“ ถ้าเป็นเพียงแค่ว่าคุณอยากมาดูแลคุณแม่ของคุณที่นี้ ผมสามารถให้คุณลายาวได้ เรื่องที่บริษัท ผมจะจัดการให้ ”
เวินหนิงส่ายหัว
สำหรับลู่จิ้นยวนนี่ไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย เธอก็แค่ผู้อำนวยการดีไซเนอร์ที่เพิ่งจะเข้ารับตำแหน่งนี้ได้ไม่นาน ยังไม่มีผลงานอะไรก็หายตัวไปเป็นเวลานานยังงี้ ก็อาจจะเป็นขี้ปากของคนอื่นได้
เวินหนิงไม่สงสัยเลยว่าลู่จิ้นยวนจะไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ แต่ท้ายสุดแล้ว เธอก็แค่เป็นหนี้บุญคุณเขา
ในเมื่อคุณแม่ที่ป่วยหนักอยู่ทุกวันนี้ยังไม่ยอมติดหนี้บุญคุณเขาแม้แต่สตางค์เดียว เธอที่เป็นลูกสาว จะรับการดูแลพิเศษแบบนี้อย่างสบายใจได้อย่างไร
“ ไม่เป็นไรค่ะ โรคของคุณแม่ ใช่ว่าจะสามารถรักษาให้หายได้ในเวลาสั้นๆ ฉันต้องการออกจากตำแหน่งงานเป็นเวลานาน ฉันไม่อยากให้บริษัทต้องเสียหายเพราะฉัน”
ลู่จิ้นยวนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เวินหนิงยังคงพูดต่อก็เลยขัดจังหวะเขา
" ยิ่งไปกว่านั้น ฉันไม่ชอบบรรยากาศการแข่งขันที่รุนแรงแบบนั้น แต่ละคนมีอุบายกันทั้งนั้น ทำให้จิตใต้สำนึกของคนหายกันไปหมด "
เมื่อได้ยินเวินหนิงพูดแบบนี้ ชั่วขณะนั้นลู่จิ้นยวนก็ไม่รู้จะพูดยังไง
ถึงแม้ว่า รู้ดีว่าผู้หญิงตรงหน้านี้ ไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดีชิงงามอะไรพวกนี้ แต่เมื่อจู่ๆก็พูดว่าจะลาออก ก็ยังทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ
เขารู้สึกเสมือนว่า เวลาสั้นๆไม่กี่ชั่วโมง เวินหนิงเปลี่ยนไปไม่น้อย ความรู้สึกที่พูดไม่ถูก
" ถึงแม้คุณจะพูดแบบนี้ แต่ ... ผมจะรักษาตำแหน่งของคุณไว้ ถ้าคุณอยากกลับมาเมื่อไร สามารถกลับมาได้ทุกเมื่อ"
เมื่อเห็นลู่จิ้นยวนยืนกรานเช่นนั้น เวินหนิงก็ไม่ได้พูดอะไร
บริษัท เป็นของลู่จิ้นยวน เขาจะทำอะไร เธอไม่สามารถแทรกแซงได้
บรรยากาศระหว่างเขาทั้งสองค่อนข้างอึดอัด ในขณะที่ทั้งคู่เงียบเสียงโทรศัพท์มือถือของเวินหนิงก็ดังขึ้น
เป็นลู่อันหรานโทรเข้ามา
ตอนนี้ โรงเรียนอนุบาลเลิกเรียนแล้ว ลู่อันหรานกลับถึงบ้าน พบว่าเวินหนิงไม่อยู่ ลู่จิ้นยวนก็ไม่อยู่ ทำให้ลู่อันหรานไม่พอใจเล็กน้อย
เป็นไปได้ไหมที่พวกเขาหนีออกไปเที่ยวกันสองคน แล้วทิ้งตัวเองไว้ที่บ้าน
"ฮัลโหล อันหราน "
เวินหนิงฟังน้ำเสียงที่ไม่พอใจของลู่อันหรานออก เดิมทียังรู้สึกจิตใจหดหู่เล็กน้อย พอได้ยินเสียงของลู่อันหรานก็ผ่อนคลายลงมาบ้าง
ไม่ว่าจะยังไง ได้ยินเสียงที่อ้อนและทรงพลังของลู่อันหราน ทำให้เธอรู้สึกมีความหวังในชีวิตขึ้นมา
“ คุณแม่ครับ คุณแม่กับคุณพ่อไปไหนครับ
ผมกลับมาแล้ว ทำไมไม่มีใครอยู่เลย คุณแม่กับคุณพ่อหนีออกไปเที่ยวด้วยกันสองคนใช่ไหม แล้วตั้งใจลืมผมไว้ที่บ้านหรือเปล่า "
ลู่อันหรานพูดอย่างออดอ้อน
เวินหนิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ จริงๆแล้ว คุณยายของหนูป่วย และเพิ่งจะผ่าตัดเสร็จ พวกเรามาเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลน่ะ”
เมื่อลู่อันหรานได้ยินดังนั้น รู้สึกกังวลใจขึ้นมาทันที“ อะไรนะ
คุณยายไม่สบายเหรอ
ทำไมคุณแม่ไม่บอกผม ผมจะรีบไปตอนนี้เแหล่ะ "
ถึงแม้ว่าลู่อันหรานไม่ได้อยู่กับไป๋หลินยวี่นานสักเท่าไร แต่ไป๋หลินยวี่ก็รักเขามาก เพราะเขาเป็นลูกคนเดียวของลูกสาว ทุกครั้งที่เจอหน้ากัน ก็จะให้สิ่งที่ดีที่สุดที่เธอมีให้กับเขา
ลู่อันหรานไม่ใช่เด็กที่ไม่มีความรู้สึก พอได้ยินว่าไป๋หลินยวี่ไม่สบาย ก็กังวลขึ้นมาเป็นเรื่องธรรมดา
" ตอนนี้คุณยายหลับไปแล้ว ไว้วันอื่นก็แล้วกัน"
ลู่จิ้นยวนส่ายหัว เดิมทีเขาวางแผนว่าจะพาลู่อันหรานมาเยี่ยมไป๋หลินยวี่ด้วย เพราะเธอเป็นยายแท้ๆของเด็ก จะให้เขานั่งอยู่เฉยๆได้อย่างไร แต่ไป๋หลินยวี่กลัวว่าจะทำให้เด็กตกใจกลัวเมื่อเห็นเธอผอมจนดูไม่ได้แบบนี้ ก็เลยไม่ได้ตอบตกลง
ลู่อันหรานได้ยินเช่นนี้ “ ถ้างั้นรอให้คุณยายอาการดีขึ้นมาหน่อย คุณแม่จะต้องพาผมไปเยี่ยมคุณยายนะครับ ”
ผู้ใหญ่ทั้งสองคนตอบตกลง
เวินหนิงคิดสักพัก พอดีเลย เธอยังมีเรื่องบางอย่างที่ต้องทำ ลู่จิ้นยวนอยู่ที่นี่ไม่สะดวก " อันหรานอยู่บ้านคนเดียวจะต้องน่าเบื่อและเหงา คุณกลับไปก่อน ไปอยู่เป็นเพื่อนแก วันนี้ฉันจะอยู่เฝ้าคุณแม่ ดูแลแม่ อย่างงี้ฉันจะได้วางใจหน่อย ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก