ไม่ว่าถูกใครจับตัวไป คนที่อยู่เบื้องบนเป็นใครก็ให้คนไปทักทายสักหน่อย อย่างไรก็ตาม จับคนไปแล้วก็ดูแลให้ดีสะ รอเขากลับไปค่อยว่ากัน
หลังจากที่จัดการเรื่องพวกนี้แล้ว ลู่จิ้นยวนถึงจะรู้สึกผ่อนคลายลงบ้าง
แต่เขาไม่รู้เลยว่าคนที่เขาติดต่อไป ได้ทำในสิ่งที่เขาสั่งอย่างเร่งด่วนและตั้งใจ ทุกเรื่องที่ได้รับสั่งมาได้มอบหมายลงไปทำแล้ว
แต่คนที่ได้รับข่าวนั้นกลับได้รับโทรศัพท์อีกสายที่โทรเข้ามา ลังเลไปสักพัก ตัดสินใจยกเลิกเรื่องที่จะทำเมื่อสักครู่ไป
เวลาเดินต่อไปเรื่อยๆ
ไม่ว่าจะเป็นลู่จิ้นยวนที่รอขึ้นเครื่องอยู่ที่ต่างประเทศหรือจะเป็นเวินหนิงที่รอการถูกสอบสวนอยู่ที่ในเมืองตี้ตู ทุกวินาทีล้วนเหมือนเป็นการทรมาน
สภาพเวินหนิงในตอนนี้ไม่ดีมากนัก ใบหน้าซีดเผือด คิ้วขมวดเข้ากันแน่น
เธอรู้สึกว่าเวลานั้นได้ผ่านไปนานมาก ห้องสอบสวนก็ไม่แม้จะมีคนอื่นเดินเข้ามา มีแค่เธอคนเดียว และต้องทนกับแสงไฟที่สว่างจ้ากับเสียงที่ดังจนหูจะหนวก
สมองของเธอเหมือนจะเบิด ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่สมองของเธอนั้นวุ่นไปหมด ไม่สามารถคิดอะไรได้เลย
การทรมารด้วยวิธีนี้สามารถทำให้คนๆนึงเป็นบ้าได้จริงๆ
ภายใต้แสงสว่างอันเจิดจ้านั้น ตาของเธอรู้สึกแสบขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นทางด้านประสาทหรือทางจิตของเธอนั้นได้ล้ามากแล้ว แต่เสียงที่ดังอยู่นั้นทำให้เธอไม่สามารถที่จะหลับได้เลย ทรมานมากจริงๆ
เธอคิดมาตลอดว่าสิ่งที่ก่อนที่สองคนนั้นจะเดินออกจากห้องไปได้พูดนั้น บอกว่าจะใช้วิธีส่วนตัวในการลงโทษ เดิมเธอเห็นว่าในห้องสอบสวนนี้ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้น คิดว่าไม่มีอะไร
แต่พอตอนนี้กลับไปคิดอีกที รู้สึกว่าเธอนั้นมองโลกในแง่ดีเกินไป
การทรมานด้วยวิธีนี้ ไม่สามารถเห็นผลได้ในระยะเวลาอันสั้นหรอก ต้องรอไปนานๆ ความเจ็บปวดที่ได้รับนั้นไม่น้อยไปกว่าการที่ร่างกายได้รับความทรมานเลย
ในเวลาพรบค่ำ แสงรอบๆตัวเธอได้ดับลง เสียงที่วนรอบหูเธอนั้นก็หายไป เธอเปิดเปลือกออกเล็กน้อย
ประตูห้องสอบสวนที่ถูกปิดไปนานแค่ไหนก็ไม่รู้นั้นได้เปิดออก
เธอขมวดคิ้วแน่นและส่ายหัวเล็กน้อย สมองเธอกลับปวดขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้เธอรู้สึกอยากจะอาเจียน
ถึงเสียงจะหายไปแล้ว แต่ในหูของเธอก็ยังคงมีเสียงดนตรีนั้นวนอยู่ เหมือนก้องอยู่ในหู ยังคงได้ยินซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่สามารถที่จะหยุดมันได้
สายตาของเธอนั้นพร่ามัว แต่ยังสามารถที่จะมองเห็นอยู่ หนึ่งในผู้ชายสองคนตอนเช้านั้นในมือได้ถือเอกสารหนึ่งเดินเข้ามา แล้วมาเปิดตรงหน้าของเธอ
ปากของเขาได้พูดว่าอะไรสักอย่าง แต่นั้นกลับทำให้เธอรู้ว่าเธอไม่สามารถได้ยินอะไรแล้ว
ถึงเธอจะไม่ได้ยินว่าเขาพูดอะไร แต่ดูจากท่าทางของเขาก็สามารถรู้ได้ อีกฝ่ายอยากให้เธอนั้นเซ็นเอกสารตรงหน้า เธอหลับตาลง ไม่ดูก็รู้ว่าเอกสารนี้คืออะไร
เธอไม่มีทางที่จะเซ็นอยู่แล้ว หลังจากที่เธอหลับตาก็ไม่ลืมตาขึ้นมาอีก ทั้งผู้ชายที่สอบสวนนั้นด่าเธอแล้วเดินออกไปอีกรอบเธอก็ไม่ได้สังเกต
และแสงที่สว่างจ้านั้นได้เปิดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เสียงดนตรีก็ไ้ด้ดังขึ้นมาจนแสบหูอีกครั้ง
เวินหนิงที่รู้สึกว่าเวลาได้ผ่านไปนานมากแล้ว แต่แท้จริงนั้นพึ่งจะผ่านไปแค่หนึ่งวันหนึ่งคืนอยู่เลย
ในเวลาใกล้ค่ำนั้น ลู่จิ้นยวนได้ข่าวว่าสามารถบินกลับได้ก็ได้ขึ้นเครื่องสำเร็จ ถึงจะเป็นอย่างนั้น การที่จะกลับถึงเมืองตี้ตู ก็ต้องรอถึงแปดโมงของวันที่สอง
วันที่สอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก