“รับทราบ ผู้อำนวยการเหมย”
ทุกคนตะลึงไปเล็กน้อย ก่อนจะมีท่าทีตอบรับในทันทีต่อมา แต่ละคนต่างหยิบสมุดบันทึกของตนเองแล้วจึงเดินเข้าห้องประชุมไป แววตาของแต่ละคนล้วนแตกต่างกันออกไป มีมากมายหลากหลายอารมณ์
ผู้อำนวยการเหมยคนนี้มีชื่อว่าเหมยซาน ก็คือรองผู้อำนวยการของแผนกออกแบบB ที่ทุกคนพูดออกมาก่อนหน้านี้
หลังจากที่เหมยซานโยนระเบิดอารมณ์ลงไปแล้ว ก็เห็นว่าทุกคนต่างให้ความร่วมมือดี สีหน้าจึงผ่อนคลายลงมาเล็กน้อย หลังจากที่มองไปรอบๆ หนึ่งที ก็สะบัดตูดเดินเชิดเข้าห้องประชุมไปเลยเช่นกัน
ทิ้งให้เวินหนิงยืนทื่ออยู่ที่เดิมไปทั้งอย่างนั้น
เวินหนิงหันไปมองซ้ายขวา บริเวณออฟฟิศในช่วงเวลานี้ไร้วี่แววของคนแม้แต่คนเดียว และเธอยังยืนอยู่บริเวณข้างในทางเดินตรงกลาง เมื่อสักครู่เหมยซานเองก็ยืนอยู่ที่ทางเดินนี้เช่นกัน ระยะห่างของทั้งสองคนนั้นห่างกันแค่เพียงไม่กี่ก้าว
ภายใต้สถานการณ์ที่เหมือนเกือบจะเป็นการพบหน้าอีกฝ่ายเช่นนี้ ถ้าจะบอกว่าเหมยซานไม่เห็นเธอ แม้แต่ผีก็ยังไม่อาจเชื่อได้ลง ถ้าอย่างนั้นก็มีความเป็นไปได้อยู่เพียงอย่างเดียวแล้ว อีกฝ่ายนั้นจงใจทำแบบนั้น
เธอยืนนิ่งขรึมอยู่ที่เดิมสักพัก หลังจากนั้นก็หยิบกระเป๋าแล้วมุ่งหน้าไปทางห้องประชุม
หลังจากเคาะลงไปเบาๆ สองทีเวินหนิงก็เปิดประตูห้องประชุมออก เดินเข้าไปอย่างสง่างาม แต่ว่า.......
มีเสียงดังป้าบดังขึ้นมาหนึ่งเสียง
เหมยซานใบหน้าเคร่งขรึม เอกสารที่อยู่ในมือถูกโยนทิ้งลงบนโต๊ะอย่างแรงจึงทำให้เกิดเสียงดังขึ้นมา ในขณะต่อมาก็เป็นเสียงระเบิดความกรุ่นโกรธอันแหลมสูงของเธอ
“เธอเป็นใคร ที่นี่เป็นห้องประชุม สถานที่สำคัญของแผนก ใครให้เธอเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต”
เวินหนิงอดขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อยไม่ได้ ไม่ว่าดีไซน์เนอร์เหมยคนนี้จะไม่ยินดีพอใจมากแค่ไหน ตนเองก็ต้องได้รับคำสั่งเรื่องการโยกตำแหน่งที่มีไปตามระเบียบอย่างเป็นทางการแล้วสิ
คำพูดคำจาไม่รื่นหู นับตั้งแต่วินาทีที่เธอได้ย้ายเข้ามานั้น ตนเองก็ถือได้ว่าเป็นผู้อำนวยการของแผนกออกแบบB แล้ว การรักษาการตำแหน่งหัวหน้าแผนกชั่วคราว คุณดีไซน์เนอร์เหมยคนนี้ก็ยังคงเป็นได้แค่รองผู้อำนวยการเท่านั้น
แต่สำหรับเหมยซานกับพฤติกรรมการกีดกันที่ทำไปอย่างสบายใจไร้กังวลเช่นนี้ ถึงขนาดที่ว่ากระทำการรุนแรงแบบไม่สนใจไยดีลูกน้อง สิ่งเหล่านี้ได้ทำให้เธอรู้สึกตกใจอยู่เล็กน้อย
อารมณ์พวกนี้ ทำให้ภายในใจของเวินหนิงรู้สึกตายด้านไปในทันที ริมฝีปากเธอยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย สีหน้าและรอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้ายังคงสงบนิ่ง การที่ได้ถูกโจมตีด้วยอารมณ์เมื่อสักครู่ราวกับว่าไม่โกรธเคืองอะไรเลยแม้แต่น้อย
แต่ว่ากันตามตรงแล้ว ก็โจมตีมาได้อย่างตรงจุดเลยทีเดียว
“ขออภัยด้วยค่ะ ที่รบกวนการประชุมของทุกท่าน คุณคือรองผู้อำนวยการเหมยสินะคะ งั้นฉันจะขอแนะนำตัวสักหน่อย ฉันคือเวินหนิง เป็นผู้อำนวยการของแผนกออกแบบB คนใหม่ค่ะ”
“แม้ว่าตอนนี้คุณจะดำรงตำแหน่งของฉันอยู่ แต่ฉันก็พึ่งจะมา ยังไม่คุ้นเคยกับเอกสารของแผนกออกแบบB มากเสียเท่าไหร่ การประชุมในครั้งนี้ ก็ให้รองผู้อำนวยการเหมยเป็นคนรับหน้าที่ไปก่อนชั่วคราวนะคะ”
ขณะที่เธอพูด ก็นั่งลงบนเก้าอี้แถวสุดท้ายที่ถูกจัดเอาไว้อยู่อย่างเรียบง่าย แล้วยิ้มออกมา “รองผู้อำนวยการเหมยคะ เชิญต่อได้เลยค่ะ”
ความเงียบเข้าปกคลุม ทั้งห้องประชุมเงียบเป็นเป่าสาก
บรรดาดีไซ์เนอร์ที่อยู่ทั้งสองด้านทั้งซ้ายและขวาค่อยๆ เหลือบตามองคนอื่นอย่างเงียบๆ แม้ว่าในใจจะโกลาหลไปหมด แต่สีหน้าที่ปรากฏอยู่ก็ไม่เผยความผิดปกติใดๆ ออกมาเลย
พวกเขาตกใจมากจริงๆ กลายเป็นว่าคนที่ถูกออกคำสั่งโดยตรง จะกลายเป็นถูกรังแกแบบนี้ไปได้อย่างไร ดูไปที่สีหน้าของผู้อำนวยการเหมย ช่างเป็นสีหน้าที่น่ากลัวเสียจริง
เหมยซานแทบจะระเบิดออกมาแล้ว แต่สำหรับสิ่งที่เวินหนิงได้กล่าวออกมานั้น ก็ไม่สามารถโต้แย้งออกมาได้แม้แต่คำเดียว
คำเรียกรองผู้อำนวยการคำนี้ เธอสวมมันไว้ตั้งกี่ปีมาแล้ว สำหรับคำว่า ‘รอง’ คำนี้นั้นก็ขยาดจนทนจะไม่ไหวแล้ว คนในแผนกB ต่างก็รู้งานแล้วเรียกเธอว่าผู้อำนวยการเหมย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก