก่มองไปที่พวกเขา "บางเรื่องที่ฉันไม่ได้พูด ไม่ได้แปลว่าไม่รู้ พวกแกทำตัวให้ดีหน่อยเถอะ"
"ฉันไม่อยากให้เรื่องของเวินหนิงกับตระกูลลู่หลุดออกไปข้างนอก ถ้าใครกล้าก็ลองดูก็ได้"
เมื่อพูดกี่คำนี้เสร็จ ห้องอาหารที่ใหญ่โตก็เงียบสงัดทันที
เวินหนิงก้มหน้าไปพยายามพลางตัวเองไว้
"งั้น เธอเป็นภรรยาของจิ้นยวนจริงหรอคะ?" โจวไป๋เยว่รีบเอ่ยถาม
เถ้าแก่ไม่เอ่ยพูดอะไรแค่มองไปที่เธออย่างเยือกเย็น เวลานี้ลู่หมิงฮั่นค่อยมาดึงเธอไปข้างหลัง "พวกเรารู้แล้วครับ เรื่องนี้จะไม่เอ่ยปากพูดแน่นอน"
เถ้าแก่พยักหน้าแล้วค่อยมองไปที่เวินหนิง "เมื่อวานเธอทำดีมาก อีกหน่อยก็ต้องทำให้ได้แบบนี้ด้วย"
เวินหนิงพยักหน้า การรับประทานอาหารครั้งนี้รู้สึกอึดอัดมากกว่าปกติ
หลังจากที่รับประทานอาหารข้าวเสร็จ เถ้าแก่ก็เรียกลู่จิ้นยวนเข้าไปคุยในห้องหนังสือ
"เรื่องเมื่อวานฉันรู้หมดแล้ว ต่อไปบริษัทในมือของพวกเขาก็ให้แกเป็นคนดูแลแทน"
เถ้าแก่ส่ายหัว ทีแรกเป็นเพราะเกิดเรื่องกับลู่จิ้นยวน ก็ทำให้ท่านมีความคิดที่จะสนิทสนมกับคนในครอบครัวมากขึ้น
แต่เรื่องของเมื่อวานก็ย้ำเตือนท่านอีกว่า คนพวกนั้นก็แค่อยากจะได้ทรัพย์สมบัติของท่านเท่านั้น ไม่มีค่าพอที่จะไว้ใจได้เลย
"ครับ ผมรู้แล้วครับ" ลู่จิ้นยวนพยักหน้าด้วยสายตาไร้ความรู้สึก
"ใช่สิ กับเวินหนิงเแกมองว่ายังไง? วันนี้แกออกนอกหน้าแทนเธอ ไม่ใช่ว่า……"
คำพูดของเถ้าแก่แอบแฝงไปด้วยความหมายอื่น นิสัยลู่จิ้นยวนเย็นชาอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องระหว่างผู้หญิงก็ไม่เคยยุ่งเลย
แต่เมื่อกี้กลับทำเพื่อเวินหนิง แล้วทำแบบนั้นกับโจวไป๋เยว่ นี่ก็ทำให้ท่านรู้สึกคิดมาก
"แค่เมื่อวานเธอช่วยเหลือผม ก็เท่านั้น"
ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย ถึงแม้จะพูดแบบนี้ เขาก็แค่ไปหยุดยั้งการกระทำของโจวไป๋เยว่อย่างไม่รู้ตัว พอรู้ตัวก็เป็นแบบนั้นแล้ว
นี่ไม่เหมือนกับเรื่องที่คนอย่างเขาจะทำเลย
"ถ้าเป็นแค่นี้ก็ดี จิ้นยวน แกห้ามรู้สึกอะไรกับเธอเด็ดขาด ที่ฉันเก็บเธอไว้ ก็เพื่อที่จะคุ้มครองให้แกปลอดภัย ผู้หญิงแบบนั้นไม่คู่ควรกับแก"
เถ้าแก่เอ่ยพูดจบอย่างเรียบนิ่งแล้วโบกมือ ท่านอายุมากแล้วเวลานี้ก็รู้สึกเหนื่อยแล้วด้วย
ลู่จิ้นยวนพยักหน้าแล้วถอยออกไปพร้อมกับความคิดบางอย่างในหัว
……
เวินหนิงก็ทำเหมือนวันปกติทั่วไปก็ไปบริษัทกับลู่จิ้นยวน
แต่ว่า ระหว่างทางวันนี้สีหน้าของลู่จิ้นยวนเย็นชามากกว่าปกติ ถึงแม้ปกติเขาก็จะไม่มีสีหน้าอะไรมากมาย แต่ว่าก็ทำให้เวินหนิงรู้สึกได้ว่าเขาอารมณ์ไม่ดี
เพราะฉะนั้น ระหว่างทางทั้งสองไม่ได้เอ่ยพูดคุยอะไรกันเลย พอถึงบริษัทก็ต่างแยกย้ายกันไปทำงาน
เวินหนิงทำความสะอาดอยู่ที่ชั้นบนสุดไปสักพัก พอผ่านไปสักพักอันเฉินก็ให้เธอช่วยส่งของลงไปชั้นล่าง
เวินหนิงถือเอกสารไว้แล้วลงไปชั้นล่าง ค่อยรู้ว่าห้องทำงานที่มีระเบียบแต่ตอนนี้กลับดูวุ่นวาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก