บ่วงแค้นแสนรัก นิยาย บท 466

แค่ว่า ในเมื่อเวินหนิงไม่ต้องการที่จะพูดมากกว่านี้ ไป๋หลินยวี่จึงไม่ได้ถามไถ่เธอต่อ

เรื่องที่ผ่านไปแล้ว ถามอีกในตอนนี้ก็ไม่ได้ทำให้อะไรมันดีขึ้น

แม่ลูกทั้งสองเงียบไปพักใหญ่ๆ ไม่มีใครพูดอะไร แต่บรรยากาศที่สงบและกลมกลืนนี้ ทำให้ทั้งสองคนคิดถึงมันมาก

ผ่านไปไม่นาน ไป๋หลินยวี่ดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ เงยหน้าขึ้นมองเวินหนิง " เหอจื่ออันรู้หรือไม่ว่าหนูยังมีชีวิตอยู่ "

คิดไม่ถึงว่าจู่ๆไป๋หลินยวี่ก็เอ่ยถึงเหอจื่ออันขึ้นมา เวินหนิงผงะแล้วส่ายหัว

แม้ว่าเธอเคยคิดที่จะติดต่อกับเหอจื่ออัน แต่เบอร์โทรศัพท์มือถือเดิมของเขาและข้อมูลอื่นๆก็เปลี่ยนไปด้วย เวินหนิงก็เลยไม่คิดที่จะติดต่อเขาอีก

ในช่วงเวลาที่เธอลำบากที่สุด เหอจื่ออันเสียสละเพื่อเธอมามาก และให้ความช่วยเหลือเธอไม่น้อย ถ้าตอนนี้เขามีชีวิตของตัวเองแล้ว เธอก็ไม่อยากไปยุ่งวุ่นวายกับเขาอีก

" เขาได้เปลี่ยนข้อมูลการติดต่อของเขาไปหมดแล้ว แม่ก็ติดต่อเขาไม่ได้เหมือนกัน "

ไป๋หลินยวี่ก็ถอนหายใจ เมื่อได้ยินเช่นนี้ " หลังจากที่หนูประสบอุบัติเหตุ หนุ่มคนนี้มาหาแม่ แล้วคุกเข่าตรงหน้าแม่ทั้งคืน เขาบอกว่าเขาผิดต่อหนู เขาเป็นคนทำให้ลูกเป็นแบบนี้ "

คุกเข่าทั้งคืนเหรอ

เวินหนิงคิดถึงผู้ชายปากแข็งอย่างเขา คิดยังไงก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะทำเรื่องแบบนี้

การตายของเธอ อาจทำให้จิตใจของเขาได้รับผลกระทบไม่น้อย

" ถึงแม้ว่าเรื่องนั้นจะทำให้แม่เสียใจไม่น้อย แต่เห็นเขาเศร้าเสียใจมากขนาดนั้น แม่ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้อีก เพราะไม่ว่าอย่างไร ตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อให้ความช่วยเหลือกับเราสองแม่ลูกเขาเสียสละไปไม่น้อยเลย "

"แต่ว่า หลังจากนั้นไม่กี่วัน คนทั้งคนของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง หลังจากอยู่เป็นเพื่อนแม่ไม่กี่วัน ก็บอกว่ามีเรื่องสำคัญที่จะต้องไปจากที่นี่"

หลังจากที่เวินหนิงฟังเรื่องเหล่านี้จบ รู้สึกไม่สบายใจอย่างอธิบายไม่ถูก

เธออยากติดต่อกับเหอจื่ออันอย่างมาก บอกกับเขาว่าเธอไม่เป็นอะไร เขาไม่ได้ทำผิดอะไร ไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด

แต่ รู้สึกว่ามันยากมากเลย

" แต่ว่าก่อนที่เขาจะไป เขาได้หาแม่บ้านไว้ให้แม่คนหนึ่ง จนถึงทุกวันนี้เธอยังอยู่กับแม่อยู่ บางที หนูลองถามเธอดูก็ได้"

หลังจากที่ไป๋หลินยวี่พูดจบ เธอรู้สึกเหนื่อยล้าเล็กน้อย เวินหนิงเห็นเช่นนั้น รีบพยักหน้า " หนูรู้แล้วค่ะ หนูจะพยายามติดต่อเขาให้ได้ จะไม่ให้เขาจมอยู่กับความรู้สึกผิดอีกต่อไป คุณแม่เพิ่งจะเสร็จจากการผ่าตัด ดังนั้นควรพักผ่อนให้ดี อย่าปล่อยให้ตัวเองเหนื่อย "

ไป๋หลินยวี่พยักหน้า

เดิมที ตั้งแต่ป่วยอย่างกะทันหัน เธอก็ไม่ได้มีความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะว่าลูกสาวเสียไปแล้ว ส่วนลู่อันหรานที่อยู่บ้านตระกูลลู่ก็อยู่ดีเป็นสุข เธอไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้ว

แต่ตอนนี้ เมื่อเห็นเวินหนิงกลับมาแล้ว เธอก็ไม่อยากนอนรอความตายแบบนี้ ลูกสาวของเธอยังไม่มีความสุข จะให้เธอจะปล่อยมือได้อย่างไร

“ หนิงหนิง หลายปีที่หนูไม่อยู่นี่ ทรัพย์สินของตระกูลเวินยังคงถูกเก็บรักษาไว้ ถ้าหนูมีเวลา หนูไปทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์ให้เป็นชื่อของหนุ แม่ไม่มีแรงพอที่จะไปจัดการแล้ว หนูควรรับช่วงต่อแล้ว "

เวินหนิงคาดคิดไม่ถึงว่าไป๋หลินยวี่จะยังคงรักษา บริษัท และทรัพย์สินของตระกูลเวินไว้ได้

พยักหน้า " หนูเข้าใจแล้วค่ะ "

" รับ บริษัท มาแล้ว หนูผู้หญิงคนเดียวบางทีอาจจะไม่ต้องการดูแล สามารถขายออกไปได้ พอดีเลย แม่หวังว่าจะคืนเงินทั้งหมดที่ลู่จิ้นยวนใช้จ่ายในตัวแม่ให้หมด "

ไป๋หลินยวี่จับมือเวินหนิงด้วยแรงเล็กน้อย

เธอเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งมาโดยตลอด ย้อนกลับไปตอนนั้นเธอกับเวินฉีโม่ก็เริ่มต้นธุรกิจด้วยมือเปล่า ที่ญํ.สามารถอยู่ได้ถึงทุกวันนี้ก็เพราะความเข้มแข็งนี้

ตั้งแต่ที่เธอล้มป่วย เธอไม่คิดที่จะไปรักษามัน แต่กับโดนลู่จิ้นยวนไปหาเธอเจอ หลังจากนั้นส่งมารักษาที่นี่

ในตอนนั้น เธอไม่ต้องการความช่วยเหลือนี้ เพราะในใจเธอ ลู่จิ้นยวนเป็นคนบีบให้เวินหนิงต้องตาย

เมื่อต้องเผชิญกับศัตรู เธอไม่ต้องการเป็นหนี้เขา

เพียงแค่ว่าเธอป่วยมาก บวกกับคำพูดของลู่จิ้นยวน " หรือว่าท่านต้องการให้อันหรานเห็นคุณยายของเขาตายต่อหน้าต่อตาตั้งแต่อายุยังน้อยๆเหรอ

ท่านต้องการให้ผมเป็นคนบาปที่ฆ่าคุณยายแท้ๆของเขาใช่ไหม "

ไป๋หลินยวี่ถึงได้ยอม แค่ว่า ในใจเธอนั้นยังคงคิดที่จะคืนเงินที่ลู่จิ้นยวนใช้จ่ายในตัวเธอให้เขา

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ที่เธอยอมทุกข์ทรมาณอยู่อย่างงี้เพียงแค่ไม่มีคนเชื่อถือได้ แต่วันนี้เวินหนิงกลับมาแล้ว ไม่มีใครที่จะเหมาะสมกว่านี้อีก

"คุณแม่คะ……"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก