บ่วงแค้นแสนรัก นิยาย บท 420

“ไม่อย่างนั้นเอาแบบนี้ไหมคะ ในเมื่อผู้อำนวยการเวินพึ่งจะมาถึง และจำเป็นที่จะต้องใช้ช่วงเวลาระยะหนึ่งในการทำความคุ้นเคยกับระบบการทำงานของแผนกออกแบบB นี้ รอจนท่านทำจนชินมือแล้ว ตอนนั้นค่อยย้ายเข้าห้องทำงานไปก็ยังไม่สายนะคะ ท่านมีความเห็นว่าอย่างไรคะ”

เหมยซานทำไปเพื่อให้ตัวเองได้ดี

เวินหนิงเองก็ไม่ใช่คนโง่ ย่อมรู้อยู่เป็นธรรมดา แม้ว่าคำของอีกฝ่ายจะฟังดูดีแต่หากหยุดคิดสักเล็กน้อย นี่ก็เป็นหลุมพรางอันหนึ่งนั่นเอง

รอจนเธอชินมือ?

ถ้าหากตกปากรับคำไป และให้เหมยซานได้ครอบครองห้องทำงานของเธอไปแม้เพียงวันเดียว อีกทั้งยังให้เธอได้บริหารจัดงานต่างๆ ในแผนกBด้วย ตัวของเวินหนิงเองก็คงได้เป็นผู้อำนวยการแต่ในนาม

ในเมื่อพูดมาแบบนี้ กำหนดระยะเวลาที่เหมาะสมก็ไม่รู้ว่าจะต้องรอไปอีกนานเท่าไหร่ด้วยเช่นกัน

เธอยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย “รองผู้อำนวยการเหมย เมื่อกี้ฉันก็พูดไปแล้วว่า สำนักงานที่นี่แบ่งลำดับชั้นหัวหน้ากับลูกน้องเอาไว้อย่างชัดเจน ฉันพึ่งจะถูกย้ายมาให้ดำรงตำแหน่ง แต่ถ้าหากเบื้องบนตรวจสอบพบเข้า พบว่าอำนาจสลับสับเปลี่ยนตกเป็นของรองหัวหน้าแผนกB แบบนั้นก็แย่เอาสิคะ เพราะจะสร้างความวุ่นวายให้กับรองผู้อำนวยการเหมยได้”

คำพูดของเธอนั้นไม่ได้มีความนัยอื่นเลย แต่เหมยซานกลับคิดว่า เวินหนิงกำลังข่มขู่เธออยู่ ใช้คนเบื้องบนของสำนักงานใหญ่มาขู่เธอ สีหน้าก็พลันดูแย่ขึ้นมาในทันที

เวินหนิงก็ทำราวกับว่ามองไม่เห็น ถ้าหากว่าได้อำนาจกลับคืนมา และจำเป็นที่จะต้องลงโทษเหมยซานคนนี้ขึ้นมา นั่นก็เป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ไม่มีทางที่จะเลือกไม่ลงโทษได้ตลอดไปหรอก การที่จะให้อีกฝ่ายพูดอะไรแล้วเป็นไปตามอย่างนั้น ให้เป็นดั่งใจปราถนา งั้นการที่เธอย้ายมาก็ไม่มีความหมายอะไรแล้วสิ

เธอกล่าวต่ออีกว่า “เอาแบบนี้แล้วกันค่ะ ฉันให้รองผู้อำนวยการเหมยใช้ห้องร่วมกันกับฉัน ภายในเวลาสามวัน ค่อยส่งมอบงานที่ได้รับมาให้ แบบนี้คิดว่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่า คิดว่าอย่างไรคะ”

เหมยซาน “...........” คิดอย่างไร? เธอต้องคิดว่ามันไม่โอเคอยู่แล้ว

หัวของเธอประมวลผลคิดด้วยความเร็วสูงว่าจะใช้วิธีอะไรดี ทำให้เวินหนิงคนที่มาใหม่คนนี้รู้ซึ้งถึงความลำบากแล้วถอนตัวไปเสีย ภายในใจของเธอ ได้ตั้งตัวเอาห้องทำงานนี้เป็นทรัพย์สินของตนเองไปแล้ว

สำหรับตัวเวินหนิงที่แย่งชิงอาณานิคมกับเธออยู่นั้น เธอก็เกลียดจนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว

แต่ยังไม่ทันที่เธอจะคิดวิธีออก ผู้ช่วยดีไซน์เนอร์คนหนึ่งก็ถลันเข้ามาหา “ผู้อำนวยการเหมยคะ ผู้ช่วยอันมาแล้วค่ะ”

ในสำนักงานใหญ่ทั้งระดับบนและระดับล่าง มีผู้ช่วยที่สกุลอันอยู่คนเดียว สีหน้าของเหมยซานเปลี่ยนไปในทันที ไม่สนใจเวินหนิงอีกต่อไปแล้ว รีบวิ่งออกไปต้อนรับในทันที

อันเฉินเป็นผู้ช่วยประจำตัวของประธานลู่ ทำงานอยู่ข้างกายท่านประธานมานานหลายปีแล้ว ทั้งองค์กรนี้นอกจากตัวท่านประธานเองแล้ว ก็ไม่มีใครคิดที่จะชี้นิ้วบงการอันเฉินแล้ว

ตำแหน่งของเขา สามารถพูดได้ว่าอยู่เบื้องล่างเพียงหนึ่งนาย แต่อยู่เหนือหัวเป็นหมื่นคน แม้แต่พวกผู้ถือหุ้นที่เป็นคนระดับสูงของสำนักงานใหญ่ ยังต้องไว้หน้าเกรงใจอันเฉินด้วยเลย

นอกจากตัวท่านประธานลู่แล้ว อันเฉินก็เป็นชายโสดที่มีค่าดั่งทองคำที่อยู่ในใจของบรรดาพนักงานหญิงทั้งบริษัท ถึงขนาดพากันเอาเขาไปจินตนาการ ก็ในเมื่อท่านประธานลู่นั้นอยู่สูงเสียจนไม่อาจเอื้อมถึงได้เลย

เมื่อนำมาเปรียบเทียบดูแล้ว ผู้ช่วยอันเฉินท่านนี้ ให้ความรู้สึกติดดินขึ้นมาอยู่เล็กน้อย

ท่านผู้นี้ถึงกับลงมาหาที่แผนกออกแบบB ด้วยตนเองเลย และเนื่องด้วยไม่ทราบถึงสาเหตุในการมาเยือนของอีกฝ่าย ในใจของเหมยซานก็ทั้งดีใจและเป็นกังวล

เวินหนิงเองก็คิดว่าเป็นอันเฉินเช่นกัน การที่อันเฉินมาหาในเวลานี้ หรือว่าจะเป็นเพราะตัวเธอกัน เมื่อคิดได้ดังนี้ ก็เดินตามไปด้วยเช่นกัน

“ผู้ช่วยอันคะ ท่านมาถึงแผนกB ของพวกเรา ช่างถือได้ว่าเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่ล้นฟ้าสำหรับแผนกเราจริงๆ ค่ะ.......” ใบหน้ารูปแกะสลักพันปีของเหมยซานก็พลันยิ้มขึ้นมาจนสดใส

ด้วยตำแหน่งของอันเฉินแล้ว เดิมทีก็ไม่จำเป็นที่จะต้องแลเธอซึ่งเป็นบุคลากรที่เป็นฟันเฟืองตัวเล็กๆ เลย เมื่อหันไปมองรอบๆ ก็เห็นเวินหนิงที่ออกมาจากห้องประชุม ริมฝีปากก็ยกขึ้นยิ้มแล้วเดินเข้าไปหา

“ผู้อำนวยการเวิน วันนี้เป็นวันแรกที่ท่านได้รับตำแหน่ง หัวหน้าให้ผมมาดูสักหน่อยครับ หากท่านต้องการอะไร ก็จะตกแต่งห้องทำงานให้ท่านได้ใหม่เลยครับ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก